อีไล รอธ ผู้กำกับสายโหดเลือดสาดที่เพิ่งมีงานสยดสยองอย่าง Thanksgiving หรือ “คืนเดือดเชือดขาช็อป” เล่าเรื่องความวุ่นวายของของฆาตกรโรคจิตที่ออกมาไล่ล่าสังหารผู้คนในเทศกาลแบล็คฟรายเดย์ เมืองพลีมัธ รัฐแมสซาชูเซตส์ ออกมาให้ชมเมื่อปลายปีที่แล้ว
เรียกว่ายังไม่ทันครบปีผู้กำกับหนุ่ม อีไล รอธ ก็มีงานชิ้นใหม่มาให้ชมกันอีกแล้ว กับเรื่อง Borderlands หรือ “แดนล้น คนปล้นจักรวาล”ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ดัดแปลงจากเกมยิงปล้นสะดมสุดฮิตที่พัฒนาโดยค่าย Gearbox Software และ 2K
เรียกง่าย ๆ ว่า Borderlands คือภาพยนตร์ไลฟ์ แอคชั่น ที่ใช้คนแสดง
ซึ่งจริง ๆ แล้วการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลานานหลายปี นับตั้งแต่ประกาศสร้างครั้งแรกในปี 2563 ทว่าการผลิตงานก็เป็นไปอย่างยากลำบาก ด้วยเหตุผลนานัปการ แต่ในที่สุดภาพยนตร์แอคชั่น–ไซไฟเรื่องนี้ก็ออกมาปรากฏสู่สายตาผู้ชมในปีนี้
เนื้อหาว่าด้วยเรื่องของเหล่านักล่าสมบัติที่มาผจญภัยบนดวงดาวที่ชื่อ“แพนโดรา” อันสุดแร้นแค้น รกร้างว่างเปล่า เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตอันตรายแต่ถึงจะเป็นแดนเถื่อน ก็มีนักล่าสมบัติแห่แหนกันมาตามหา “ห้องนิรภัยโบราณ” ของชาวเผ่าเอริเดียน ซึ่ง “ลิลิธ” รับบทโดย เคท บลานเชตต์ นักล่าค่าหัว ได้ถูกว่าจ้างจาก “แอตลาส” (เอ็ดการ์ รามิเรซ) หัวหน้าองค์กรแอตลาสผู้ผลิตอาวุธยักษ์ใหญ่และมั่งคั่ง ให้เดินทางมายังแพนโดรา
เพื่อชิงตัว “ไทนี ทีนา” (อารีอานา กรีนแบลตต์) ลูกสาวของเขากลับคืนมาจาก “โรแลนด์” (เควิน ฮาร์ท) อดีตทหารรับจ้าง โดย “โรแลนด์” มีผู้ช่วยคือ “ไซโค ครีก” (ฟลอเรียน มันทีอานู) หนุ่มโรคจิตร่างบึ้ก
https://www.youtube.com/watch?v=t7BB3mMAN2c
แม้ว่า “ลิลิธ” จะไม่อยากหวนคืนดาวแพนโดราบ้านเกิด แต่ด้วยตัวเลขค่าจ้างงาม เธอเลยตัดสินใจคืนถิ่นที่เคยอาศัยอยู่กับมารดาที่ล่วงลับไปแล้ว และก็พบว่าการนำตัว “ไทนี ทีนา” กลับไปส่งให้ “แอตลาส” ไม่ใช่เรื่องง่าย
ทว่าหลังจากได้ประฝีมือกัน จนกระทั่งจับพลัดจับผลูมาร่วมสู้กับกองทัพของแอตลาส “ลิลิธ” ก็พบว่า “โรแลนด์” และ “ครีก” ไม่ได้เป็นคนชั่วร้าย และ “ไทนี ทีนา” ก็ไม่ใช่เด็กธรรมดา เธอมีพิษสงรอบตัว
ที่สำคัญคือเธอเป็นหนึ่งใน “กุญแจสำคัญ” ที่จะใช้ไขไปสู่ห้องนิรภัยอันเป็นตำนานของชาวเผ่าเอริเดียน
ในที่สุด “ลิลิธ” ก็ตกบันไดพลอยโจนร่วมตะลุยและเดินทางไปกับ “โรแลนด์”, “ครีก”, “ไทนี ทีน่า” รวมถึงเจ้าหุ่นยนต์แสนรู้ “แคลปแทรป” ที่พากย์เสียงอย่างสนุกโดย แจ็ค แบล็ก เพื่อไปตามหา “แทนนิส” สวมบทโดย เจมี ลี เคอร์ติส นักวิทยาศาสตร์ผู้รอบรู้ถึงที่ซ่อนของกุญแจที่เหลืออยู่และตำแหน่งของห้องนิรภัย
ถ้าเรื่องราวของ Borderlands จะจบที่การไขประตูห้องนิรภัย ก็คงไม่มีอะไรตื่นเต้น เพราะผู้ชมเดาทางได้ออกอยู่แล้ว
หนังได้ใส่ปมบางอย่างซ่อนไว้และในหลายฉากก็จะเห็นว่ามีการวางร่องรอย ที่จะนำตัวละครและผู้ชมไปพบกับความจริงที่อยู่เบื้องลึกเบื้องหลัง ทำให้เข้าใจถึงการใส่ตัวละครบางตัวเข้ามา และตัว “ลิลิธ” เองก็ได้ปลดปล่อยเรื่องราวติดค้างในใจ ทั้งยังปลดปล่อยตัวตนและศักยภาพที่แท้จริงของเธอออกมาอย่างสุดมหัศจรรย์
การได้ดาราระดับเอ-ลิสต์มาโลดแล่นในงานชิ้นนี้ ถือว่าใช้งานคุ้มค่าอย่างมาก แสดงให้เห็นว่านักแสดงฝีมือพระกาฬอย่าง เคท บลานเชตต์สามารถพาภาพยนตร์ที่บทออกแนวกะปลกกะเปลี้ยไปถึงเส้นชัยได้ ทั้ง ๆ ที่งานที่สร้างมาจากเกมต่อสู้อันสุดมัน น่าจะทำได้ตื่นระทึกกว่านี้.
Blue Bird 10/8/67
