หลังจาก “ฉีเคอะ” ผู้อำนวยการสร้าง ผู้เขียนบทและผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกงชื่อดัง ประกาศสร้างภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้แบบย้อนยุคฟอร์มยักษ์เรื่อง Legends of the Condor Heroes หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “มังกรหยก” บทประพันธ์อันลือลั่นของปรมาจารย์ “กิมย้ง” ผู้ล่วงลับ
ก็เป็นที่จับตาอย่างมาก
เพราะนี่คือการกลับมาสู่โลกวรรณกรรมอีกครั้งและเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปีที่ “ฉีเคอะ” ได้หยิบนวนิยายของ “กิมย้ง” มาทำภาพยนตร์อีกหน
หลังจากที่เคยเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “เดชคัมภีร์เทวดา” (The Swordsman) หรือที่คอนิยายกำลังภายในจีนรู้จักกันดีในชื่อ “กระบี่เย้ยยุทธจักร” ออกฉายในปี 2533
เมื่อภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก ก็ไม่น่าแปลกใจที่ “เดชคัมภีร์เทวดา 2” จะถูกส่งออกมาเก็บเกี่ยวความสำเร็จต่อในปี 2535 โดย “ฉีเคอะ” ยังนั่งแท่นผู้อำนวยการสร้าง และร่วมเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
ประการต่อมาที่ Legends of the Condor Heroes ฉบับปี 2568 จะถูกจับตามากยิ่งขึ้น นั่นก็คือ “ฉีเคอะ” มอบบทพระเอกระดับตำนาน “ก๊วยเจ๋ง”ให้กับ “เซียวจ้าน” นักร้องและนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ของจีนแผ่นดินใหญ่
และยกบท “หวงหรง” หรือชื่อที่คุ้นเคยกันดีก็คือ “อึ้งย้ง”, “ย้งยี้” ยอดหญิงผู้ปราดเปรื่อง ประมุขพรรคกระยาจก และเป็นบุตรสาวของ “มารบูรพา อึ้งเอี๊ยะซือ” ให้กับ “จวงต๋าเฟย” นักแสดงสาวดาวรุ่งของจีน
เป็นที่รู้กันว่า “มังกรหยก” คือนวนิยายจีนกำลังภายในสุดคลาสสิค บทของ “ก๊วยเจ๋ง” และ “อึ้งย้ง” คือตัวแทนของความเป็น “วีรบุรุษ” และ “วีรสตรี”
ถ้าให้นับนิ้วก็จะพบว่ามีนักแสดงเพียงไม่กี่คนที่ได้สวมบทตัวละครเหล่านี้ นั่นหมายความว่า “เซียวจ้าน” และ “จวงต๋าเฟย” จะกลายเป็นคู่ตำนานแห่ง “มังกรหยก” ไปโดยปริยาย
เหมือนดัง “ไป่เปียว” – “หมีเซียะ”ที่แสดงใน “มังกรหยก” เวอร์ชั่นแรก และ “หวงเย่อหัว” – “องเหม่ยหลิง” ในเวอร์ชั่นละครทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบีในฮ่องกงผลิตฉายเมื่อปี 2526 ซึ่งทั้ง 2 เวอร์ชั่นนี้ประสบความสำเร็จล้นหลาม ประทับใจผู้ชมมาอย่างยาวนาน
ก่อนที่จะเข้าโรงฉายจริง “มังกรหยก” ฉบับล่าสุด ที่กำกับและเขียนบทโดย “ฉีเคอะ” ซึ่งใช้ชื่อว่า Legends of the Condor Heroes : The Gallantsหรือ “มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่”
มียอดจองตั๋วล่วงหน้ากว่า 355 ล้านหยวน หรือราว ๆ 1,775 ล้านบาท ดาราแถวหน้าของจีนแผ่นดินใหญ่ และคนที่เคยร่วมงานกับ “เซียวจ้าน” ต่างพาเหรดออกมาปิดรอบเหมาโรงแบบปรากฏการณ์
ในเรื่องราวของ Legends of the Condor Heroes : The Gallants ฉากหลังนั้นอบอวลด้วยความวุ่นวายในสมัย “ราชวงศ์ซ่งใต้” ที่เผชิญภัยคุกคามจาก “ราชวงศ์จิน” หรือที่เรียกว่าพวก “กิมก๊ก” รวมถึง “จักรวรรดิมองโกล”ที่กำลังรุ่งเรืองภายใต้การนำของ “เจงกิสข่าน”
https://www.youtube.com/watch?v=jUL8djmz_6E
