รื้อหนังสือเก่าๆมาปัดฝุ่น ไปเจอหนังสือที่ระลึกครบรอบ25ปี นรต.26 เมื่อเดือนมีนาคม2537
รวมๆแล้วเป็นหนังสือทรงคุณค่าอีกเล่มในประวัติศาสตร์ตำรวจไทย เป็นหนังสือรวมรุ่นนรต.26และครอบครัวที่เติบโตในชีวิตราชการในเวลาต่อมา กลายเป็นตำนานสีกากีอีกหลายท่าน
โดยเฉพาะบทความหน้าสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ บันทึกเหตุการณ์สำคัญน่าสนใจมาก ลองอ่านให้จบแล้วจินตนาการเอานะครับ
ความทรงจำในชีวิต
20 ปีเศษที่ผ่านมา…
ชีวิตผ่านร้อน…ผ่านหนาว…ทุกข์…สุข…หลากหลาย
บางครั้งบางครามากมายจนเกินจะทน…
นรต.26 ทุกผู้ทุกนาม ทั่วชนบทชายแดนไทย ที่เราไปรับใช้บ้านเมืองและสังคมเครื่องแบบสีเขียวครึ้ม สวมหมวกแบเร่ย์ดำ
เพื่อนเราหลายต่อหลายคน ได้เอาเลือดเนื้อร่างกาย ถมทับปฐพีเยี่ยงดาวเงินที่ทรงคุณค่า…ที่ลับหายไปอย่างไม่มีวันกลับคืนมา ท่ามกลางความเศร้าสร้อย โหยหาของเพื่อน ๆ และญาติอันเป็นที่รัก เพื่อให้ธงไตรรงค์โบกสะบัด อยู่คู่แผ่นดินสยามตลอดไป
จากร้อยตำรวจตรี…ถึงพันตำรวจเอก…เพื่อน ๆ ต่างแบกภาระหน้าที่ภารกิจที่แตกต่างกัน ก้าวเดินไปตามวิถีชีวิต…ต่างตำแหน่ง…ต่างพื้นที่ของแต่ละคน
…เพื่อนผมคนหนึ่ง…เราเรียนเตรียมทหารด้วยกัน
…เมื่อเรียนปีที่ 2…เขาเป็นหัวหน้าตอนที่ผมสังกัด
…แยกเหล่า…เราก็มาเรียนตำรวจเหมือนกัน
…เรานอนอยู่ใกล้กัน…ปลายเท้าห่างกันเพียงวาตลอด 4 ปี
…วันหนึ่งเวลาแดดร่มลมตก…ประมาณเดือนมกราคมของปี พ.ศ. 2516 บนกองร้อยของนักเรียนนายร้อยตำรวจชั้นปีที่ 4
…เป็นช่วงของการพักผ่อน…ผมนั่งอยู่ที่เตียงนอนของผม
…ผมมีปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ ประจำตัวขนาด.357 ที่ใช้ฝึกยิงปืน และพกประจำตัวเมื่อเวลาไปฝึกงานตามสถานี
..เพื่อนผมคนนั้น…กำลังยืนจัดเสื้อผ้าในตู้ของเขา…ห่างผมไปประมาณ 2.5 เมตร
…ผมชักปืนออกมาด้วยมือขวา…แล้วผมก็ยื่นขึ้นเหยียดมือไปข้างหน้า ประคองด้ามปืนบนอุ้งมือซ้ายตามแบบฝึก…ผมเล็งปลายกระบอกปืนไปที่ศีรษะของเขาพร้อมกับขึ้นนกปืน…กริ๊ก
…ผมยิงปืนแม่นหรือเปล่าก็ไม่รู้…แต่ผมก็มีเหรียญเงินปืนสั้น นรต.และ เหรียญทองปืนยาวกรมตำรวจประดับเครื่องแบบ
…เขาหันมาที่ผม…พร้อมกับตะโกนว่า…”พัฒน์…อย่า…”
…สวรรค์…หรือนรกเท่านั้น…ที่จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวินาทีต่อไป…
หากเพียงผมแตะไกเบา ๆ
