ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ช่วยเหลือผู้เสียหาย ระงับการโอนเงินทันพบรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาสถิติคดีลดลงกว่า 175 เคส มูลค่าความเสียหายลดเกือบ 130 ล้านบาท
วันที่ 17 พ.ย.68 พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. เปิดสถิติคดีและความเสียหายในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลังมีการสืบสวนจับกุมพร้อมช่วยเหลือเหยื่อจากการถูกหลอกลวงตั้งแต่วันที่ 9-15 พ.ย.68 มีคดีที่รับแจ้งเข้ามาผ่านทาง Thaipoliceonline 7,720 เคส มูลค่าความเสียหายหาย 434,671,953 บาท ลดลงจากห้วงวันที่ 2-8 พ.ย.68 จำนวน 175 เคส มูลค่าความเสียหายลดลง 129,942,832 บาท
จากข้อมูลการรับแจ้งความ หากเทียบข้อมูลเชิงปริมาณจะพบว่า การหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ ยังเป็นคดีอันดับ 1 ที่ผู้เสียหายถูกหลอกลวงมากที่สุด
หากเทียบเชิงมูลค่าความเสียหาย จะพบว่าการหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มีมูลค่าความเสียหายสูงเป็นอันดับ 1 และการหลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล, หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ, หลอกให้โอนเงินโดยข่มขู่ให้เกิดความกลัว มีมูลค่าความเสียหายรองลงมาตามลำดับ
ทั้งนี้ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเคสรับแจ้งผ่านศูนย์ ACSC และสามารถประสานงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน ประกอบกับประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าช่วยเหลือเหยื่ออย่างทันท่วงที ช่วยเหลือและระงับการโอนเงินของผู้เสียหายก่อนจะโอนเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพได้ 12 เคส คิดเป็นเงินกว่า 7,185,174 บาท มีเคสที่น่าสนใจ ดังนี้
สำหรับเคสที่ 1 เป็นการช่วยเหลือนักศึกษาชาย มหาวิทยาลัยในพื้นที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังผู้เสียหายถูกคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจ แจ้งว่ามีคดีพัวพันยาเสพติด ให้ดำเนินการตามที่คนร้ายแนะนำ และปลอมเอกสารมหาวิทยาลัย ว่าได้รับทุนเรียนต่างประเทศ ต้องโอนเงินเพื่อให้มีรายการเดินบัญชี
ทั้งยังบังคับ ข่มขู่ให้อยู่ในหอพัก ไม่ให้บอกความจริงกับผู้ปกครอง แต่ให้หาเหตุผลอ้างเรื่องอื่น เพื่อให้ผู้ปกครองโอนเงินมาให้ มูลค่า800,000 บาท เพื่อโอนต่อให้คนร้าย เป็นที่มาให้เกิดการประสานงานภายในศูนย์ฯ กระทั่งประสานพื้นที่เข้าช่วยเหลือเหยื่อและระงับการโอนเงินได้ทันท่วงที
เคสที่ 2 ศปอส.ภ.1 จับกุมเครือข่ายบัญชีม้า 12 ราย ตรวจยึดเงินสด 927,000 บาท จากนั้นขยายผลติดตามช่วยเหลือผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลวงให้หารายได้พิเศษ ด้วยการชวนเข้ากลุ่มไลน์ ก่อนจะมีการสมัครสมาชิกร้านค้า ต้องโอนเงินเพื่อเปิดการมองเห็น มูลค่าความเสียหาย 194,544 บาท
ตำรวจ สภ.บางแก้ว ประสานงานช่วยเหลือ แจ้งเตือนให้ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง และรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี
เช่นเดียวกับเคสที่ 3 เป็นการขยายผลจากการจับกุมของ ศปอส.ภ.1 ที่จับเครือข่ายบัญชีม้า 12 ราย ตรวจยึดเงินสด 927,000 บาท พร้อมกับประสานความร่วมมือกับ ศปอส.ภ.5 ช่วยเหลือผู้เสียหายเป็นหญิงสูงอายุ ในพื้นที่ สภ.วังเหนือ
หลังผู้เสียหายถูกคนร้ายชักชวนผ่านเฟซบุ๊กหลอกลวงว่าเที่ยวฟรีพร้อมครอบครัวแบบหรูหรา (VIP) และยังมีพ็อกเก็ตมันนี่เพิ่มให้ด้วย เมื่อสนใจ คนร้ายใช้วิธีส่งข้อความทางแชทออนไลน์มาหา จากนั้นให้ส่งเบอร์โทรศัพท์หาผู้เสียหายไปให้ พูดคุยกันผ่านโทรศัพท์ ก่อนให้โอนเงินไปหลายครั้ง รวมมูลค่า349,734 บาท เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนเหยื่อให้รู้ตัวว่าถูกหลอกลวง และให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี
เคสที่ 4 ในพื้นที่ สภ.หาดใหญ่ ผู้เสียหายต้องการซื้ออาหารเสริมให้มารดา ถูกลวงอ้างว่าจะได้สินค้าทดลอง ถูกชักชวนให้เข้าไปในแอปพลิเคชันไลน์ ก่อนหลอกลวงให้ลงทุนเทรดหุ้น ขณะที่ในกลุ่มจะมีหน้าม้าคอยหลอกว่าได้เงินคืนจากการลงทุน พร้อมกดดันให้ผู้เสียหายโอนเงินอยู่เรื่อยๆ สูญเงินรวมกว่า 1,499,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.8 และ สภ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งจาก warroom ศูนย์ ACSC ให้ติดต่อช่วยเหลือเหยื่อ ก่่อนประสานงานให้ผู้เสียหายรู้ตัวและหยุดโอนเงิน พร้อมพาแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

























