วันที่ 8 มี.ค. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป.พ.ต.ต.จักรี กันธิยะสว.กก.4 บก.ป.
นำกำลังจับกุมนายสำรอง อายุ 41 ปี และ น.ส.วิไลลักษณ์ อายุ 40 ปีสองสามีภรรยา
ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง จับได้ที่อพาร์ตเมนต์ ในพื้นที่ ต.ตลาดขวัญอ.เมืองนนทบุรี
พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้น.ส.นิ้ง(นามสมมติ) อายุ 36 ปี ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ร้องเรียนว่า ถูกผู้ต้องหาทั้งคู่ แชตข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กมาหา
อ้างเป็นแอดมินเพจจิตอาสาเพื่อเด็กและสังคม ขอบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายที่และไถ่ชีวิตโค กระบือ จังหวัดขอนแก่น
ผู้เสียหายเห็นใจผู้ป่วยมะเร็งด้วยกัน โอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหาทั้งคู่เป็นเงิน419,490 บาท
จากนั้นได้ติดต่อไปหาแอดมินเพจตัวจริงว่า ได้โอนเงินบริจาคไปแล้ว แต่กลับได้รับแจ้งว่า ไม่มีการรับบริจาคเงินตามที่กล่าวอ้าง
จึงแจ้งความกับสน.ปทุมวัน จนศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองไว้กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาทั้งคู่ได้
สอบสวนทั้งคู่รับสารภาพ เป็นหนี้เงินกู้นอกระบบ ต้องใช้วิธีหลอกลวงด้วยวิธีนี้ เนื่องจากเป็นวิธีการที่ง่ายและได้เงินทันทีเพื่อนำไปใช้หนี้
ตรวจสอบพบเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 น.ส.วิไลลักษณ์ เคยถูกจับแอบอ้างเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่ง และแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณา มีผู้เสียหายสูญเงินไปนับแสนบาท นำตัวส่ง สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีต่อไป
คดีที่2 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.,สั่งการ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป.,
นำกำลังจับกุมตัว น.ส.ชนัญชิดา หรือ นุ่น อายุ 25 ปี ข้อหาฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ จับได้บริเวณหลังหมู่ที่8 ต.บัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐม
พ.ต.อรุณ กล่าวว่า มีผู้ร้องเรียนว่า มีบุคคลต้มตุ๋นขายหน้ากากอนามัยออนไลน์ผ่านทางเฟซบุ๊ก ชื่อ Khun nune ในราคาส่ง หลอกให้หลงเชื่อว่ามีสินค้า
โดยเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2563 ผู้เสียหายส่วนใหญ่ที่ตกเป็นเหยื่อบางรายซื้อหน้ากากอนามัย จำนวนมากเพื่อไปบริจาคให้กับเพื่อนที่อยู่ประเทศจีนหรือบริจาคให้กับสถานที่ต่างๆ รวมทั้งไว้ใช้ส่วนตัว เพราะราคาไม่แพงมีสินค้าเพียงพอกับความต้องการ
เมื่อโอนเงินไปให้ กลับไม่มีสินค้ามาส่งให้ และไม่สามารถติดต่อได้อีก
เหยื่อแต่ละรายจะสูญเงินหลายหมื่นบาทจนเกือบแสนบาท รวมมูลค่าความเสียหายที่สูญไปหลายแสนบาท จนมีการแจ้งความและศาลได้ออกหมายจับไว้ จนกระทั่งตามจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางหลายรายการ
สอบสวนให้การรับสารภาพ ไม่มีหน้ากากอนามัยขายจริง แต่เอารูปมาจากอินเตอร์เน็ต แล้วโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก เงินที่ได้มานำไปซื้อทอง, แหวน, และไปเที่ยว จนเงินหมด
นอกจากนี้ยังโพสต์ขายของเสื้อผ้า, เครื่องแต่งกาย, โทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ส่งสินค้า เคยถูกจับข้อหาฉ้อโกง นำตัวส่ง สภ.ปากเกร็ด นำเนินคดีต่อไป
คดีที่3 พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5 บก.ป., พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณสว.กก.5 บก.ป.
นำกำลังจับกุม นายสัมพันธ์ อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563
ข้อหาพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร, พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน
จับได้บนรถไฟสายนครศรีธรรมราช –กรุงเทพฯ บริเวณสถานีรถไฟชุมพร
สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้รู้จักกับ น.ส.จุ๋ม (ผู้เสียหาย) อายุ 13 ปี ผ่านทางเฟซบุ๊ก พูดคุยจนเด็กไว้วางใจ
จนเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม62 นายสัมพันธ์ หลอกว่าจะขับรถไปหาที่หน้าบ้านของเด็กในต.บ้านใหม่อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
เมื่อใกล้ถึงบ้านได้โทรศัพท์ให้เด็ก ออกมาหาที่รถแล้วดึงตัวเข้าไปในรถใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ แล้วปล่อยลงก่อนข่มขู่ว่าห้ามบอกใคร มิฉะนั้นจะทำร้ายร่างกาย
ต่อมาผู้ปกครองพบเด็กมีอาการซึมเศร้าผิดปกติ สอบถามจนรู้ความจริงจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.บางแม่นาง กระทั่งตามจับกุมได้ เบื้องต้นให้การปฏิเสธ นำส่งสภ.บางแม่นาง ดำเนินคดี
