Saturday, November 15, 2025
More
    HomeStories About MeSHOPPER & Shooter จากนักบาสทีมชาติ..สู่โอกาสเป็นตำรวจ

    SHOPPER & Shooter จากนักบาสทีมชาติ..สู่โอกาสเป็นตำรวจ

    การเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย  ล้วนเป็นความฝันของใครหลายคน

    แต่จะมีสักกี่คนที่ไปได้ถึงฝั่งฝันและผลักดันให้เป็นจริง

    เพราะการติดทีมชาตินั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแต่ต้องมาด้วยความสามารถและผ่านการคัดเลือกที่เข้มข้น จึงมีโอกาสติดทีมชาติได้ และกว่าจะมาถึงวันนี้ ไม่มีคำว่าง่าย สำหรับพวกเขาเลย

    ว่าที่ ร.ต.ท.จิตรภณ โตเวโรจน์ หรือหมวดชอปเปอร์ รอง.สว.ฝ่ายฝึกอบรม บก.อก.บช.ก.

    เป็นหนึ่งในนักกีฬาบาสเกตบอลทีมชาติไทย ที่ใช้ฝีมือในการเล่นกีฬาปูทางสร้างโอกาสทางการศึกษาและอาชีพให้กับตัวเอง

    หมวดชอปเปอร์ เล่าถึงความหลังเมื่อครั้งยังเป็นเด็กว่า

    เริ่มเล่นกีฬาเพราะความชอบและความสนุกเหมือนกับเด็กทั่วไป เริ่มจากเป็นนักฟุตบอลโรงเรียน ตอนนั้นยังเป็นเด็กก็ยังแบ่งเวลาไม่เป็น ทุ่มเทให้กับการกีฬามากเกินไปจนทำให้ผลการเรียนคะแนนตกจึงหยุดเล่น แล้วหันมาตั้งใจเรียน  


    ต่อมาเย็นวันหนึ่งระหว่างนั่งรอคุณแม่มารับกลับบ้าน นั่งดูเพื่อนซ้อมบาส  

    พอโค้ชหันมาเห็นก็ถามว่าอยากเล่นไหมพร้อมกับโยนลูกบาสให้ ผมจึงลงไปเคาะ ๆ ลูกบาสกับเพื่อนในสนาม แล้วรู้สึกสนุกจึงไปบอกแม่ว่าอยากเล่นบาส  แม่ก็สนับสนุนเลยครับ

    ผมก็ตั้งใจซ้อมทุกวันจนชนะได้เหรียญทองจากการแข่งขันครั้งแรกในจังหวัดสงขลา  

    จนช่วง . 2 โค้ชมาถามว่าอยากไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ไหม เขารู้จักกับโค้ชของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน  ก็เลยขอแม่มาคัดตัวจนได้ทุนเรียนฟรีมาตลอด  ตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงปริญญาโท

    ผมจบปริญญาตรีที่ มศว. เอกรัฐศาสตร์ และปริญญาโทเอกบริหารธุรกิจการตลาด  ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพ่อแม่ได้อย่างดี

    ซ้อม ซ้อม ซ้อม และก็ซ้อม

    “ความพยายามไม่เคยทรยศใคร”  

    ผมตั้งใจอยากติดทีมชาติเหมือนพี่เจโอ รัชเดช เคลือทิวา รุ่นพี่ทีมชาติไทย   ผมชื่นชอบลีลาการเล่นของพี่เขามาก

    ตอนเรียนมหาวิทยาลัยผมก็ตั้งใจซ้อมหนักทุกวัน แต่ก็โดนโค้ชด่าตลอด  จนเกือบถอดใจแล้ว ก็ได้พี่เจโอที่เป็นผู้ช่วยโค้ชคอยให้กำลังใจทั้งในสนามบาสและสนามชีวิต  


    การมีวินัยและมุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อม ตลอดจนการอดทนอดกลั้นต่อความกดดันต่าง ส่งผลทำให้ผมติดทีมชาติไทยในวัย 19 ปี  

    สำหรับกำลังใจที่สำคัญและทำให้ผมมีวันนี้ได้ก็คือครอบครัวของผมโดยเฉพาะคุณแม่ ที่จะคอยนั่งชิดติดขอบสนามให้กำลังใจลูกเสมอ

    รางวัลแห่งความภูมิใจ

    จุดสูงสุดในการเล่นกีฬาบาสเกตบอลของผม คือ การแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ที่ประเทศจีน  ได้เหรียญทองแดง การแข่งขันซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม รวมทั้งได้เป็นนักกีฬายอดเยี่ยม ตำแหน่ง Shooting Guard 4 ปีซ้อนด้วยครับ

    หนทางสู่วงการสีกากี 

    ก่อนมาเป็นตำรวจ หมวดชอปเปอร์เคยเป็นพลทหารและเป็นพนักงานบาริสต้าร้านกาแฟมาก่อน  

    อยู่มาวันหนึ่งได้พบกับ “โค้ชเส็ง”ประเสริฐ ศิริพจนากุล ผู้ที่ปั้นเขามากับมือในตำแหน่ง “มือปืนระยะไกลของทีม” และ พี่แท่ง พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญเสริม ผกก.สืบสวน ภ.จว.หนองคาย ตอนนั้นเขาเป็น head coach บาสเกตบอลโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้ให้โอกาสชวนผมมาเป็นตำรวจใช้โควต้านักกีฬาทีมชาติ

