ถ้าได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Pope’s Exorcist หรือ “โป๊บปราบผี” ที่ “รัสเซล โครว์” นักแสดงชาวนีซีแลนด์–ออสเตรเลีย ที่มีรางวัลออสการ์การันตีฝีมือ รับบทเป็น “บาทหลวงแกเบรียล เอมอร์ธ” ออกฉายเมื่อปี 2566 ก็อย่าได้สับสนใจไป ที่เห็นว่าปีนี้ รัสเซล โครว์ กลับมาอีกในบทหลวงพ่อปราบปีศาจเรื่อง The Exorcism หรือ “นรก สิง สาป”
เพราะตัวละครที่เขารับบททั้ง 2 เรื่อง คือคนละบทบาท เพียงแต่ผู้ชมก็จะได้เห็น รัสเซล โครว์ สวมเครื่องแบบนักบวชของศาสนาคริสต์อีกครั้งเท่านั้น
ใน The Pope’s Exorcist บทของ บาทหลวงแกเบรียล เอมอร์ธ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนักบวชคริสต์นิกายคาทอลิกชาวอิตาเลียน ใรชื่อเดียวกัน หลวงพ่อคนนี้มีชื่อเสียงเรื้องทำพิธีไล่ผีมามากกว่า 60,000 ครั้งในระหว่างที่ปฏิบัติศาสนกิจ
บาทหลวงแกเบรียล เอมอร์ธ ตัวจริงยังเคยอ้างว่า “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” ผู้นำกองทัพนาซีเยอรมัน และ “โจเซฟ สตาลิน” ผู้นำของสหภาพโซเวียต ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นจอมเผด็จการ “ถูกปีศาจร้ายครอบงำ”
แต่ใน The Exorcism นั้น รัสเซล โครว์ รับบท “แอนโธนี มิลเลอร์”ดาราตกกระป๋อง ขี้เหล้าเมายา ทอดทิ้งภรรยาและลูกสาวของตนเอง ในช่วงที่ภรรยาถูกมะเร็งคร่าชีวิตจนลาโลก ชีวิตที่เหมือนไม้หลักปักขี้เลยของเขาก็เป็นหลักให้กับลูกสาวไม่ได้
แต่สุดท้าย “ลี” ที่รับบทโดย ไรอัน ซิมป์กินส์ลูกสาวคนเดียวของ แอนโธนี ก็ยังต้องดูแลหอบหิ้วพ่อให้กลับมาเป็นผู้เป็นคน เพราะชีวิตก็มีกันอยู่แค่สองคนพ่อลูก
ทว่าถึงจะตกอับอย่างไร โอกาสคืนสู่วงการบันเทิงก็ถูกหยิบยื่นถึงมือ แอนโธนี เมื่อกองถ่ายภาพยนตร์กองหนึ่งขาดนักแสดงที่จะมารับบท“นักบวชไล่ผี” หลังนักแสดงคนเก่าที่สวมบทนี้ เจออุบัติเหตุจนเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนากลางกองถ่าย
แอนโธนี จึงพยายามทำงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อกลับมาผงาดอีกครั้ง ทว่ายิ่งถ่ายทำไป ผีมือการแสดงของดารารุ่นเก๋าคนนี้ ก็ยังไม่ถูกใจผู้กำกับสักที ทำให้ผีร้ายเริ่มเฮี้ยนหนักข้อขึ้น จนทุกอย่างแทบจะสายเกินไป
เดชะบุญที่ในที่สุด ลี ก็ได้รู้ว่าบุพการีโดนผีสิง เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากบาทหลวงจากโบสถ์ให้มาช่วยปัดเป่าและหาทางปลดปล่อยพ่อของเธอจากผีร้าย
การเดินเรื่องที่แม้จะมีการสลับฉากย้อนอดีตไปมากับปัจจุบัน แต่ผู้ชมก็รับรู้ได้ฉับพลันว่า แอนโธนี่ ไม่ใช่แค่เป็นชายผู้มีชีวิตล้มเหลว แต่มี“ปีศาจบางตน” สิงร่างและควบคุมเขาอยู่ ซึ่งลักษณะทางกายภาพก็บ่งบอกให้เห็นแบบแจ่มแจ้งแดงแจ๋
เช่น เสียงพูดที่แปรเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ความหยาบโลนในคำพูด มีจุดด่างสีเทาบนผิวหนัง และยังไปให้สุดด้วยการให้ร่างของเขาบิดเบี้ยวหักงอ อันเป็นท่วงท่าถูก “ผีสิง” แบบที่เคยคุ้นกันในภาพยนตร์แนวผีสิงร่างมนุษย์
เรียกได้ว่าภาพยนตร์เดินเรื่องเหมือนนวดผู้ชมไปเรื่อย ๆ กว่าจะไปถึงจุดไคลแม็กซ์ ซึ่งก็อาจทำให้ผู้ชมอดหงุดหงิดใจไม่ได้ ก็ตรงที่ผู้ชมนอกจอ รู้อย่างกระจ่างแจ้งว่าตัวละครตกอยู่ภายใต้อำนาจของปีศาจร้าย
แต่กว่าลูกสาวที่อยู่ร่วมบ้านกันจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเกิดเรื่องร้ายกับบิดาของตน ก็ใช้เวลานานอยู่พอสมควร ไม่นับรวมว่าการเซ็ตฉากให้มืดจนอึดอัดอยู่หลายฉาก แต่จังหวะที่เล่นกับอารมณ์ตื่นตระหนกของผู้ชมยังทำงานได้ผล
ฉากที่เป็น “ภาพจำ” ของภาพยนตร์ตระกูล “The Exorcist” อย่างฉากไล่ผีในห้องนอน โดยผีสิงสู่อยู่ในร่างหญิงสาวและไม่ยอมไปไหน ยังคงไว้อย่างไม่ตกหล่นใน The Exorcism
ส่วนที่ใครอยากจะหาความเชื่อมโยงของ The Exorcism กับจักรวาล The Exorcist ก็อาจจะเชื่อมกันที่ชื่อของผู้กำกับคือ โจชัว จอห์น มิลเลอร์ลูกชายของ เจสัน มิลเลอร์ ดาราสมทบในบท “บาทหลวงเดเมียน คาร์คัส”ในภาพยนตร์ระดับตำนานเรื่อง “The Exorcist” ที่ออกฉายในปี 2516
และใน The Exorcism บทยังมอบให้ รัสเซล โครว์ สวมบท แอนโธนี ชายผู้มีนามสกุลว่า “มิลเลอร์” อีกด้วย!
Blue Bird22/6/67