กรณีคนร้ายขี่ รถ จยย. ก่อเหตุใช้อาวุธปืน ยิงนายนราวิช อายุ 19 ปี นศ. ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย สาขาเทคโนโลยีโลจิสติกส์และการจัดการระบบขนส่ง กระสุนทะลุหนน้าอก 2 นัด อาการสาหัสอยู่บนฟุตปาธ นำตัวส่งรักษา รพ.ตำรวจ ภายหลังอาการปลอดภัยเหตุเกิด ใกล้ซอยจุฬา ฯ 12 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ กทม. เมื่อเวลา 22.50 น.วันที่ (29 ม.ค.68)
ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 5 มี.ค.68 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น.
สั่งการเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล ร่วมกับ กองกำกับสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล (กก.สส.บก.น. 6) เปิดปฎิบัติการ “ล้างบางแบดบอย 2025” เข้าตรวจค้น 19 จุด 10 เป้าหมาย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ สมุทรปราการ
จับกุมทั้งคนชี้เป้า-มือปืน และผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมด 9 ราย พร้อมของกลาง เป็นรถยนต์ กระบะตู้ทึบ 2 คัน เป็นรถที่ใช้ขน รถ จยย. คันก่อเหตุไปซุกซ่อน และนำไปจอดทิ้งไว้ ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา, รถเก๋งที่คนร้ายใช้หลบหนี และ รถ จยย. รวม 4 คัน ของคนส่งสัญญาณชี้เป้า และ รถ จยย.ผู้ต้องหาใช้เดินทาง
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 ม.ค. วันนั้นได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ และ พล.ต.ต. โชติวัฒน์ สืบสวนติดตามคนร้ายจนจับกุมผู้ต้องหา รวม 9 ราย แบ่งเป็น 3 ข้อหา ดังนี้
1.นายธนดล หรือนุ อายุ 25 ปี (มือยิง)
2.นายเกียรติศักดิ์ หรือโต อายุ 21 ปี
3.นายภัทรวรรธน์ หรือบอล อายุ 21 ปี
4.นายอาดิล หรือดิล อายุ 20 ปี โดย 4 ราย ในข้อหา ” ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน “
5.นายกรกนก หรือหยก อายุ 24 ปี
6.นายธีรยุทธ หรือปอนด์ อายุ 22 ปี
7.นายกิจชนะ หรือบูม อายุ 22 ปี (รายที่ 5-7 นศ.ชั้นปี 2 สาขาวิศวะกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน)
8.นายพีระพัฒน์ หรือกาย อายุ 21 ปี (ชั้นปี 2 สาขาวิศวะเครื่องกล) ในข้อหา
“สนับสนุนในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
9.นายปฏิพัทธ์ หรือนิว อายุ 21 ปี (ยังหลบหนี) (ชั้นปี 2 สาขาวิศวะกรรมไฟฟ้า)
10.นายอัษฎาวุธ หรือ เวฟ อายุ 20 ปี (ปี 2 วิศวะกรรมการผลิต) ข้อหา ” ให้การช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งได้กระทำความผิดอาญา เพื่อให้พ้นจากการถูกลงโทษ หรือได้รับโทษน้อยลง”
นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ บก.สส.บช.น.
พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่าแผนประทุษกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ได้เตรียมการตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. ก่อนงานสถาปนา 4 วัน มีการขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่หน้าสถาบัน 2 วัน 27-28 แต่ไม่สามารถก่อเหตุได้ อาจจะเพราะยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน
จนวันที่ 29 ม.ค.ก่อเหตุสำเร็จมีคนชี้เป้าอยู่บริเวณมาบุญครอง และมือปืนหลบอยู่บริเวณใต้สะพานหัวช้าง ก่อนจะลงมือก่อเหตุ และหลบหนีไป ในขณะหลบหนีมีการขับรถย้อนศรบนฟุตบาท กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ทั้งหมด
จากการสืบสวนยังพบว่า เบื้องต้นคดีนี้มีคนร้ายอย่างน้อย 10 คน ก่อนเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้ไปซื้อรถจักรยานยนต์คันใหม่ และนำไปจอดพักคอยที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จ. ฉะเชิงเทรา รวมทั้งมือปืนได้ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อใช้ก่อเหตุโดยเฉพาะ
หลังก่อเหตุกลุ่มคนร้ายได้นำรถกระบะมาขนรถ จยย.คันก่อเหตุไปซ่อน และมีรถอีกคันมารับมือปืนเพื่อให้ยากต่อการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 ราย อีก 1 รายอยู่ระหว่างการเฝ้าติดตาม เชื่อว่าจะได้ตัวในเร็ว ๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหา แต่ละคนเข้ามาสอบปากคำ ทีมข่าวพยายามสอบถามว่าแต่ละคนทำหน้าที่อะไร แต่ก็ไม่มีผู้ต้องหาคนใดตอบคำถาม
พล.ต.ท.สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการป้องกันความปลอดภัย หลังจากนี้จะมีการเพิ่มจุดตรวจตา เพิ่มแสงไฟ แล้วมีการนำกล้อง CCTV ไปติดไว้ในบริเวณที่เป็นจุดซ่อนหรือจุดพักคอยของคนร้าย ขณะนี้ได้มีการสั่งการให้สายตรวจของแต่ละท้องที่ดำเนินการกวดขันให้มากขึ้นกว่าเดิม
