ไม่ใช่ตำรวจ! ผบช.ภ.2 เผยตำรวจพบพยานหลักฐานเด็ด มัดทีมปล้นแอบอ้างเป็นตำรวจ ก่อนจับได้ยกแก๊ง 2คนจีน2คนไทย เร่งล่าคนบงการชาวจีนที่ยังหลบหนี
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 เวลา 23.00 น. พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีแก๊งชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างเป็นตำรวจ บุกอุ้มและปล้นชายชาวจีน ในพื้นที่พัทยา จว.ชลบุรี ว่า
ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้พยานหลักฐานเด็ดทำให้รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว พบว่าไม่ใช่ตำรวจ แต่แอบอ้างว่าเป็นตำรวจ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขออนุมัติหมายจับ ติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รอข่าวดีเร็ว ๆ นี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ก.ค.68 ผลการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ2 , พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
คดีนี้เป็นการร่วมมือบูรณาการของตำรวจหลายฝ่าย อาทิ ตํารวจภูธรภาค 2, ตำรวจสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) , ตำรวจกองบัญชาการตํารวจท่องเทียว (บช.ทท.) , ตำรวจสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี และ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ( ท้องที่เกิดเหตุ ) เร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนพบรถยนต์ BYD สีขาว ทะเบียน 5ขย3463 กรุงเทพ ใช้เป็นพาหนะก่อเหตุ
จากการสืบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายทุกมิติ จนนําไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา4 ราย ได้แก่ 1.นายลองติ้ง ฮัน อายุ 37 ปี ชาวจีน 2.นายจางโจว ฮัน อายุ 63 ปี ชาวจีน 3.นายศิริพงษ์ อายุ 35 ปีและ 4.นายฐิติพงศ์ อายุ 28 ปี ( ซึ่งคนไทยที่จับกลุ่มได้ เป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปลักษณะหัวเกรียน )
ทั้งหมดให้การสารภาพว่า เป็นบุคคลที่ปรากฎในภาพจากกล้องวงจรปิดจริง โดยให้การว่า ได้รับการ ติดต่อจากชายชาวจีนชื่อ นายเฮา หยง ให้ว่าจ้าง มาก่อเหตุปล้นทรัพย์ นายหลิน อี้ฟาน ผู้เสียหาย
ได้มีการร่วมกันวางแผนเดินทางจากกรุงเทพฯ เข้ามาก่อเหตุในเมืองพัทยา โดย นายจางโจว ฮัน ทำหน้าที่ขับรถมาส่งให้นายลองติ้ง ฮัน ก่อนขับไปรับชายชุดดำชาวไทย 2 ราย จากนั้นจึงไปลงมือก่อเหตุ
หลังทิ้งผู้เสียหายแล้ว ได้ขับรถกลับมาส่งชายชุดดำลงจากรถ และรับตัวนายจางโจว ฮัน ก่อนขับหลบหนีเข้าพื้นที่ จ.มีนบุรี และนำเงินมาแบ่งกัน ส่วนโทรศัพท์มือถือที่ได้นำไปโยนทิ้งน้ำ
หลังจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ พร้อมตรวจยึดรถยนต์คันก่อเหตุได้ที่บ้านพักในพื้นที่มีนบุรี ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ อยู่ระหว่างติดตามคืน ซึ่งยืนยันแล้วว่า ผู้ต้องหาไม่ใช่แก๊งตำรวจ เป็นเพียงกลุ่มคนร้ายที่ต้องการประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น
เบื้องต้น พนักสอบสวนได้แจ้งข้อหา ‘ร่วมกันปล้นทรัพย์’ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน เพื่อขยายผลรวบรวมพยานหลักฐาน ในการติดตามตัว นายเฮา หยง ผู้บงการมาดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป…
