นาทีนี้เอ่ยชื่อ “สารวัตรแจ๊ะ” คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จัก
นายตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบของชุดสืบสวนนครบาล มาดเซอร์สวมหมวกไหมพรมสีเทา ใส่แมสก์สีดำ สวมแว่นตาปกปิดใบหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ ออกตะลุยเหล่าร้ายในสไตล์นิ่งๆ แต่ดุดันด้วยคำพูดเรียบๆ
พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ นรต.รุ่น 69
จัดเป็นนักสืบฝีมือดีแห่งสืบนครบาล เป็นกำลังสำคัญช่วยคลี่คลายในหลายคดี เช่น คดีน้องชมพู่ ณ บ้านกกกอก คดีทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยการปลอมตัวเข้าไปอยู่ในแก๊ง จับกุมไฮโซล่วงละเมิดเหยื่อสาว คดีอนาจารเด็ก ปิดคดีช่างกลองค์กรเถื่อนและคดีอื่นๆ อีกมากมาย
“สารวัตรแจ๊ะ” เป็นนายตำรวจหนุ่มเลือดใหม่ ลูกศิษย์เอก ผู้การจ๋อ-พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น.เจ้าของหมวกไหมพรมที่สารวัตรแจ๊ะใส่ อีกทั้งเป็นผู้ปลุกปั้นถ่ายทอดดีเอ็นเอ “หมาล่าเนื้อ”จนเกิดผลงานการจับกุมคดีสำคัญๆ อย่างมากมาย
เส้นทางชีวิตราชการสารวัตรแจ๊ะ หลังพ้นรั้วสามพราน บรรจุรับราชการเมื่อวันที่ 7 พ.ย.59 ในตำแหน่ง รองสว.(สอบสวน) สน.โชคชัย ปี 62 ย้ายมาเป็น รองสว.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการ กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.)
ที่นี่เอง เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบนายตำรวจนักสืบอย่าง พล.ต.ต.ธีรเดช เมื่อครั้งเป็นผกก.อก.บช. ปส. ที่ยับยั้งใบลาออกของผู้กองแจ๊ะไว้ หลังเห็นไหวพริบปฏิภาณของการเป็นนักสืบอยู่ในตัว
ปี 2564 รองสว.กลุ่มงานการข่าวฯ บก.ข่าวกรองยาเสพติด บช.ปส. ขึ้น สว.(สอบสวน) บก.น.4 กระทั่งวันที่ 9 ธ.ค.66 สไลด์มามาเป็น สว.กก.3 บก.สส.บช.น.
วันว.เวลาน.ตรงกัน ได้พบตัวเป็นๆสารวัตรแจ๊ะ ไม่พลาดคุยถึงเรื่องปืนเขี้ยวเล็บคู่กายที่ใช้กำราบโจร
“กระบอกแรกที่ใช้ Glock 19 คือตอนเป็นนักเรียน ก็ซ้อมยิงด้วยปืนกระบอกนี้ แล้วตอนไปอบรมหลักสูตรที่อเมริกา ก็ฝึกยิงด้วยปืนนี้
คือตอนเรียนจบเขาให้เลือกซื้อ ผมไม่ได้มีเงินอะไรมากแล้ว Glock 19 เราซ้อมมาตลอด เลยเลือกใช้เพราะมันเข้ามือที่สุด ซื้อตอนกำลังจะจบโรงเรียนนายร้อย เขาก็ให้ซื้อปืน…”
สารวัตรแจ๊ะเริ่มก่อนหยิบปืนคู่ใจออกมาให้ชม
ที่ใช้ที่ชอบเพราะเรียนมาด้วยปืนกระบอกนี้ ชักปืนออกมาอะไรอย่างนี้มันเข้ามือ เลยคิดว่าถ้าไปใช้ปืนอื่นอาจจะไม่ถนัด เป็นเรื่องของเสี้ยววินาทีที่จะตัดสินใจ เลยคิดว่าใช้ที่เราฝึกมาดีกว่า ถ้านับระยะเวลาก็สิบกว่าปีใช้แต่กระบอกนี้ล่ะครับ
ถ้าถามว่าคิดจะเปลี่ยนปืนไหม ก็คิดอยู่บ้างแต่ว่ามันแพง อย่างอื่นก็เคยยิง ลูกน้องเอามาให้ลอง แล้วมันชักยังไง ปลดล็อกยังไง มันแบบเวลาเสี้ยววินาทีไม่ทันหรอกครับ แต่อันนี้มันเป็นสิ่งที่เราถนัด แค่นี้เอาอยู่ ก็ซ้อมยิงอยู่ตลอด ล่าสุดผู้การจ๋อเพิ่งส่งไปซ้อมที่หน่วยอรินทราช
แต่ถ้าไปจับงานยาเสพติดก็จะใช้ปืนยาวของหลวง ขนาด.556
หลักใช้ปืนสำหรับผมไม่ตายตัว คือที่อาจารย์ปั๊ด(พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผบ.ตร.) ส่งไปฝึกที่ประเทศสหรัฐฯ เขาจะให้เป็นสถานการณ์ๆแล้วจะให้ตัดสินใจจะยิงไม่ยิง มันไม่ตายตัว สมมติสถานการณ์แบบนี้จะต้องยิงก็จะถูกสอนให้ต้องยิง ต้องยิงๆ แล้วถ้าสถานการณ์นี้ ยิงไม่ได้ก็ยิงไม่ได้ แบบนี้มันไม่ตายตัว
ถือปืนเวลาเข้าจับกุมคนร้ายตลอดเพราะเป็นยุทธวิธี แต่ถึงปัจจุบันยังไม่เคยยิงสู้กับคนร้าย มีแต่ยิงขู่ ยังไม่มีวิสามัญ
รุ่นผมแทบจะไม่มีการยิง มันเป็นเรื่องของยุคสมัย คือนักสืบยุคใหม่ไม่สามารถจะมีประสบการณ์การทำงานในบางเรื่องเหมือนนักสืบยุคก่อน ยิ่งเรื่องของการใช้กำลังหมายถึงการใช้อาวุธ
พูดง่ายๆสถานการณ์ยิงน้อยมาก เพียงแต่ว่าเรามีการซ้อมยุทธวิธีไว้ตลอดไว้รับมือเวลามีเหตุ เราก็ต้องเอาให้ได้
เฮียเก๋15/9/67
