การนำ “เกม” มาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ นับเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายเลยสำหรับคนทำภาพยนตร์
เพราะเมื่องานปรากฏออกสู่สาธารณชน ย่อมตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทำได้ดี ทำได้สนุก ก็รอดตัวไป แต่ถ้าทำไม่ดี ทำไม่ถึง ก็โดนสวดยับกันไป
แต่ถึงกระนั้น “เกม” ก็ยังถือเป็นวัตถุดิบที่ยั่วยวนชวนให้ลองเอามาสร้างงาน
ล่าสุด “จาเร็ด เฮส” ผู้กำกับที่เพิ่งมีแอนิเมชันเรื่อง Thelma the Unicorn ออกมาให้ดูเมื่อปี 2567 ก็ได้จับเอา Minecraft เกมดังสุดฮิตจากบริษัทโมแยง (Mojang) ผู้พัฒนาเกมสัญชาติสวีเดน มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงชื่อ A Minecraft Movie
ใช้บริการนักแสดงหนุ่มสายตลกฝีมือดี “แจ็ค แบล็ค” มาร่วมงานกันอีกครั้ง หลังจากเคยนำแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Nacho Libre งานตลกฮาที่ “จาเร็ด เฮส” กำกับและออกฉายในปี 2549
ขณะที่นักแสดงอื่น ๆ ใน A Minecraft Movie ก็ได้ตัวจี๊ดอย่าง “เจสัน โมโมอา” เจ้าของบท “อควาแมน” และ “เจนนิเฟอร์ คูลิดจ์” ที่แจ้งเกิดกับบท “คุณแม่สตีฟเลอร์” สาวใหญ่สุดแซ่บในภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้ สุดดังเรื่อง American Pie เมื่อปี 2552
โดย “เจนนิเฟอร์ คูลิดจ์” มาช่วยชูรสใน A Minecraft Movie กับบทครูใหญ่ใจเปลี่ยวที่เพิ่งหย่าร้างจากสามี
นอกจากนี้ ก็ยังมีนักแสดงรุ่นน้องพ้องรุ่นใหม่ทั้ง “แดเนียล บรูคส์” นักแสดงผิวสีที่เพิ่งได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ปี 2567 จากเรื่อง The Color Purple และ “เซบาสเตียน ยูจีน ฮานเซน” ที่เคยผ่านงานภาพยนตร์เรื่อง Just Mercy รวมถึงมินิซีรีส์เรื่อง Lisey’s Story และสาว “เอ็มม่า ไมเยอร์ส” จากซีรีส์ Wednesday
A Minecraft Movie บอกเล่าเรื่องราวการเรียนรู้ชีวิตผ่าน 5 ตัวละครคือ “สตีฟ” (แจ็ค แบล็ค) อัจฉริยะนักประดิษฐ์ ได้เจอลูกบาศก์มหัศจรรย์นำพาเขาข้ามมิติไปอยู่ใน “โอเวอร์เวิลด์” ดินแดนที่สิ่งมีชีวิตหรือวัตถุต่าง ๆ ล้วนเป็นทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์
https://www.youtube.com/watch?v=XITnTmIOGco
“สตีฟ”ปักหลักชีวิตที่นี่เพื่อสร้างโลกของตัวเอง โดยมี “เดนนิส” หมาป่าสุดเชื่องเป็นเพื่อนคลายเหงา
แต่ในความสวยงามก็มีด้านที่กลับกัน นั่นคือเมื่อตะวันลับแสง ความมืดคืบคลาน ก็เป็นเวลาของซอมบี้ ครีปเปอร์ และร่างโครงกระดูกออกมาอาละวาดทั่วทุกหัวระแหง
แต่ “สตีฟ” ก็เรียนรู้ที่จะหาวิธีเอาตัวรอดและมีความสุขในโลกที่เขาเป็นมนุษย์เพียงเดียวดาย
ทว่าวันหนึ่ง “สตีฟ” ใช้ลูกบาศก์มหัศจรรย์เปิดประตูมิติไปเจอว่าแม่มดร้าย “มัลโกชา” ร่างหมูทรงลูกบาศก์ มีแผนการร้ายเพื่อทำลายโอเวอร์เวิลด์ เพราะเกลียดการสร้างสรรค์ และลูกบาศก์มหัศจรรย์คือกุญแจสำคัญที่จะนำเธอไปสู่ชัยชนะ