โดยดินแดน “ซ่งใต้” ที่เป็นบ้านเกิดของ “ก๊วยเจ๋ง” กำลังถูกมะรุมมะตุ้มจาก 2 ฝ่าย ด้าน “เจงกิสข่าน”เองต้องการไปตีราชวงศ์จินให้แหลกยับ แต่เดินทัพไปตรง ๆ มีสิทธิ์ยืดเยื้อและยากจะเอาชนะ เลยคิดว่าถ้ายาตราทัพผ่านไปทาง “ซ่งใต้” น่าจะดีกว่า
ทว่าการเจรจาขอผ่านทางกับ “ซ่งใต้” ล้มไม่เป็นท่า ทางเดียวที่จะเดินทางไปกำราบพวก “กิมก๊ก” ได้ ก็ต้องตี “ซ่งใต้” ให้แตกก่อน
“ก๊วยเจ๋ง” แม้จะอยู่ในสถานะลูกบุญธรรมของ “เจงกิสข่าน” ผู้มีพระคุณล้นเหลือ แถมราชาแห่งทุ่งหญ้ายังได้ยก “องค์หญิงวาเจน” รับบทโดย “จางเหวินซิน” ให้เป็นคู่ครอง แต่เขาก็ไม่อาจทรยศแผ่นดินเกิด
“ก๊วยเจ๋ง” และ “อึ้งย้ง” จึงต้องหาทางปกป้องบ้านเมือง โดยเฉพาะการปกป้องเซียงหยาง ดินแดนที่ถือเป็นที่เป็นปราการสำคัญใช้ยันทัพมองโกลไว้
ท่ามกลางสงครามที่เริ่มปะทุ ในยุทธภพก็วุ่นไม่แพ้กัน
ใน Legends of the Condor Heroes : The Gallants มอบบทผู้ร้ายแบบจัด ๆ ให้กับ “พิษประจิม อาวเอี๊ยงฮง” 1 ใน 5 สุดยอดจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้
รับบทโดย “เหลียงเจียฮุย” ที่กระหายอยากเป็นที่สุดของความเก่งกล้า พยายามตามหา “คัมภีร์เก้าอิม”
ในพาร์ทการต่อสู้ฟาดฟันของเหล่าผู้มีวิทยายุทธ หนังทำออกมาแบบจัดเต็ม ชวนให้ถวิลหาอดีตความรุ่งเรืองของหนังที่ว่าด้วยคนธรรมดาสามัญ มีความมุมานะในการฝึกฝนวรยุทธและกำลังภายในอย่างหนักหน่วง จนในที่สุดก็บรรลุความสำเร็จ มีพลังอันแข็งแกร่งเหนือธรรมชาติ และกลายมาเป็นผู้พิทักษ์คุณธรรมในแผ่นดิน
Legends of the Condor Heroes : The Gallants รักษา “ไอคอนนิค”ของ “มังกรหยก” ไว้ค่อนข้างครบ ไม่ว่าจะตัวละครที่เป็นที่จดจำ
อย่าง 5 อภิมหาจอมยุทธสุดยอดปรมาจารย์ “มารบูรพา อึ้งเอี๊ยะซือ”, “พิษประจิม อาวเอี้ยงฮง”, “ยาจกอุดร อั้งชิกกง”, “ราชันย์ทักษิณ อิดเต็งไต้ซือ” และ “กลางอิทธิฤทธิ์ เฮ้งเตงเอี๊ยง” หรือกลุ่ม “เจ็ดประหลาดแห่งกังหนำ” อาจารย์ของ“ก๊วยเจ๋ง”, อาวุธประจำกายของแต่ละตัวละคร, สุดยอดวิชาฝ่ามืออย่าง “18 ฝ่ามือพิชิตมังกร”
รวมถึงคัมภีร์เจ้าปัญหาอย่าง “คัมภีร์เก้าอิม” ที่ใคร ๆ ก็อยากได้มาครอบครอง หรือแม้แต่ภาพของ “เกาะดอกท้อ” ของ “อึ้งเอี๊ยะซือ”
“เซียวจ้าน” คงคาแร็คเตอร์ของ “ก๊วยเจ๋ง” ได้อย่างรัดกุม เป็นคนธรรมดาที่ชะตานำพาให้มีวิทยายุทธอันเลิศล้ำ แต่ไม่เคยทระนงตนว่าเก่งเหนือใคร
มีความนอบน้อมถ่อมตน สัตย์ซื่อ รักเดียวใจเดียว ภักดีต่อแผ่นดินเกิด กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เปี่ยมเมตตา
มีฉากที่เขาต้องเข้าซีนดราม่ากับ“หลีเพ้ง” ผู้มารดาของ “ก๊วยเจ๋ง” รับบทโดยดาราสาวมากฝีมือ “ไช่เส้าเฟิน” แม้จะเป็นฉากสั้น ๆ แต่ “เซียวจ้าน” เผยทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน
ส่วน “จวงต๋าเฟย” แม้บท “อึ้งย้ง” ของเธอจะไม่ได้สวมใส่ชุดสวยงามเหมือนเวอร์ชั่นเก่า ๆ และบุคลิกยังไม่เจ้าเล่ห์ซุกซนเท่าดาราสาว “องเหม่ยหลิง”
แต่หลายฉากที่ “จวงต๋าเฟย” ปรากฏตัว นับว่ามีความละม้ายกับ “องเหม่ยหลิง” ไม่น้อย เหมือนได้เห็นอดีตดาราสาวผู้วายชนม์ไปเนิ่นนาน กลับมาโลดแล่นบนจออีกครั้ง
ที่ลืมไม่ได้และเชื่อว่าแฟนานุแฟนของ “มังกรหยก” ยุคโน้นจะอิ่มเอิบใจ ในทุกครั้งที่ดนตรีประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของ “มังกรหยก” ฉบับละครทางทีวีบี ดังกระหึ่มอย่างอลังการ!
Blue Bird22/2/68