บิ๊กต๋อย–พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี
นรต.40รุ่นเดียวกับ บิ๊กอู๊ด-พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง บิ๊กอ้อน-พล.ต.ท.สุรพงษ์ ขัยจันทร์ ผบช.กมค.
จัดเป็นศิษย์เก่ากองปราบฯเพราะใช้ชีวิตราชการช่วงปี39-50ตั้งแต่เป็นสารวัตร กอง5 จนเป็นรองผกก.วนอยู่ในหน่วยงานนี้
ผมในฐานะนักข่าวกองปราบฯเลยได้สัมผัสติดตามไล่ทำข่าวพี่เขาหลายต่อหลายคดีจนพี่ต๋อยเมตตาเอ็นดู แอบให้ข่าวโดยตลอด
มีจังหวะลงใต้ ไม่พลาดคุยกับพี่ต๋อยเรื่องปืนเรื่องเขี้ยวเล็บติดตัวในสมรภูมิไฟใต้มาฝากครับ
กระสุนแต่ละนัดลั่นแล้วย้อนกลับไม่ได้
บิ๊กต๋อย-พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี
นรต.40 เจ้าของมอตโต ”ตำรวจปัตตานี มีวินัย ใจรุกรบ”
เส้นทางสีกากี หลังพ้นรั้วสามพรานเมื่อปี 2530 เป็น รอง สว.ส.ที่หาดใหญ่ จ.สงขลา รอง สว.ป.หาดใหญ่ ปี 2538 เป็น รอง สว.สืบสวนภาค 9 เป็น สว.ส.ยะรัง จ.ปัตตานี
นรต.40 เจ้าของมอตโต ”ตำรวจปัตตานี มีวินัย ใจรุกรบ”
เส้นทางสีกากี หลังพ้นรั้วสามพรานเมื่อปี 2530 เป็น รอง สว.ส.ที่หาดใหญ่ จ.สงขลา รอง สว.ป.หาดใหญ่ ปี 2538 เป็น รอง สว.สืบสวนภาค 9 เป็น สว.ส.ยะรัง จ.ปัตตานี
ปี 2539 ย้ายไปอยู่กองปราบ เป็น สว.ประจำ ป. สว.ผ.5กก.5 ป. รับผิดชอบ สงขลา พัทลุง ตรัง ขึ้นรอง ผกก.5ป.รอง ผกก.1ป. รอง ผกก.3 ป.
อยู่กองปราบฯ10 ปี พอปี 2550 กลับถิ่นเดิมเป็น รอง ผกก.สส.ภ.จว.ยะลา ปีเดียวติดยศพ.ต.อ.เป็นผกก.สภ.เมืองยะลา ผกก.สืบสวน จังหวัดชายแดนภาคใต้
ปี 2554 ย้ายไปอยู่ตรวจคนเข้าเมือง จ.มุกดาหาร ขึ้น รอง ผบก.ตม.4 กระทั่งปี 2563 กลับใต้ใหญ่กว่าเก่าเป็น ผบก.ภ.จว.ปัตตานี
ได้คุยเรื่องเขี้ยวเล็บคู่กายไว้พิทักษ์ประชาและป้องกันภัยที่มาถึงตัว บิ๊กต๋อยเล่าให้ฟังแรกเริ่มใช้ลูกโม่ .357 Smith & Wesson รุ่น 686 ชอบเพราะรูปลักษณ์คล้ายปืน Colt Python มีความสวยงาม อานุภาพทำลายล้างสูง
สักพักเปลี่ยนมาใช้ smith chief.38 ลำกล้อง 2 นิ้ว เบา พกพาสะดวก
จากนั้นก็มี Beretta 92FSขนาด 9 มม.บรรจุลูกได้เยอะ ยิงมันส์ ช่วงนั้นนิยม เนื่องจากในหนังจีนเกี่ยวกับพวกเจ้าพ่อ พวกมาเฟีย ใช้กันมาก
เปลี่ยนมาใช้ GLOCK 19 ขนาด9 มม. ตอนย้ายมาอยู่ตม. ใช้มาจนเป็นผู้การปัตตานี เพราะเป็นปืนประจำกายที่สมบุกสมบัน ยิงได้ทุกภูมิประเทศ ลูกเยอะ เบา ยิงต่อเนื่องได้โดยไม่ติดขัด
อีกกระบอกเป็น Kimber 9 มม. รุ่น ULTRA CARRY II หรือยักษ์แคระ เป็นปืนที่สวยงาม ไม่ต้องแต่งเพิ่ม กะทัดรัด เหมาะแก่การพกพา ระยะหวังผลไม่เกิน 10 เมตร 
ตอนนี้ได้ 9 มม.อีก 2 กระบอก GLOCK 43 และ SIG SAUER รุ่น P 365 สำหรับผู้บริหาร กะทัดรัด สำหรับป้องกันตัวในระยะประชิด พกพาสะดวก มิดชิด 
แต่เมื่อออกปฏิบัติการสนาม ไปเผชิญเหตุ ตรวจที่เกิดเหตุคดีสำคัญพื้นที่รอบนอก หรือร่วมปิดล้อมตรวจค้นจะใช้หนักขึ้นมา เป็นปืน UZI PRO 9มม. ปืนเล็กกลของราชการ ยิงออโตเมติกได้
นอกจากนี้ ยังมีปืนเล็กกล SIG SAUER MPX. อัตโนมัติอีกกระบอกหนึ่ง โหลดกระสุนได้ 30 นัด เบา ลั่นไกได้นุ่มนวล เล็งด้วยกล้อง RED DOT SIGHT แม่นยำมาก ไว้ใช้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยง
ส่วนประสบการณ์เดือด พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ ย้อนให้ฟัง
จำได้แม่น วันที่ 21 ธ.ค.50 ตอนนั้นเป็นรองผกก.สส.ภ.จว.ยะลา ขณะกลับจากปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่ อ.บันนังสตา
ได้รับแจ้งจากชุดปฏิบัติการสืบสวนคดีสำคัญที่มี พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เป็นหัวหน้าชุด ขณะนั้นท่านเป็น รองผบก.ป. ว่าพบเป้าหมาย ผกร.อยู่ที่บ้านต้นหยี ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา
ได้สนธิกำลังกัน มี ผมเป็น ผบ.เหตุการณ์ นำกำลังเข้าปฏิบัติต่อเป้าหมายอย่างมียุทธวิธี ยิงต่อสู้กับคนร้าย
ผลการปะทะวิสามัญคนร้ายตาย 3 ศพ ยึดปืนได้ 3 กระบอก ฝ่ายเราปลอดภัย
ในการยิงปะทะวันนั้น เปลี่ยนมาใช้ปืนเอชเค.33 เพราะต้องใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพ ยิงได้แม่นยำในระยะไกล มีอานุภาพในการทำลายสูง หยุดยั้งได้ทันที
หลักการใช้ปืน มีไว้สำหรับป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ไว้ยิงแข่งขัน แล้วผมไม่ใช่นักสะสมปืน แต่จะใช้ตามยุคสมัยตามภารกิจ มีไว้ใช้เท่าที่จำเป็น
สำหรับในสถานการณ์ชายแดนใต้ อาวุธปืนต้องใช้ควบคู่กับอาวุธทางความคิด….ที่สำคัญ กระสุนแต่ละนัดเมื่อลั่นไปแล้ว ย้อนกลับคืนไม่ได้
การใช้ปืนต้องมีสติสัมปชัญญะ มิฉะนั้น ปืนจะมาทำร้ายตัวคุณเอง..
กิตติพงศ์ นโรปการณ์ 6/2/64 
