วันที่ 11 ต.ค.67 ที่ หน้าอาคารกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รองผบก.อก.บช.ภ.6.ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี “ดิไอคอน กรุ๊ป” ว่า
ขณะนี้มียอดผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 163 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 65 ล้านบาท ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ สคบ. นำกำลังเข้าตรวจสอบสำนักงานหรือออฟฟิศของบริษัทดังกล่าว เพื่อค้นหาข้อมูลการทำธุรกิจ รวมถึงตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่บริษัทดังกล่าว 15 รายการ หลังจากนี้ตำรวจ ปคบ.จะนำตัวอย่างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจพิสูจน์ต่อไป
“จากแนวทางสืบสวนทราบว่าบริษัทดังกล่าว มีผลประกอบการบางปีสูงถึง 5 พันล้านบาท ทั้งที่มีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายเพียง 14 รายการ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ายอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้สอดคล้องกับเงินรายได้บริษัทหรือไม่ และ มีผลิตภัณฑ์ไปให้ประชาชนขายจริงหรือไม่
นอกจากนี้ตำรวจ ปคบ. ยังได้นำบัญชีธนาคารของผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท และ กลุ่มดาวไลน์ กว่า 120 บัญชี ส่งให้กับ ปปง. ช่วยตรวจสอบ วิเคราะห์หาธุรกรรมต้องสงสัยต่างๆ”
พ.ต.อ.อุเทน กล่าวอีกว่า คดีนี้ ผบ.ตร.กำชับให้เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้บริหารและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องของดิไอคอนกรุ๊ป ในความผิด “พ.ร.ก.กู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกง ,ฉ้อโกงประชาชน และ ฟอกเงิน” คาดว่าจะชัดเจนภายใน 48 ชั่วโมง
ส่วนเรื่องทรัพย์สินนั้นจากแนวทางสืบสวนพบว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์ เคลื่อนย้าย หรือ ผ่องถ่ายยาก จึงไม่ได้กังวล เชื่อว่าสามารถตรวจยึดเฉลี่ยคืนผู้เสียหายได้
“ธุรกิจขายตรง กับ ธุรกิจตลาดแบบตรง สามารถขออนุญาตดำเนินกิจการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งในเคสนี้เป็น ธุรกิจตลาดแบบตรง คือการทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านออนไลน์ หากปฏิบัติถูกต้องก็ไม่ผิดกฎหมาย แต่ธุรกิจเหล่านี้จะมีเส้นบางๆ กั้นกลางกับคำว่า แชร์ลูกโซ่ ซึ่งต้องมาดูว่าผลิตภัณฑ์เขามีมาตรฐานหาซื้อได้ตามท้องตลาดเหมือนสินค้าทั่วไปหรือไม่
รวมไปถึงวิธีการขาย เป็นการขายด้วยการใช้วิธีโปรโมท หรือ เป็นการดำเนินธุรกิจในลักษณะระดมทุน หากเป็นระดมทุน หรือ มุ่งเน้นโฆษณาชวนเขื่อ ไม่ได้มุ่งเน้นขายคุณภาพสินค้า จะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ไม่ใช่ตลาดตรง”
พ.ต.อ.อุเทน กล่าวอีกว่า ช่วงบ่ายวันนี้ คณะทำงานจะนัดประชุมกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลัง เพื่อหารือเกี่ยวกับการตั้งข้อหาผู้กระทำผิดให้ครบถ้วน จากนั้นช่วงเย็นจะหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่าคดีดังกล่าวเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ถ้าหากเป็นคดีพิเศษ ตำรวจเองจะยังไม่ปล่อยมือ พร้อมประสานข้อมูลและอยู่ทำงานร่วมกับทางดีเอสไออย่างต่อเนื่อง เพื่อลดช่องโหว่ของคดี ทั้งนี้เบื้องต้นได้มีการประสานข้อมูลร่วมกันไวับ้างแล้ว”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลแรกในคดีที่จะถูกออกหมายจับคือใคร และ ในส่วนของศิลปินดารา จะมีการออกหมายเรียกมาเข้าพบพนักงานสอบสวนหรือไม่ พ.ต.อ.อุเทน ตอบว่า สำหรับคดีนี้ยืนยันว่าจะดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่มีการออกหมายเรียก แต่จะเป็นการออกหมายจับเลย เพราะถือเป็นคดีที่มีอัตราโทษเกิน 3 ปี
ขอเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง จะชัดเจน เช่นเดียวกับเรื่องการเสียภาษี ทางสรรพากรได้มีการตรวจสอบเป็นเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะมีการแถลงรายละเอียดในวันอังคารหน้าที่จะถึงนี้ ถึงตอนนั้นจะรู้ว่ารายละเอียดยอดขายของบริษัทตรงหรือสอดคล้องกับรายได้ของบริษัทหรือไม่
ทั้งนี้เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1. บก.ป. สั่งการพ.ต.ต.ศษฏพงศ์ สิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ปคบ. นำกำลังร่วมกับ เนายวิธิเนศวร์ เนียมมีศรี นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ (สคบ.) พร้อมคณะทำงาน สคบ.เข้าตรวจสอบบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ถ.รามอินทรา แยกซอย 42-46 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ใช้เวลากว่า 2 ชม.
สำหรับการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ได้ตรวจสอบเอกสารต่างๆ ของบริษัท รวมทั้งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท ก่อนจะนำผลิตภัณฑ์ ของดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัดรวม 14 รายการ ประกอบด้วย BOOM COCOA , ROOM COFFEE กาแฟเสริมสร้างภูมิต้านทาน ,ICON MEAL อาหารควบคุมหรือลดน้ำหนัก , BOOM GLUTA SHOTS, BOOM Collagen, , Room fiberry ช่วยดีท็อกซ์ร่างกาย ขับสารพิษ,
ยาสีฟัน Boom Nutrition Toothpaste, Boom D-MAX เม็ดฟู่ชะลอวัย BOOM IZ บำรุงดวงตา,icon face เซรั่มบำรุงผิว , ,icon face iserum ,vitamin c complex, ,icon face exo cream ,ZIP อาหารเสริม นำส่งไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบว่าได้มาตราฐานหรือไม่