…จากการฝึกฝนจนเป็นสัญชาติญาณ..กฏของความปลอดภัยการ”ดราย…ฟาย” อย่าเล็งไปที่เป้ามีชีวิต…
ทันใดนั้นผมเบนมือขึ้นไปเหนือศีรษะแล้วเหนี่ยวไก
“เปรี้ยง…”
โอ…พระเจ้า…เสียงสั่นละท้านไปทั้งกองร้อย…พร้อมกับการกระจุยกระจายของเพดาน
…ทุกคนตกใจ…ที่ตกใจมากก็คงเป็นผม…และเขาคนนั้น…
ผมต้องกล่าวขอโทษขอโพยยกใหญ่กับการล้อเล่นเพื่อน…จนเกือบผิดพลาดของผม…ที่ขาดการตรวจสอบกระสุนในรังเพลิงก่อน
…ใครจะรู้ว่า…เพื่อนผมคนนั้นในวันนี้…คือผู้ที่ยิ่งใหญ่ด้านเกียรติยศและชื่อเสียง…ใครจะรู้ว่า…เพื่อนผมคนนั้น คือผู้ที่สร้างมิติใหมให้แผ่นดินสยาม
…วันนี้…ที่ทุกคนต่างปรบมือให้…กับความสำเร็จส่วนตัวอันสูงส่ง…ส่งผลนำความสำเร็จ…นำคุณประโยชน์มาสู่ประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง…
ที่สำคัญเขาเป็นตัวแทนสามพราน และจักรดาว…ในแวดวงยุทธจักรภาคเอกชน
…หากเพียงผมแตะนิ้วชี้เบา ๆ เมื่อปีนเล็งตรงศีรษะ…ในวันนั้น…วันนี้คงไม่มีเขา
“พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร”…
หวานใจของคนที่บ้านทรายทองที่ชื่อ “พจมาน”…และวันนี้ก็คงไม่มีผมแน่นอน…
“กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย…. อัตราโทษสูงสุด 10 ปี…ผมคงเป็นแค่หัวหน้ายามของรปภ.ไจแอ้นท์
…เพื่อนรัก…นี่คือความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตของผม
…ที่ นรด.26 เกือบสูญเสียเพื่อนที่แสนดี
…ที่ประเทศชาติเกือบจะสูญเสียทรัพยากรบุคคลอันทรงคุณค่าอนันต์
…20 ปีเศษที่ผ่านมา…ชีวิตผ่านร้อน…ผ่านหนาว…ทุกข์สุข…หลากหลาย
…เพื่อนต่อเพื่อน…ต่างกระทบกระทั่งใจกันไปมากมายต่างเหตุ…ต่างผล
…ที่ผ่านมา…ความหมางใจ…ขอให้ผ่านไป
…คณะกรรมการรุ่นขอเพียงว่า…นับแต่นี้ไปขอให้มีคำว่า….เพื่อนๆ …ประสานใจมีน้ำใจให้แก่ พวกเรา…เราทั้งมวล
ประพัฒน์ ศิริวัฒน์
——————————————————————-
ครับ..นี่คือบันทึกหน้าสุดท้ายของหนังสือครบรอบ25ปี นรต.26 เมื่อปี 2537หรือเมื่อ30ปีที่ผ่านมาในขณะที่ทักษิณ ยังมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอน คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในอีก7ปีต่อมา
ส่วนคนเขียน ประพัฒน์ ศิริวัฒน์ ยังยศพ.ต.อ. ตำแหน่งช่วยราชการสำนักงานตำรวจภูธรภาค4
เป็นบันทึกหน้าสุดท้ายถึงเหตุการณ์ที่เกือบจะลบชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”ไปตั้งแต่51ปีที่แล้ว
เฮียเก๋ 26/5/67