    ผมตัดสินใจตอบรับทันทีไม่รีรอ  เพราะผมมองเห็นอนาคตและข้อดีของการเป็นตำรวจซึ่งเป็นอาชีพที่มีความมั่นคง   ช่วยดูแลครอบครัวให้สุขสบายและมีสวัสดิการที่ดี ดูแลพ่อแม่

    ต้องบอกว่าได้งานนี้มาก็เพราะ กีฬาเป็นใบเบิกทาง เมื่อผู้ใหญ่ชวนผมจึงตอบรับอย่างไว ผมแค่คิดว่าโอกาสมันไม่เคยรอใคร จึงทำให้ผมตัดสินใจเดี๋ยวนั้น

    สำหรับมือยิง (บาส) คนเก่ง นอกจากกีฬาจะเป็นยาวิเศษแล้ว ยังทำให้มีโอกาสทางการศึกษาที่ดี  มีหนทางสร้างอาชีพที่มั่นคงทำให้เขาได้เข้าสู่เส้นทางแห่งเกียรติยศสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้ตัวเองและวงศ์ตระกูลอีกด้วย

    ขอบคุณที่เข้าใจ 

    หมวดชอปเปอร์ บอกว่าเขาต้องรู้จักที่จะแบ่งเวลาให้สมดุลเพื่อไม่ให้การซ้อบาสกระทบกับการทำงาน เช่น ถ้าเราต้องไปซ้อมในตอนบ่าย ตอนเช้าก็ต้องรีบเข้ามาทำงานก่อน  หากช่วงไหนไม่มีการแข่งขันก็จะเข้ามาทำงานให้เต็มที่  เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน  

    แม้จะเหนื่อยหนักแต่ผมก็รักและต้องรับผิดชอบทั้ง 2 ส่วนนี้ให้ดีที่สุด   ต้องขอบคุณผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานที่เข้าใจผมครับ

    ตำรวจต้นแบบ

    เขายังบอกด้วยว่าหลังจากที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ในวงการสีกากีแล้วเขาก็ได้เห็นแบบอย่างที่ดีจากผู้บังคับบัญชา คือ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผมชอบที่ท่านมีความมุ่งมั่นทำงานอย่างมีคุณภาพ ใส่ใจต่อการให้บริการประชาชน และท่านยังเป็นคนที่รักและใส่ใจต่อผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างดีอีกด้วย


    หัวใจยังอยู่ใต้แป้น
     

    แม้วันนี้ Shooter หมายเลข 7 ผู้นี้จะเสร็จสิ้นภารกิจรับใช้ชาติในฐานะนักบาส ทีมชาติไทย  แต่หัวใจของเขายังผูกพันอยู่กับวงการนี้เสมอ

    เขายังเล่นกีฬาบาสเกตบอลเพื่อพบปะสังสรรค์กันแบบสนุก เพราะการเล่นกีฬาช่วยให้มีสุขภาพกายใจที่แข็งแรง และตอนนี้ยังเป็นโค้ชให้กับทีมSiam Hooper ในรายการ YBL ด้วย 

    นอกจากนี้เขายังได้เปิดศูนย์ฝึกสอนบาสของตัวเองในนาม JT Seven Basketball Academy  อยู่แถวพัฒนาการ 44

    สำหรับใครที่สนใจอยากให้ลูกหลานมาเรียนบาสกับอดีตทีมชาติดาวรุ่งก็สามารถติดตาม ได้ที่ Facebook JT Seven Basketball Academy  

    บาสเลี้ยงชีพไม่ได้แต่เลี้ยงหัวใจให้มีความสุข

    หมวดชอปเปอร์ ยังได้ฝากถึงน้อง ที่ชอบเล่นบาสว่าต้องรู้หน้าที่ของเราคือ “เรื่องเรียนเป็นหลัก เรื่องบาสเป็นรอง

    ถึงจะชอบบาสเกตบอลมากแค่ไหนต้องไม่ทิ้งการเรียนและเราต้องมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน  

    อย่างน้อยต้องเรียนจนจบปริญญาตรี ให้มีรูปและใบปริญญาติดฝาบ้านเป็นความภาคภูมิใจให้กับพ่อแม่  และยังได้นำไปประกอบอาชีพสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้

     

    กีฬาบาสเกตบอลอย่างเดียวยังไม่มีความมั่นคงพอที่จะยึดเป็นอาชีพ  เมื่อหมดฤดูกาลแข่งขันก็ทำให้เราขาดรายได้นะ

    เล่นสนุกในสนามแข่งได้แต่ต้องตั้งใจสร้างอนาคตของตัวเองด้วย  คือเป็นนักกีฬามันได้เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แล้วมีวันหมดอายุ แต่ถ้าเราทำงานที่มั่นคงก็อยู่ได้จนวันเกษียณนะครับ“

    อดีตนักบาสทีมชาติไทยยังบอกด้วยว่า

    วันนี้  เขาได้บรรลุเป้าหมายในชีวิตและพิชิตฝันอย่างที่ตั้งใจไว้หมดแล้ว  ทั้งด้านกีฬาและหน้าที่การงาน  หมวดชอปเปอร์ ใช้สูตรสำเร็จเดียวกันคือ

    ขยัน อดทน มีวินัย และใส่ใจรับผิดชอบ

    หวังว่าเรื่องราวของหมดชอปเปอร์มือปืนระยะไกล (ที่ไม่ใช้กระสุน) แต่ใช้ต้นทุนคือความสามารถด้านกีฬา  คงจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนได้เดินบนเส้นทางสายเกียรติยศนี้และมีอนาคตที่สดใสนะคะ

    เด็ดดาว  รายงาน15/11/68

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments