หน้าที่ 24 “ผู้กองเอ หลานผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เดินตามรอยสืบสีกากีดูแล 3 จว. ชายแดนใต้”
ร้อยตำรวจเอกปกรณ์ ทองมุณี หรือผู้กองเอ หลานชายของพลตำรวจโทสาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว อายุ 27 ปี เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2533 พื้นเพเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้ารับการศึกษาชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนมานิตานุเคราะห์ จ.สุราษฎร์ธานี
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนสุราษฎร์ธานี จากนั้นได้เบนเข็มสอบเข้านักเรียนเตรียมทหารรุ่น 50 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 66 จบปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ สงขลา และปัจจุบันกำลังศึกษา ปริญญาเอก คณะบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ และอบรมหลักสูตร สืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 96
หลักสูตรการทำลายวัตถุระเบิด รุ่นที่ 10 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
เส้นทางบนถนนสีกากี เริ่มจากสมัครใจเลือกลงตำแหน่งแรกเมื่อปี 2556 ปฏิบัติงานด้านงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา จากนั้นปี 2557 ถึง 2559 ปฏิบัติงานสืบสวน สภ.เมืองยะลา ในยุคที่พันตำรวจโทจุฬาชัย แสงกุล ดำรงตำแหน่งเป็นสารวัตรสืบสวนจนถึงรองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา
ต่อมาในปี 2559 นายตำรวจติดตามพลตำรวจโทสาคร ทองมุณี และปัจจุบันกลับมาปฏิบัติงานสืบสวน ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดยะลา ซึ่งมี พันตำรวจเอกสุทธิเวท บุญยรัตกลิน ดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดยะลา
“โอกาสมักจะมีให้กับผู้ที่พร้อมได้รับโอกาสเสมอ เราจึงควรที่จะศึกษาหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับตนเอง”
ประสบการณ์ในพื้นที่สามจังหวัด
โดนระเบิดครั้งแรกเมื่อปี 2557 ที่บ้านยะลา ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นเหตุต่อเนื่องจากเหตุระเบิด โรงแรมในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ครั้งนั้นรู้สึกตกใจ ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ ได้แต่นั่งมองจากภายในรถที่ตนนั่งมา จนกระทั่งผู้ใต้บังคับบัญชาที่เดินทางไปด้วยกันได้พาลงจากรถ และลงไปนอนหลบอยู่ข้างทางจึงดึงสติกลับมาได้ ตอนนั้นหน้าของพ่อกับแม่ลอยขึ้นมาเลยครับ โชคดีที่ว่าเป็นการวางระเบิดแบบเร่งด่วน มีข้อผิดพลาด จึงไม่ทำให้เกิดการสูญเสีย จะมีก็แต่สิ่งของเสียหายและได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อปี 2558 อีก 2 ครั้ง ในเขตพื้นที่เมืองยะลา โดยเป็นการวางซ้ำลูกที่ 2 เพื่อดักรอเจ้าหน้าที่ ที่จะเข้าตรวจสอบ ที่โชคดีก็คือเป็นระเบิดที่ไม่แรงมาก และไม่มีสะเก็ตจากการระเบิด
การใช้ชีวิตในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ต้องใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท มีสติอยู่เสมอ จะทำอะไรต้องมีการวางแผนล่วงหน้า พื้นที่ตรงนี้เป็นที่เสี่ยง จะทำอะไรก็ต้องระวัง การที่ลงมาทำงานในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนภาคใต้ สำหรับผมคิดว่า ที่นี่ก็คือประเทศไทย ถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำ คนเรานั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อถึงคราวจะตายก็ต้องตาย แต่ขึ้นอยู่กับว่า เราตายอย่างไร เราได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากน้อยเพียงใด
นายตำรวจที่ยึดเป็นแบบอย่างในการทำงานคือพลตำรวจโทสาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีความเมตตา โอบอ้อม อารี มีความเป็นกันเอง ไม่ถือตัว ต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ท่านมีความขยัน ขวนขวาย หาความรู้อยู่เสมอ ท่านเป็นผู้พิทักษ์สันติราชที่เห็นความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและพร้อมที่จะช่วยเหลืออยู่เสมอ
สำหรับคติประจำใจ “อดีตไม่ขยัน ปัจจุบันไม่ขวนขวาย ไม่ต้องทายอนาคต” ซึ่งเป็นคติประจำใจของพลตำรวจโทสาคร ทองมุณี
