จากผลงาน Talk to Me ที่ออกฉายในปี 2565 ของสองพี่น้องผู้กำกับนาม “แดนนี ฟิลิปโป” และ “ไมเคิล ฟิลิปโป” ที่โด่งดังระดับปรากฏการณ์ในวงการหนังสยองขวัญ ก็น่าจะทำให้คอหนังโดยเฉพาะแนวสยองขวัญคาดหวังไม่น้อย
เมื่อทั้งคู่ส่งงานชิ้นใหม่ออกสู่ตลาด นั่นก็คือเรื่อง Bring Her Back หรือ “เรียกมันกลับมาหลอน”
ได้ดาราสาวชาวอังกฤษฝีมือฉกาจอย่าง “แซลลี ฮอว์กินส์” มาร่วมงาน ชื่อเรื่อง Bring Her Back และภาพโปสเตอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็บอกอย่างจะแจ้งแล้วว่า เนื้อหาต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่อง “เหนือธรรมชาติ” ซึ่งว่าด้วยการหาทางฟื้นคืนจากความตายของใครสักคน ด้วยวิธีการอันสุดพิลึกพิลั่น น่าหวาดกลัว ชวนสะอิดสะเอียน อันเป็นจุดขายของหนังแนวนี้
แต่ว่ากันตามตรงพล็อตทำนองนี้ก็เคยมีนักทำหนังอื่น ๆ ทำมานักต่อนักแล้ว
Bring Her Back นำผู้ชมให้ติดตามชีวิตของ 2 น้องต่างแม่ คือ “แอนดี้” (บิลลี บาร์แร็ตต์) พี่ชาย และ “ไปเปอร์” (โซรา หว่อง) น้องสาวที่พิการทางสายตา ทั้งคู่สูญเสียบิดาไปอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุในบ้านอย่างไม่คาดคิด
หนังให้เบาะแสว่า “แอนดี้” และบิดาของเขาไม่ได้มีสัมพันธ์อันราบรื่นนัก ทว่าด้วยความยังเป็นผู้เยาว์ทั้งคู่ และแอนดี้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เด็กหนุ่มจึงไม่สามารถยื่นขอเป็นผู้ปกครองน้องสาวคนเดียวของเขาได้
https://www.youtube.com/watch?v=36TjJx12nm0
หน่วยงานของรัฐจึงต้องหาบ้านอุปถัมภ์ให้กับเด็กทั้งสองคน คนที่มารับหน้าที่นี้ก็คือ “ลอร่า” (แซลลี ฮอว์กินส์) นักบำบัดจิตบุคลิกร่าเริง
เมื่อ “แอนดี้” และ “ไปเปอร์” ย้ายเข้ามาอยู่ยังบ้านของ “ลอร่า” พวกเขาพบว่าสาวใหญ่ที่กลายมาเป็นมารดาบุญธรรมเคยมีลูกสาว แต่เสียชีวิตไปจากการจมน้ำ
![]()
แถมในบ้านเดี่ยวที่สร้างอยู่เปล่าเปลี่ยวกลางป่าแห่งนี้ยังมีเด็กชายบุคลิกประหลาดนามว่า “โอลิเวอร์” (โจนาห์ เรน ฟิลลิปส์) อาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า “ลอร่า” ให้ความรักและห่วงใยต่อ “ไปเปอร์” เป็นพิเศษ นั่นก็เพราะเด็กหญิงที่พิการดวงตาคนนี้ทำให้เธอหวนนึกถึงลูกสาวสุดที่รักผู้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
แต่แล้ว “แอนดี้” ก็เริ่มพบกับความไม่ชอบมาพากลบางอย่างในบ้านหลังนี้ โดยเฉพาะพฤติกรรมของ “ลอร่า” ที่ปฏิบัติต่อ “โอลิเวอร์” แลดูมีลับลมคมใน
จนกระทั่งเด็กหนุ่มวัยรุ่นได้ล่วงรู้ว่า “ลอร่า” พยายามที่จะทำให้ลูกสาวของเธอกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยวิธีสุดพิสดาร
แต่สิ่งที่ต้องแลกกับแผนการอันยิ่งใหญ่ท้าทายกฎธรรมชาติก็ทำให้ชีวิตของลูกบุญธรรมอย่างพวกเขาอยู่บนความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
Bring Her Back เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่แค่ออกแบบฉากอันสุดสยดสยอง หวาดเสียว ดิบ โหด จนต้องปิดตาดู จนทำถอนหายใจอยู่หลายซีน
แต่เป็นงานที่สะเทือนขวัญ สะเทือนความรู้สึกอย่างลึกล้ำ หนังว่าด้วยเรื่องของคนที่ตกเป็นเหยื่ออย่างไม่มีทางสู้ ทั้งในแง่ของความคิด สติปัญญา รวมถึงพละกำลัง เมื่อ “ผู้กระทำ” เป็นคนที่ภายนอกนั้นดูแสนดีมีเมตตา
แต่เมื่อจิตใจของคนผู้นั้นตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ ยังยึดติด ยังอาวรณ์กับบางสิ่งบางอย่าง เรียกง่าย ๆ ว่าไม่ปล่อยวาง ก็กลายเป็นช่องโหว่ให้ชีวิตถลำลงไปหาด้านมืด
เมื่อความชั่วร้ายเข้าครอบงำ การกระทำที่ออกมาก็เป็นหอกทิ่มแทง ฉุดกระชากให้คนอื่นให้เจ็บปวด หรือแม้แต่พรากเอาชีวิตของคนรอบข้างไป
ว่ากันตามตรง Bring Her Back ถือเป็นภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน คนไม่ชอบอะไรที่หฤโหด โดยเฉพาะความโหดร้ายเหล่านั้นเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ผู้บริสุทธิ์
“แซลลี ฮอว์กินส์” เชี่ยวชาญและโชกโชนมาในหลายบทบาทตลอดชีวิตการทำงานของเธอ ผ่านการแสดงความแทบจะทุกแนว ทั้งดราม่า สยองขวัญ หรือแม้แต่เบาสมอง
การสวมบทของ “ลอร่า” ที่เป็นตัวละครที่มีบุคลิกซับซ้อนใน Bring Her Back เธอก็ทำได้อย่างสบายมือ เรียกว่าเป็นตัวแบกของเรื่องทั้งหมดว่าได้
นี่เป็นอีกงานที่ทำให้ผู้ชมประจักษ์ในฝีมือที่ไร้ข้อกังขาอีกครั้งหนึ่งของ แซลลี ฮอว์กินส์!
Blue Bird7/6/68