หนึ่งในภาพยนตร์แฟรนไชส์แอ็คชันเกาหลี ตระกูล “The Roundup”ที่เชื่อว่าแฟนานุแฟนที่ได้ดูกันมาตั้งแต่ภาคแรกคงไม่พลาด
เมื่อคนทำหนังฝั่งแดนกิมจิ ขยันทำส่งออกมาเสิร์ฟแก่ผู้ชม โดยภาคแรกนั้น ไม่ได้ใช้คำว่า “The Roundup” แต่ใช้ชื่อเรื่องว่า “The Outlaws” (เถื่อน เหนือกฎหมาย) กำกับโดย คัง ยุนซุง ออกฉายในปี 2560 ฟันรายได้ทั่วโลกไปเกือบ 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 2,000 ล้านบาท
แน่นอนว่าตัวเลขที่ว่านี้ย่อมกระตุ้นให้สานต่อภาค 2 ทันที
ภาคต่อมาที่ถือว่าเป็นภาค 2 ใช้ชื่อ “The Roundup” (บู๊ระห่ำล่าล้างนรก) กำกับโดย อี ซังยง ออกปรากฏแก่สายตาผู้ชมในปี 2565 แม้จะรอนานถึง 5 ปี เพราะอย่าลืมว่าโลกโดน “โควิด–19” เล่นงานสาหัสแค่ไหนในช่วงปี 2563 เป็นต้นมา
แต่การมาถึงของ “The Roundup” ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามกวาดรายได้ทั้งโลกแบบถล่มทลายมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งนักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี มา ดงซอก หรือ ดอนลี ที่มีพลังหมัดระดับพระกาฬอันตราตรึงใจผู้ชมมาตั้งแต่ “The Outlaws” กลายเป็นตัวละครที่ผู้ชมรักไปโดยปริยายกับบท “ตำรวจน้ำดี” แห่งกรุงโซล ที่ชื่อว่า มาซอกโด
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ “The Roundup” ทำให้ “The Roundup :No Way Out” (บู๊ระห่ำล่าล้างนรกทุบนรกแตก) ที่เป็นภาค 3 ยังใช้บริการของผู้กำกับ อี ซังยง ทำให้ผู้ชมสนุกสุดฟินอีกครั้งในปี 2566 เรียกว่าตีเหล็กตอนกำลังร้อน ๆ โดยภาคนี้ทำงงินไปกว่า 83 ล้านดอลลาร์
และตอนนี้ “The Roundup : Punishment” หรือ “บู๊ระห่ำ ล่าล้างนรก”ที่เป็นภาค 4 กำกับโดย ฮอมยองแฮง ลงโรงให้ผู้ชมได้เห็นหมัดมวยและการสืบสวนแบบจัดหนักเต็มสิบไม่หักของนักสืบคนเก่ง มาซอกโด ที่รับบทโดย ดอนลี อีกครั้ง
ในภาคนี้ มาซอกโด และผองเพื่อนตำรวจของเขา ต้องเจอ “งานยาก” กว่าที่ผ่าน ๆ มา เพราะคดีเป็นคดีที่ข้องเกี่ยวกับ “อาชญากรรมทางออนไลน์”
แม้ว่าการไขคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะเป็นหน้าที่หลักของตำรวจไซเบอร์ แต่เรื่องราวในภาคนี้มี “ความตาย” ของใครหลายคนเข้ามาข้องเกี่ยว มาซอกโด จึงไม่อาจอยู่นิ่งเฉย และขอสาวเท้าเข้ามาสืบคดีอย่างเต็มตัว!
https://www.youtube.com/watch?v=0MASAgW9oMU
เนื้อหาของคดีความใน “The Roundup : Punishment” เล่นกับเรื่องของ “การพนันออนไลน์” รวมไปถึงการที่ แก๊งอาชญากรรมส่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด “ผ่านบริการขนส่งพัสดุออนไลน์”
แต่เรื่องราวเน้นน้ำหนักไปที่การหาทางทลายที่มั่นของกลุ่มคนร้ายที่ตั้งบ่อนออนไลน์ในต่างประเทศโดยเฉพาะในฟิลิปปินส์ วายร้ายกลุ่มนี้มีเส้นทางการทำงานอันสลับซับซ้อน ทั้งตั้งบริษัทบังหน้าเพื่อฟอกเงิน ซึ่งสุดท้ายแล้วเงินที่ได้มาจากการพนันออนไลน์ ก็จะถูกส่งต่อไปยัง “นายใหญ่” ที่มีชื่อเสียงมีหน้ามีตาในสังคมชั้นสูงของเกาหลี
หนังเปิดเรื่องด้วยการตายของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ถูกแก๊งพนันออนไลน์ จับไปกักขังและทารุณบังคับให้ทำเว็บพนัน
ทว่าเด็กหนุ่มถูกเด็ดชีวิตโดยฝีมือของ แบกชางกี รับบทโดย คิมมูยอล อดีตนักรบรับจ้างกองกำลังพิเศษที่ถูกไล่ออกจากราชการ และผันตัวมาคุมงานเว็บพนันให้กับ ชางดงชอล (อีดงฮวี) ซีอีโออัจฉริยะด้านไอทีของเกาหลี
มาซอกโด ให้สัญญากับมารดาผู้หัวใจสลายของเด็กหนุ่มเหยื่อเว็บพนัน ว่าจะเอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้
แต่การไขคดีทางไซเบอร์ก็ไม่สามารถทำได้ด้วยกำลังของหน่วยสืบสวนฝ่ายไซเบอร์เท่านั้น มาซอกโด จึงต้องอาศัยประสบการณ์ของ จางอีซู สวมบทโดย พัค จีฮวาน คู่หูปราบอาชญากรอย่างไม่เป็นทางการของเขา ที่ปรากฏตัวมาตั้งแต่ภาค “The Outlaws” แถมยังเป็นตัวละครที่ “ตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด” ในจักรวาล “The Roundup” มาช่วย มาซอกโด ล้มล้างเว็บพนันออนไลน์สุดชั่วร้ายกลุ่มนี้ให้สิ้นซาก
“The Roundup : Punishment” ยังคง “หลักการ” ของภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวน มีลูกล่อลูกชนระหว่าง “ฝ่ายธรรมะ” และ “ฝ่ายอธรรม”
หยิบเอาเรื่องราวที่เป็นกระแสและปัญหาสังคมมาบอกเล่า โดยวางน้ำหนักความจริงจังในเรื่องราวและความขำขันเฮฮาออกมาอย่างกลมกล่อมทั้งยังคง “จุดขายหลัก” คือฉากแอ็คชัน บู๊หมัดประเคนใส่กันอย่างสะใจ
และสิ่งที่ทำให้ผู้ชมเบาใจทุกครั้งก็คือทุกฉากที่ มาซอกโด ปรากฏ หากมองว่าการสร้างคาแร็คเตอร์ของ มาซอกโด คือความสำเร็จของการสร้างตัวละครในรูปแบบ “ความเจ็บทำอะไรไม่ได้ ความตายทำอะไรไม่เป็น” ก็คงไม่ผิดนัก
นี่คือตัวละคร “ตัวละครในอุดมคติ” ที่เป็นตัวแทนของของผู้กล้าหาญ ที่ไม่ยอมก้มหัวให้อำนาจ อิทธิพล หรือความอยุติธรรมใดๆ แต่พร้อมที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข ยืนเคียงข้างประชนชน เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ปวงประชาหวังพึ่งพาอย่างที่สุด
Blue Bird1/6/67