ย้อนกลับไปในปี 2539 มีภาพยนตร์แนวภัยพิบัติธรรมชาติเรื่อง Twister ออกปรากฏสู่สายตาคอหนังทั่วโลก
เป็นงานกำกับของ ยาน เดอบองต์ ที่เคยมผลงานแอ็คชันท้านรกบนรถโดยสารประทำทางอันลือลั่นอย่าง Speed ภาพยนตร์ที่ คีอานู รีฟ และ ซานดรา บุลล็อค ดังเป็นพลุแตกเมื่อปี 2537
การรับงาน Twister ของเดอบองต์ ไม่เพียงเป็นหนังฟอร์มยักษ์ในช่วงเวลานั้น แต่ยังเป็นการร่วมปั้นงานหนังภัยพิบัติธรรมชาติของคนวงการภาพยนตร์ฝีมือฉกาจและทุกวันนี้คนเหล่านั้นก็ขึ้นชั้นตำนานไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น สตีเวน สปีลเบิร์ก ฉายาพ่อมดแห่งฮอลลีวูด รวมถึง ไมเคิล ไครช์ตัน นักเขียนดังชาวอเมริกันผู้ล่วงลับ ซึ่งงานเขียนเลื่องชื่อของเขาก็เช่น Jurassic Park, Congo, Rising Sun ฯลฯ
เมื่อภาพยนตร์ Twisters เวอร์ชันปี 2567 มาถึง ก็ทำให้ผู้เขียนซึ่งมีโอกาสได้ชม Twister ฉบับปี 2539 สงสัยว่าเนื้องานของ Twisters ฉบับล่าสุดที่จะลงโรงภาพยนตร์ในปีนี้จะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าสิ่งที่เตะตาแรก ก็คือการเติมอักษร “s” เข้าไปที่ท้ายคำ Twister นั่นเอง!
Twisters เวอร์ชันปี 2567 กำกับโดย ลี ไอแซค ชุง ที่เคยฝากฝีมือกำกับภาพยนตร์เกี่ยวกับครอบครัวเรื่อง Minari เมื่อ 2363 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในหลายเวทีรวมถึงออสการ์ ซึ่งว่ากันตามโครงเรื่องและการวางตัวละครใน Twisters ฉบับ 2567 ยังเป็นสูตรที่ไม่ต่างจากเวอร์ชัน 2539 เท่าใดนัก
พระเอก-นางเอก “บิลล์-โจ ฮาร์ดิง” ใน Twister (2539) ที่สถานะการเป็นคู่ชีวิตกำลังจะกลายเป็นอดีตฝ่ายชายต้องการลายเซ็นในใบหย่าจากฝ่ายหญิงเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงคน ทว่าทั้งคู่กลับต้องมาร่วมมือกันในการตามไล่ล่าพายุทอร์นาโด เพื่อจะทดลองทางวิทยาศาสตร์ด้วยเครื่องมือที่ชื่อ “โดโรธี” อันเป็นเครื่องมือที่พวกเขาคิดค้นขึ้น การแก้ปัญหาพายุจึงมาพร้อมกับการแก้ปัญหาความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่
ส่วน Twisters (2567) ตัวละครในภาคนี้ไม่มีเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับฉบับ 2539 จะมีก็เพียงเครื่องมือหนึ่งที่ถูกแนะนำว่าชื่อ “โดโรธี” เช่นกัน ซึ่งเครื่องมือนี้งานได้อย่างน่าทึ่งในพายุทอร์นาโด
https://www.youtube.com/watch?v=96DA9BcrCLg
นางเอกของ Twisters(2567) คือ เคท คูเปอร์ (เดซี เอ็ดการ์-โจนส์) นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศ ได้ใช้ “โดโรธี” ต่อกรกับพายุรุนแรงในวัยยังเป็นนักศึกษา
ทว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเธอกลับต้องสูญเสียทั้งคนรักและเพื่อนรักไปกับพายุ