เดชะบุญที่ “สตีฟ” ไหวตัวทันและสั่งให้เจ้าเดนนิส นำลูกบาศก์มหัศจรรย์ไปซ่อนยังโลกมนุษย์
และนี่คือจุดเริ่มต้นการเดินทางอันสุดตื่นระทึกของ “เฮนรี่” (เซบาสเตียน ยูจีน ฮานเซน) เด็กชายที่เก่งกาจในการประดิษฐ์เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ย้ายมาอาศัยยังเมืองเล็ก ๆ ในรัฐไอดาโฮ พร้อมกับ “นาตาลี” (เอ็มม่า ไมเยอร์ส) ผู้เป็นพี่สาว
ยังมีผู้ร่วมผจญภัยอีก 2 คนคือ ดอว์น (แดเนียล บรูคส์) สาวตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่รับอีกจ็อบคือดูแลสัตว์เคลื่อนที่ และ การ์เร็ตต์ (เจสัน โมโมอา) อดีตแชมป์เกมที่กำลังตกอับ ร้านขายของเก่าของเขากำลังจะถูกยึด เขาต้องการเงินที่จะมาประคับประคองชีวิตที่กำลังล้มไม่เป็นท่า
เหตุที่ทำให้ทั้ง 4 คนได้เข้าไปเยือนยังโอเวอร์เวิลด์ ก็เพราะ การ์เร็ตต์ จับพลัดจับผลูได้ลูกบาศก์มหัศจรรย์มาจากการประมูลของเก่าแนวป็อปคัลเจอร์ และลูกบาศก์เรืองแสงนี้ก็ตกอยู่ในมือของ “เฮนรี่”
อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้ง 4 คนถูกพลังลูกบาศก์ดูดผ่านประตูมิติเข้าสู่โอเวอร์เวิลด์ ก็ได้พบกับ “สตีฟ” และได้ร่วมฟันฝ่าอุปสรรคนานาด้วยกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนได้งัดเอาความกล้า เอาพลังความสร้างสรรค์ของตนเองออกมาใช้ พร้อมโชว์ให้เห็นถึงจิตใจอันเสียสละ
ถ้าไม่นับว่า A Minecraft Movie ได้จุดแข็งคือตัว “แจ็ค แบล็ค” และ “เจสัน โมโมอา” ที่ว่ากันตามตรงก็คือตัวละคร “เดอะ แบก” กับหน้าที่สร้างเสียงหัวเราะแทบจะ 100%
ความท้าทายของ A Minecraft Movie ก็คือการปลดล็อกใจผู้ชมให้ยอมรับเรื่องราวที่เต็มไปด้วย ต้นไม้ สัตว์ สิ่งของ ที่ล้วนมีรูปทรง “สี่เหลี่ยม” ซึ่งแรก ๆ ก็อาจจะตื่นตาตื่นใจในจินตนาการที่หนังสรรค์สร้างขึ้นและฉีกแนวไม่น้อย
แต่พอเดินเรื่องไป ๆ ก็อาจรู้สึกจำเจเมื่อไม่มีรูปทรงอื่นมาแบ่งปันความจำเจซ้ำซากเหล่านั้น แม้จะมีตัวละครมนุษย์ที่มีความโค้งมนของรูปร่างมาตัดความรู้สึกบ้างก็ตามที
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ออกมาของ A Minecraft Movie ถือเป็นงานที่สนุกไม่เบา ภาพยนตร์เรื่องนี้มีคุณสมบัติของพล็อตในแบบยอดนิยม คือการผจญภัยในต่างมิติของตัวละครที่ต่างมีปมปัญหา
การผจญภัยและการต่อสู้ในดินแดนที่น่าพิศวง คือบททดสอบจิตใจ และกลายเป็นบทเรียนสำคัญให้กับชีวิต ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะอยู่ในสถานะหรือสถานภาพใด จะเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่ ทุกคนต่างต้องเผชิญกับการ “ก้าวพ้นวัย”
และ A Minecraft Movie ยังให้ข้อคิดพร้อมฉายภาพให้เห็นว่า คนเราจะสร้างโลกของตัวเองออกมาเป็นอย่างไร.
Blue Bird 5/4/68
