โครงเรื่องที่ว่าด้วยผู้ร้ายได้ลักพาตัวหรือจับคนเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้ “ใครสักคน” ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับตัวประกัน ทำภารกิจตามคำสั่งให้สำเร็จ
ระหว่างนั้น “คน” ที่ถูกสถานการณ์กดดันให้ต้องทำเรื่องชวนระทึกตามคำสั่งของผู้ร้าย ก็ต้องเร่งเอาตัวรอด มองหาตัวช่วย เพื่อปลดแอกจากคำสั่งนรก
โครงเรื่องทำนองนี้มักนิยมนำมาสร้างภาพยนตร์อยู่บ่อยครั้ง
Drop หรือ “รับคำสั่งตาย” กำกับโดย “คริสโตเฟอร์ แลนดอน” ที่เคยฝากฝีมือกับภาพยนตร์ระทึกขวัญอย่าง Paranormal Activity : The Marked Ones และแฟรนไชส์เรื่อง Happy Death Day ก็ใช้โครงเรื่องแบบดังกล่าว
Drop เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในคืนเดียว กำหนดให้ตัวละครตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะหาทางออก
นำแสดงโดย “เมแกน ฟาฮี” ที่แจ้งเกิดจากทีวีซีรีส์เรื่อง The White Lotus และมินิซีรีส์เรื่อง The Perfect Coupleและ “แบรนดอน สเคลนาร์” ที่เพิ่งมีผลงานในภาพยนตร์ดราม่า It Ends with Us ออกฉายเมื่อปี 2567
Drop เป็นภาพยนตร์ที่ใช้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยขับเคลื่อน
เรื่องราว ก็คือ “ดรอป” (Drop) หรือ Airdrop (ฟีเจอร์หนึ่งในโทรศัพท์มือถืออย่างไอโฟน) เมื่อ “ไวโอเล็ต” (เมแกน ฟาฮี) แม่ม่ายลูกติดที่เตรียมจะออกเดทครั้งแรก หลังจากอยู่อย่างเปลี่ยวเหงาร้างคู่มานาน
https://www.youtube.com/watch?v=m6FPFcGcGS0
คู่เดทของเธอคือ “เฮนรี่”(แบรนดอน สเคลนาร์) ช่างภาพหนุ่มหล่อ ที่คุยกันทางออนไลน์มานานหลายเดือน
ทั้งคู่ตกลงปลงใจว่าจะลองมาพบปะกันจริง ๆ สักที ซึ่งสถานที่นัดหมายก็คือร้านอาหารสุดหรู ตั้งอยู่บนชั้นสูงของตึกระฟ้าแห่งหนึ่งในนครชิคาโก สหรัฐอเมริกา
เมื่อ “ไวโอเล็ต” ย่างเท้าก้าวเข้าไปในร้านอาหารแห่งนี้ ผู้ชมก็รับรู้ได้ว่าต่อจากนี้ไปหญิงสาวจะต้องเผชิญชะตากรรมอันสุดระทึก ซึ่งระหว่างนั่งรอหนุ่มคู่เดทอยู่ตรงบาร์
มีคนแปลกหน้าหลายคนมาสนทนากับเธอ รวมถึงพนักงานของร้านด้วย
เมื่อ “เฮนรี่” มาถึง โทรศัพท์มือถือของ“ไวโอเล็ต” ก็เริ่มได้รับ “มีม” จากใครคนหนึ่งผ่าน “ดรอป” โดยไฟล์ดิจิทัลหลายไฟล์ถูกส่งมารบกวนจิตใจของ “ไวโอเล็ต”
ทำให้เธอเชื่อว่ามีใครสักคนในร้านอาหารแห่งนี้กำลังแกล้งเธออยู่ คนที่ส่งไฟล์จะต้องห่างจากเธอภายในระยะประมาณ 50 ฟุต
หญิงสาวมองไปรอบ ๆ ร้านเพื่อสอดส่องดูว่าใครกันที่ส่งไฟล์มา แต่จนแล้วจนรอดก็หาไม่พบ
ขณะเดียวกัน “บุคคลปริศนา”เริ่มส่งข้อความถี่ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมเยาะเย้ยตลอดเวลาว่าการสืบหาตัวเขาเป็นเรื่องที่เสียเวลาเปล่า และสั่งให้ “ไวโอเล็ต” ปฏิบัติตามคำสั่ง ห้ามเปิดเผยตัวตน หรือพยายามขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ
และสั่งให้เธอเปิดดูกล้องวงจรปิดที่บ้าน ทำให้พบว่าลูกชายตัวน้อยและน้องสาวของเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย มีชายชุดดำสวมหน้ากากแอบเข้าไปในบ้าน
แน่นอนว่าทั้งลูกชายทั้งน้องสาวตกเป็น “ตัวประกัน” และ “ไวโอเล็ต” ก็กลายเป็นเบี้ยล่างที่ “บุคคลปริศนา” จะสั่งการให้เธอทำงานบางอย่าง
หนังก็ไม่ได้ปล่อยให้ผู้ชมรอนานว่าคนร้ายต้องการอะไร เพราะไม่กี่อึดใจก็รู้ว่าหนุ่ม “เฮนรี่” คือเป้าหมายที่แท้จริงของคนร้าย
ความตื่นเต้นปะทุก็ตรงช่วงเวลาที่ “ไวโอเล็ต” ตกอยู่ในความหวาดระแวง เธอทำงานตามคำสั่งของ “บุคคลปริศนา” ที่จับตามองอยู่ พร้อมกับเร่งค้นหาว่าเขานั่งอยู่ตรงไหนของร้าน
หนังวางหมากอยู่แล้วว่าต้องใส่ตัวละครที่เป็น “ตัวหลอกล่อ” ให้ชวนสับสนแกมสงสัยว่าคนเหล่านี้ ใครคือคนร้ายตัวจริง
ว่ากันตามตรงสถานการณ์ของ “ไวโอเล็ต” ก็ไม่ต่างจากบท “จีน วัตสัน” สมุห์บัญชีที่รับบทโดย “จอห์นนี่ เด็ปป์” ในหนังระทึกขวัญเรื่องNick of Time ซึ่งนักบัญชีหนุ่มเดินทางมานครลอสแอนเจลิสพร้อมกับลูกสาว
แต่แล้วชายหญิงคู่หนึ่งก็จับลูกสาวของเขาไปเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เขาไปสังหารผู้ว่าการรัฐฯ ที่กำลังปราศรัยในโรงแรมแห่งหนึ่ง
Drop เป็นงานที่ดูสนุกพร้อมระทึกเป็นระยะ ๆ หนังใส่ประเด็นของความรุนแรง การถูกทารุณกรรมในครอบครัว ความรุนแรงที่ผู้ชายกระทำต่อผู้หญิง ที่ชวนให้คิดว่าตัวละครจะตัดสินใจอย่างไรกับเรื่องความสัมพันธ์
ก็ชวนลุ้นว่า “ไวโอเล็ต” จะเปิดใจกับการมีรักครั้งใหม่และให้โอกาสตัวเองได้ความสุขอีกครั้งหรือไม่!
Blue Bird12/4/68