ทำให้หญิงสาวจมอยู่กับความรู้สึกผิดและย้ายชีวิตไปอยู่นิวยอร์ก ไม่ยอมหวนกลับรัฐโอคลาโฮมาบ้านเกิด ที่ถือว่าเป็นรัฐหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่เผชิญกับการทำลายล้างของพายุรุนแรงบ่อยครั้ง จนได้ชื่อว่าเป็น “ตรอกทอร์นาโด”
แต่แล้ววันหนึ่ง ฮาร์วี (แอนโธนี รามอส) เพื่อนเก่าก๊วนล่าพายุก็เดินทางขอความช่วยเหลือจาก เคท เนื่องจากเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของเธอที่ล่วงรู้ว่าพายุจะเกิดที่ไหน
ฮาร์วี หว่านล้อมสาวเพื่อนเก่าว่าเครื่องมือที่พรั่งพร้อมของเขาจะช่วยให้ผู้คนรอดพ้นจากอันตรายจากพายุ ไม่หมดเนื้อหมดตัวไปกับความพังพินาศของบ้านเรือนและที่ทำกิน ซึ่ง เคท ยอมตกลงช่วย ฮาร์วี และหวนคืนบ้านเกิดอีกครั้ง
การมาโอคลาโฮมาทำให้เธอได้พบกับทีมนักล่าพายุที่นำโดย ไทเลอร์ โอเวนส์ (เกล็น พาวเวลล์) ยูทูเบอร์หนุ่มหล่อมาดคันทรี่ ลูกทุ่งมาเอง และมีลีลาการไลฟ์สดสุดยียวน นอกจากจะตะลุยไลฟ์ลงช่องตัวเองแล้ว ไทเลอร์ ยังมีนักข่าวร่วมทริปมากับเขาด้วย
ในช่วงที่ชิงกันออกล่าพายุ เคท ก็ได้รู้ว่ายูทูเบอร์คนดังอย่าง ไทเลอร์ ก็เป็นนักอุตุนิยมวิทยาและทีมของเขาไม่ใช่แค่การสร้างชื่อเสียงลงโซเชียลเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีหัวจิตหัวใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากจากการผลาญทำลายของพายุ
ต้องบอกว่าหนึ่งในความแข็งแรงของ Twister (2539) ก็คือบทได้ใส่พื้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ให้ขับเคลื่อนไปพร้อมกับความบันเทิงในรูปแบบของภาพยนตร์ได้อย่างลงตัว ซึ่ง Twisters (2567) ยังคงรักษาความแข็งแรงนี้ไว้อย่างครบถ้วน และยังเพิ่มเติมความรู้ใหม่ ๆ ลงไปทำให้เรื่องราวสมจริงยิ่งขึ้น
ชูโรงด้วยสถานการณ์อันตื่นระทีกที่ไต่ระดับจากพายุแรงแบบย่อยๆ ไปจนถึงแรงแบบมหากาฬ ในขณะเดียวกันก็ค่อยๆให้ตัวละครได้ปลดเปลื้องปมความเจ็บปวดที่ฝังในใจ เมื่อความทุกข์ทนทุเลาลง ชีวิตก็จะอ้ารับสิ่งใหม่และเปิดโอกาสให้หัวใจตัวเองได้พบกับความสุขอีกครั้ง
ไม่ต่างจากผู้คนที่เผชิญชะตากรรมอันโหดร้ายจากพายุ สูญเสียคนที่รักอย่างไม่มีวันกลับ ไร้บ้าน ไร้ที่ทำกิน แต่เมื่อมีคนหยิบยื่นน้ำใจความช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน ก็เป็นแรงใจที่จะช่วยให้พวกเขาฟื้นชีวิตกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง
จริงอยู่ที่ Twisters ไม่ได้เล่าเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อน ชวนให้ไขปริศนาตรงนั้นตรงนี้ แต่เลือกที่จะทำบทแบบเบาๆ และเดินเรื่องแบบเป็นลำดับขั้น
แต่สิ่งที่ได้มาคือความสนุกสนาน มีครบทุกอารมณ์ และส่งต่อความงดงามของการแบ่งปันระหว่างเพื่อนมนุษย์.
Blue Bird13/7/67