เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ค่ายนเรศวร บ้านตำรวจพลร่ม มีการฝึกโดดร่มของตำรวจ ดูแล้วเป็นการโดดร่มตามปกติ เพราะที่สนามเตชะตุงคะ มีฝึกกระโดดร่มอยู่ตลอด
แต่การฝึกครั้งนี้ มีนายตำรวจหนุ่มคนดัง พ.ต.ต.สงกรานต์ เตชะณรงค์ สารวัตรฝ่ายปฏิบัติการ กอ.รมน. ร่วมฝึกกระโดดร่มด้วย
มีจังหวะได้คุยกัน สารวัตรสงกรานต์ในวัย38 เล่าว่า
มาฝึกโดดร่มแบบสายกระตุก เป็นการโดดร่มพื้นฐานของการฝึกกระโดดร่ม คือผมอยากไปนานแล้ว แต่ว่ายังไม่มีโอกาส
พอดีครั้งนี้ มีโอกาสเข้ามา แล้วร่างกายเราค่อนข้างฟิต เลยลองไปเทสต์ เพื่อที่จะได้มีโอกาสไปกระโดด
ผมเป็นรุ่นที่ 235 ฝึกที่ค่ายนเรศวร ที่หัวหิน การฝึกค่อนข้างจะหนักเหมือนกัน เพราะถ้าเป็นร่มนี่ ส่วนใหญ่เขาไปกันตั้งแต่นักเรียนนายร้อยปี 2
ถ้าไม่ใช่นักเรียนนายร้อย จะเป็นฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ แล้วก็ติด ตชด.
รวมๆแล้วผมอยากไปนานแล้ว เพราะเป็นคอร์สหนึ่งที่สำคัญสำหรับตำรวจ
สารวัตรหนุ่มเล่าด้วยน้ำเสียงภูมิใจหลังพิชิตจิตใจตัวเองก่อนเล่าต่อว่า
มันเป็นคอร์สสำหรับฝึกเรื่องของภาวะผู้นำด้วย ว่าถึงเวลาที่กระชั้นชิด หรือมีเหตุ เราจะกล้าตัดสินใจอย่างไร
แล้วสอนให้เราเป็นคนละเอียดด้วย เพราะการกระโดดร่มนี่ มันทำงานเป็นวินาที
เวลาเราไปฝึก ต้องฝึกภาคพื้นดินก่อน ประมาณ 3 สัปดาห์ ก่อนจะได้ไปกระโดดจริง ในช่วง 2สัปดาห์สุดท้าย
3 สัปดาห์แรก จะฝึกในเรื่องของการออกกำลังกาย มีประมาณ 3 ช่วง ตื่นนอนตีห้าครึ่ง แล้วจะแบบยืดร่างกายก่อน ครึ่งชั่วโมงถึง 45 นาที
หลังจากนั้นก็ทำภารกิจส่วนตัว ทานข้าว อาบน้ำ แล้วก็มาเรียนสถานี
สถานีจะแบ่งออกเป็น 4 สถานี วนกันเรียน ก็จะมีสถานีที่เป็นเครื่องบินจำลอง เป็นการฝึกกระโดดออกจากเครื่องบิน
พอเราจบสถานีนี้แล้ว ก็จะไปสถานีถัดไปคือสถานีหอสูง
อันนี้คือ หลังเรากระโดดออกมาจากเครื่องบินแล้ว ท่าทางต่างๆ ในการกระโดด เพื่อที่จะให้ร่มมันไม่เกี่ยว หรือปลอดภัยที่สุด
พอเรากระโดดออกมาแล้ว ก็จะไปสถานีที่ 3 สถานีนี้ก็คือ เป็นสถานีบังคับร่ม
เวลาเราโดดออกมาแล้ว ร่มกางแล้วต้องบังคับยังไง ถ้าร่มไม่กาง เราจะต้องแก้ยังไง แล้วก็สถานีที่ 4 สถานีสุดท้าย ก็เป็นสถานีล้มตัว
ส่วนมากตำรวจที่ไปฝึกจะเป็นน้องๆ อายุ 20 กว่าๆ
จะเรียนประมาณสถานีละ 1ชั่วโมง พอถึงช่วง 11 โมง ก็จะมีพีที ออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง ถึงเที่ยง ทานข้าว เสร็จจะมาเข้าสถานีต่อ พอเสร็จถึง 4 โมงเย็นจะมีพีทีอีกที
ทานข้าวแล้วอาจจะมีพีทีบ้างตอนกลางคืน หรืออาจจะมีกิจกรรมใช้แรงบ้าง ก็แล้วแต่วัน จะวนอยู่อย่างนี้ 3อาทิตย์ ก่อนโดดจริง
ตอนนี้โดดไป 5 จั๊มพ์ ต้องโดดให้ถึง 5 จั๊มพ์ ถึงจะจบหลักสูตร
แต่ก็ยังไปกระโดดกระตุกเองไม่ได้ ต้องฝึกอีก แล้วถึงจะมีโอกาสไปกระโดดร่มแบบกระตุกเองเป็นขั้นแอดวานซ์แล้ว
ส่วนความรู้สึกจั๊มพ์แรกเป็นอย่างไร สารวัตรหนุ่มรูปหล่อบอกด้วยน้ำเสียงชนิดไม่หายตื่นเต้นว่า
บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง คือมันตื่นเต้นไปด้วย กลัวไปด้วย สะใจไปด้วย รวมๆกันหลายๆ ความรู้สึก
พอเรากระโดดออกจากเครื่องบินปุ๊บ แล้วพอร่มมันกระตุกแล้วมันกาง มันแบบดีใจสุดๆ เลย รอดแล้วๆ
ไอ้ที่เรียนมาลืมหมดเลย จำได้ คือเวลาเรากระโดดออกมา เราต้องเท้าชิด ตบเซฟตี้ นับเลข ต้องตะโกนนับ แต่ก็ลืมหมดเลย
ความสูงที่กระโดด 1,500ฟุต อันนี้เท่ากับที่ฝึกกันทั่วไปแบบของนักเรียนนายร้อย แต่ถ้าเป็นขั้นแอดวานซ์ อันนั้นจะ 4,000-10,000
แต่ที่ฝึกอันนี้ 1,500 ความรู้สึกหวิวก็มี ถามว่ารู้สึกกลัวไหม ก็ไม่ถึงกับกลัว เรียกว่าท้าทายมากกว่า
พอผ่านจั๊มพ์ที่ 1 ไปแล้ว จั๊มพ์ที่ 2 ไปแล้ว เริ่มชินกับมัน เริ่มบังคับร่มเป็น เริ่มทำตามทุกอย่างที่เขาสอนมากลายเป็นสนุกเฉยเลย
ส่วนที่ว่าจะไปฝึดแอดวานซ์อีก ถ้าผมมีโอกาสนะ ผมก็อยากไป มันสนุก
แต่ที่ผมต้องระวังที่สุด หรือว่ากลัวที่สุด คือตอนช่วงก่อนจะถึงพื้น เพราะหัวเข่าผมผ่ามา 2 ทีแล้ว ก็เสียวเหมือนกัน
เพราะร่มนี่มันดูเหมือนค่อยๆไหลลงมา แต่จริงๆพอมันใกล้ถึงพื้น เหมือนโลกมันถูกดูดมาตรงข้างหน้า มันเร็วมาก
ต้องลงให้ถูก ต้องล้มให้ถูก ต้องทำตามขั้นตอนที่ฝึกมา ขาต้องชิดๆ ปลายเท้าแตะพื้นต้องล้มตัว หรือเฉียงไปข้างหน้าหน่อย ส่วนมากที่บาดเจ็บคือขาไม่ชิด ลงผิด ก็ขาหักกัน
อีกเรื่องหนึ่งที่เขาเรียกกันคือ วันโฟร์ซิกซ์ หรือ 146คือ ลงปุ๊บ หัวกระแทกจะสลบไปอย่างนี้ ต้องระวัง 146 จะเป็นเกือบทุกรุ่น แต่โชคดีรุ่นนี้ไม่มี
ส่วนแฟนกับลูกสาว ก็ไม่ได้ว่าอะไร คือเขาก็กังวล ก็โทร.มา
ลูกสาวผมก็ส่งวีดีโอคลิปให้ดู เขาก็หัวเราะชอบใจก็บอกว่า ถ้าเขาโตแล้วก็อยากจะไปลองดูบ้าง
ส่วนที่อยากให้คนที่เขาปรามาสเราได้เห็น อันนั้นคงไม่ใช่เรื่องหลักครับ คงแบบว่า มันเป็นอะไรที่เราได้รับโอกาสตรงนี้แล้ว
แล้วด้วยความที่เราชอบอะไรที่มันแบบผจญภัยอยู่แล้ว แบล็กกราวด์เราชอบแบบนี้อยู่แล้ว เป็นนักกีฬาอยู่แล้ว ตรงนี้มันก็ได้เต็มๆ มากกว่า ไม่ได้ไปแข่งกับใครเขาหรอกครับ
เมื่อถามว่าในอดีตที่เคยอยู่หน่วยคอมมานโด ใจจริงๆ แล้วยังอยากกลับไปอยู่อีกไหม สารวัตรสงกรานต์บอกว่า
งานคอมมานโดมันสนุกมาก เพราะเป็นงานลงพื้นที่ เป็นงานปฏิบัติ งานป้องกันปราบปราม อย่างนี้ เราชอบอยู่แล้ว ตอนนั้นก็โชคดีที่ได้ผู้ใหญ่กรุณา
ถึงแม้เราจะมาจาก กอส.แต่ท่านก็ให้โอกาสเราทำงาน ได้ลงพื้นที่ ได้ไปฝึกจริงๆ
มันก็เป็นไฮไลท์ของการทำงานตำรวจของเราเลย ถึงแม้ว่างานมันจะต่างกัน แต่ก็ได้ประสบการณ์มาเต็มๆ
พอออกจากคอมมานโด ไปอยู่ศูนย์ฝึก มีหน้าที่เทรนร่างกายตำรวจ คิดว่าตรงนั้นก็เหมาะกับเรา
แต่ใจก็อยากจะบู๊ แบบคอมมานโดอีกถ้ามีโอกาส ก็อยากจะได้ทำ เพราะมันเป็นงานที่สนุกดี
หลังจากจบหลักสูตรโดดร่ม ยังอยากลองสกายดู ซึ่งมันก็มีส่วนคล้ายกับกีฬาอย่างหนึ่ง
ถ้าถามว่านเรศวร 261 อยากไปลองไหม คงไม่ไหวมั้งครับ เพราะต้องแข็งแรงสุดๆ มันต้องครบเครื่องด้วย สารวัตรสงกรานต์ตอบยิ้มๆ
ครับ…ถึงแม้เป็นแค่การฝึกกระโดดร่มแบบสายกระตุก แต่ยังมีนายตำรวจหลายคนพูดถึงสารวัตรสงกรานต์ให้ผมได้ยิน
ใจมันได้…
กากีกลาย17/10/64