ตำรวจสังขละบุรี ตามรวบ 25 เมียนมาหลบหนีเข้าเมือง
วันนี้ 5 พ.ย.67 พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ต.ประดิษฐ์ แร่เพชร สว.ธร.ฯ รรท.สวป.สภ.สังขละบุรี พร้อมชุดเฉพาะกิจ (ปะ ฉะ ดะ) สายตรวจรถยนต์ ร้อยเวร 20 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจน้ำเกิ๊ก เจ้าหน้าที่ ตชด.134 เจ้าหน้าที่ ทหาร ฉก.ลาดหญ้า เจ้าหน้าที่ปกครอง
ร่วมกันจับกุมชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองชาวเมียนมา 25 ราย จับกุมได้ที่บริเวณชายป่าหลังจุดตรวจร่วมน้ำเกิ้ก หมู่ 8 ตำบลหนองลู อำเภอ สังขละบุรี จังหวัด กาญจนบุรี
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวว่าเมื่อค่ำวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ตำรวจสภ.สังขละบุรีประจำจุดตรวจร่วมน้ำเกิ้ก บูรณาการกำลังร่วมกันออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบที่บริเวณชายป่าหลังจุดตรวจร่วมน้ำเกิ้ก หมู่ 8 ต. หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
พบเห็นบุคคลมีลักษณะคล้ายกับบุคคลต่างๆด้าวนั่งรวมกลุ่มอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัว และขอตรวจสอบบัตรประจำตัวหรือเอกสารใดๆ ที่แสดงการอนุญาตให้เข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรไทยของบุคคลทั้งหมด
พบนายติ๊ก ไม่มีชื่อสกุล สามารถแสดงบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน พักอยู่บ้านเลขที่177 หมู่ 3 ต.หนองลู อ. สังขละบุรี จ. กาญจนบุรีและผู้ต้องหาที่ 2-24 ไม่สามารถแสดงเอกสารสำคัญประจำตัวหรือเอกสารการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ และผู้ต้องหาที่ 2-24 นั้นไม่สามารถสื่อสารหรือเข้าใจภาษาไทยได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งหมดมาที่ สภ.สังขละบุรี และขอให้นายปลาย ไม่มีชื่อสกุล พ่อบ้านทำความสะอาด สภ.สังขละบุรีช่วยเป็นล่ามแปลภาษา แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาที่ 1 ทราบว่าเขาได้กระทำผิดฐานซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม
แจ้งให้ผู้ต้องหาที่ 2 – 24 ผ่านล่ามแปลภาษาให้ทราบว่าพวกเขาได้กระทำผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า จากการสอบถามนายติ๊ก ผู้ต้องหาที่ 1 รับสารภาพว่า รับแรงานต่างด้าวมาจากปากทางหมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น ติดกับแนวชายแดนไทย – เมือนมา เพื่อนำไปส่งบริเวณสวมส้มโอ หมู่ 8 ต. หนองลู อ. สังขละบุรี จ. กาญจนบุรี แล้วพาเดินอ้อมหลังจุดตรวจร่วมน้ำเกิ้ก โดยจะได้รับค่าจ้าง 200 บาท ต่อคน หลังส่งเสร็จ
จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 2 – 24 ผ่านล่ามแปลภาษาได้ให้การว่ารับสารภาพว่าพวกตนได้ลักลอบเข้ามาในราชอามาจักรไทย โดยพวกตนได้ติดต่อผ่านนายหน้าชาวเมียนมาเพื่อที่จะเข้าไปทำงานในพื้นที่ตอนในของประเทศ และจะจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าดังกล่าวเมื่อไปถึงยังพื้นที่ตอนในของประเทศไทยและไม่ทราบว่าจะต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินเท่าใด
จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
