แฟ้ม(ไม่)ลับสีกากี
หน้าที่ 4 โดยสมถวิล
ตอน :: สารวัตรสืบหนุ่มบางนารักงานสืบสวนร่วมคลี่คลายคดีใหญ่
สารวัตรหนุ่มหล่ออารมณ์ดีสถานีตำรวจบางนา รักงานสืบสวนแกะรอยไขคดีคนร้ายลักเพชรจากห้างดังย่านบางนา เมื่อปี 2556 ทาง แฟ้ม(ไม่)ลับสีกากี จะพาไปทำความกับสารวัตรหนุ่มหล่อคนนี้
พันตำรวจตรีอภิโชค ขนบดี หรือสารวัตรโอ เกิดเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2527 สารวัตรหนุ่มในวัย 33 ปี พื้นเพเป็นคนกรุงเทพมหานคร เข้ารับการศึกษาชั้นมัธยมที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) ก่อนสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 44 ก่อนแยกเหล่ามุ่งหน้าเข้าสู่รั้วสีกากีโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 60 และจบปริญญาโทคณะรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตจากสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ตำแหน่งแรกในการรับราชการตำรวจต้องย้อนไปเมื่อปี 2550 เป็นพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจพระโขนง ก่อนพลิกบทบาทในปี 2552 เป็นนายตำรวจติดตามของ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ไอซีที) ในขณะนั้นและที่จะกลับมาเดินสายทางสีกากีในยุคของพันตำรวจเอกภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) โดยมาลงตำแหน่งเป็นรองสารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางนา มีเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง “สารวัตรภัทร” พ.ต.ต.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจคลองตัน
ส่วนผลงานที่โดดเด่นของสารวัตรหนุ่มคนนี้เคยร่วมจับกุมคดีปล้นทรัพย์รุมโทรมผู้หญิง 3 คน ผู้ต้องหาคนไทย3คน ต่างด้าว2 คนคดีผู้ต้องหาหลอกลวงประชาชนในเฟซบุ๊กก่อเหตุกว่า 10 คดีและหนีหมายจับนานกว่า 10 ปี โดยใช้เวลาสืบสวนติดตามจับกุมกว่า 10 เดือน , คดีจับผู้ต้องหาลักเพชรในห้างสรรพสินค้าเซนทรัลบางนา เมื่อปี 2556 และคดีมอมยาลักทรัพย์เหยื่อ
“เมื่อประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนเดินทางร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจมุมผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะต้องมีรอยยิ้ม สบายใจกลับไป การทำงานนั้นต้องยึดแบบ(หมา) คือกัดไม่ปล่อยทำตัวเองเปรียบเสมือนหมาล่าเนื้ออยู่ตลอดเวลา บางครั้งต้องอดทนไล่ล่าคนร้ายที่กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้ในเร็ววันและผลสัมฤทธิ์ที่แสดงออกมานั้นคือคนกระทำความผิดจะต้องหมดไปไม่มากก็น้อยจากสังคมไทย”
ส่วนนายตำรวจที่สารวัตรหนุ่มยึดเป็นแบบอย่างในการทำงานแบ่งเป็น 2 คนคือ ด้านงานสืบสวน พล.ต.ท.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ด้านงานบริหาร พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. ซึ่งทั้งสองท่านเหมือนสิ่งศักดิ์ที่คอยให้แสงไฟยามที่กำลังใจการทำงานริบหรี่ เหมือนชาร์จไฟใหม่เวลาได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดการทำงาน
คติประจำใจในการทำงานคือ “รู้หน้าที่ มีฝีมือ ใจกล้า กตัญญู ดูแลเป็น เอาตัวรอดได้”