อีกหนึ่งบทประพันธ์ของ “คอลลีน ฮูเวอร์” ได้ถูกนำมาดัดแปลงสร้างภาพยนตร์อีกเรื่อง
เชื่อว่าแฟนหนังสือของนักเขียนหญิงชาวอเมริกันคนนี้คงไม่พลาดไปชม ซึ่ง Regretting You หรือ “รอยรักปมร้าว” กำกับโดย “จอช บูน” ที่ปรากฏสู่สายตาของผู้ชมไปแล้วเรียบร้อย
ดูวี่แววว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ คงไม่ได้มีดราม่าจัด ๆ แบบที่เกิดขึ้นกับภาพยนตร์เรื่อง It Ends with Us สร้างจากงานเขียนของ “คอลลีน ฮูเวอร์” ที่ในจอเป็นหนังรัก แต่นอกจอนั้นเกิดสงครามระหว่าง “เบลค ไลฟ์ลี่” ดารานำหญิง และ “จัสติน บัลโดนี” ผู้กำกับและดารานำชายของเรื่อง ที่ฟ้องร้องใหญ่โต
เนื่องจาก “เบลค” ภรรยาสุดที่รักของ “ไรอัน เรย์โนลส์” อ้างว่า “จัสติน บัลโดนี” มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ และทีมประชาสัมพันธ์ของฝ่ายชายจงใจสร้างแคมเปญเพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลายเป็นหนังยาวในชีวิตจริงที่คนทั้งโลกรอผลสรุปอยู่
ที่แน่ๆ คดีความระหว่างนักแสดงนำชาย-หญิงทั้งคู่ ได้กลบเรื่องราวของภาพยนตร์ It Ends with Us ที่พูดถึงประเด็นความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรุนแรงไปเลย
ส่วน Regretting You เป็นหนังรักผสมดราม่า ที่ว่าด้วยชีวิตและความรักของคน 2 เจนเนอเรชั่น คือรุ่นพ่อแม่และรุ่นลูก
เรื่องปูพื้นจากรุ่นพ่อแม่ที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น จับคู่เป็นแฟนกันอย่างชัดเจน คือ “มอร์แกน แกรนท์” รับบทโดย “แอลลิสัน วิลเลียมส์” เป็นคู่รักกับ “คริส แกรนท์” รับบทโดย “สก็อตต์ อีสต์วูด”
https://www.youtube.com/watch?v=5pDW5HuUCKI
ส่วน “โจนาห์” รับบทโดย “เดฟ ฟรังโก” เพื่อนรักของทั้งคู่ ก็กำลังคบหากับ “เจนนี่” รับบทโดย “วิลลา ฟิตซ์เจอรัลด์” น้องสาวของ “มอร์แกน” เรียกว่าจับคู่กันลงอย่างลงตัว
แต่ผู้ชมก็จะเอะใจได้ว่าหนังทิ้งเบาะแสบางอย่างถึงความรักของพี่น้อง 2 สาว กับเพื่อนชาย 2 หนุ่ม น่าจะผิดฝาผิดตัวอะไรกันอยู่
หลังจากฉากเปิดที่ย้อนอดีตของรุ่นพ่อแม่ผ่านพ้นไปปุ๊บ หนังก็รวบรัดตัดความข้ามมา 17 ปี ทั้ง 4 คนยังเป็นเพื่อนรักและคู่รักกันอยู่
“มอร์แกน” และ “คริส” มีลูกสาวหน้าตาสะสวย สดใส คือ “คลาร่า” รับบทโดย “แมคเคนนา เกรซ”
ขณะที่คู่ของ “เจนนี่” และ “โจนาห์” แม้ชีวิตรักจะลุ่มๆดอน เลิกราห่างหาย แต่ก็กลับมารักกันใหม่จนมีโซ่ทองคล้องใจ โดยวางแผนจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ในอีกไม่ช้านานดูเผินๆ พวกเขาน่าจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นเต็มไปด้วยความรัก
แต่แล้วก็ถึงจุดหักเหเมื่อ “คริส” และ “เจนนี่” ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต แม้จะเสียใจที่สูญเสียบุคคลที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ
“มอร์แกน” และ “โจนาห์” ก็พบความจริงบางอย่างหลังการตายของสามีและคนรัก ทั้งคู่เลือกที่จะปกปิดเรื่องลับๆ นั้นไว้ไม่ให้ “คลาร่า” รับรู้
ฝ่ายลูกสาวกลับเข้าใจไปว่ามารดาไม่เสียใจมากพอต่อการจากไปของบิดา เด็กสาวแสดงความพยศหลายอย่าง เผอิญที่ในช่วงเวลานั้น “คลาร่า” ก็เริ่มได้ใกล้ชิดกับ “มิลเลอร์ อดัมส์” รับบทโดย “เมสัน เธมส์” หนุ่มฮอตของโรงเรียน
ท่าทีของ “มอร์แกน” ที่ไม่ชอบใจ “มิลเลอร์” และการที่เธอทำเหมือนต้องการลบ “คริส” ออกไปจากชีวิต ยิ่งทำให้ช่องว่างของความสัมพันธ์ระหว่างเธอและลูกสาวถ่างห่างออกไปเรื่อย ๆ กลายเป็นว่ามีกำแพงหนากั้นขวางระหว่างกัน
“คลาร่า” แสดงการต่อต้าน “มอร์แกน”โดยเผลอใช้ “มิลเลอร์” เป็นเครื่องมือหลายครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นการหนีออกจากงานศพพ่อกลางคัน หัดสูบกัญชา หรือหลังจากที่ได้พบสถานการณ์ช็อกบางอย่าง เธอก็ตัดสินใจมอบพรหมจรรย์ให้กับ “มิลเลอร์” เพื่อประชดมารดา
หนังเดินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป เน้นนวดผู้ชมไปเรื่อย ๆ กับบทสนทนาที่อัดแน่นแทบจะทุกฉาก ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน
ว่ากันตามตรงหนังแทบไม่เหลืออะไรให้ผู้ชมกลับไปขบคิดตีความ เพราะประเด็นทุกอย่างถูกชำแหละให้เข้าใจได้อย่างชัดเจน เปรียบเหมือนละครน้ำเน่าอยู่บ้าง
แต่การกระทำของตัวละครก็ไม่ได้ไปให้สุดของความมืดหม่น แถมยังหักกลับมาให้อยู่ในร่องรอยที่ดีงาม บนเส้นทางเต็มไปด้วยแสงสว่าง แม้จะมีบาดแผลกันอยู่บ้าง
ตัวหนังจัดว่าดูกันได้เพลิน ๆ จบแบบฟีลกู้ด ไม่ต้องให้สมองแบกน้ำหนักเยอะ.
Blue Bird26/10/68
