เปิดใจ จ่าหม่ำ สืบคนดังสุทธิสาร วินาทีเซียนไฮโล ดับ
หลังเกิดเหตุฉาวข่าวตำรวจสืบสวนสน.สุทธิสาร รุมยำนักพนันไฮโลหนุ่มเสียชีวิตขณะเข้าจับกุมในชุมชนรุ่งเรืองตอนปลาย เมื่อคืนวันที่ 2พ.ย. โดยพยานแฉชื่อ จ่าหม่ำ อยู่ในชุดจับกุมก่อเหตุ พร้อมๆกับพ่อและเมียผู้ตายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะที่ตำรวจใหญ่น้อยออกมาบอกว่าเป็นการปฏิบัติตามยุทธวิธี ไม่ได้เป็นการซ้อมหรือทำร้ายผู้ต้องหา ส่วนผลชันสูตรเบื้องต้นออกมาระบุสาเหตุการตายเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตผู้ตายล้มเหลว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กากีกลาย จะพาไปฟังข้อเท็จจริงอีกด้านจากฝั่งตำรวจ โดยเฉพาะ จ่าหม่ำ หรือด.ต.สุรพงศ์ โพธิจักร ผบ.หมู่ ป.ช่วยงานสืบสวน สน.สุทธิสาร ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่มานาน บ้างว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร
“ผมดังยิ่งกว่าดาราเลยตอนนี้” แม่ก็โทรมาถามเพราะเป็นห่วง แต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่อย่างนั้น วันเกิดเหตุผมออกตรวจตามปกติ ไปกัน7คนตามข่าว มีผู้กอง 2 คน แต่ในฐานะที่ผมอาวุโส และอยู่ในพื้นที่มานาน เขาเลยให้เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการณ์ วันไปจับก็เข้าไปจับกุมตามข่าวได้ผู้หญิงมา1คนด้วยแต่เกิดเหตุชุลมุนกัน เลยไม่รู้หายไปตอนไหน แต่คนตายเมามาก ไม่ได้กินเบียร์กระป๋องเดียวตามข่าว
“แล้วพยานที่บอกว่าตำรวจรุมกระทืบถีบใส่กำแพงไม่ได้เป็นความจริง ตรงนั้นเป็นสังกะสี ผมนั่งดูอยู่ไม่ได้ไปจับด้วย เพราะไหปลาร้าผมหัก ขาก็เป็นเก๊าท์ ผมยังบอกพวกเลยว่าระวังคนตายจะโดนสังกะสีบาดนะ แล้วตัวผู้ตายตัวใหญ่มากน้ำหนักน่าจะ120 กก.ได้แขนนี้ตันเลย”
จ่าหม่ำคนดังย่านสุทธิสารเล่าอีกว่า ตอนใส่กุญแจมือ ครั้งแรกใส่ข้างหน้า แต่ใส่ได้แค่2กริ๊ก ใส่ไม่สุด เขาสะบัดจนกุญแจหลุดแล้วเขาฮึดฮัดวิ่งหนี ต่อยไอ้จ๊อด ด.ต.กิตติพงษ์ปากแตก ก็มีตำรวจคนหนึ่งเตะตัดขาเพื่อให้ล้ม ตามยุทธวิธี เพราะตัวเขาใหญ่ คราวนี้พอล้ม ตำรวจก็พยายามใส่กุญแจมือไขว้หลัง ก็มีนั่งทับ ยอมรับว่ามีเหยียบแต่เหยียบที่ขาอ่อนเขา ผมยังบอกพยานคนที่เล่าให้สื่อตำรวจรุมกระทืบเลยว่า บอกมันด้วยจะหนีทำไม เล่นพนันโทษแค่ปรับ ถ้าขัดขืนจะโดนอีกข้อหา ขัดขืนการจับกุมของเจ้าพนักงานนะ แต่พอจับเขาลุกขึ้นมานั่ง เขาก็เหมือนหายใจไม่ออก คงจะเหนื่อยก่อนช็อกหมดสติ
แล้วที่เห็นในคลิป ก็เอามาออกไม่จบ มาบอกว่าพวกผมหนี ผมไม่ได้หนีในคลิปดูได้เลยพวกผมพยายามช่วยเหลือมีปฐมพยาบาลเบื้องต้นปั๊มหัวใจเรียกกู้ภัยมาช่วย รอจนสายตรวจผลัดใหม่มา ส่วนพยานที่พูดเป็นตุเป็นตะ ว่าพวกผมรุมกระทืบ เพราะผมนี่อยู่มานาน
“เคยจับน้องชายแท้ๆพยานคนนี้ข้อหา ครอบครองยาไอซ์เพื่อจำหน่าย จะขึ้นศาลเดือนมกราคมนี้ลูกสาวคนโตเจอสน.บางซื่อ ล่อซื้อ ลูกสาวคนเล็กก็โดนสุทธิสารจับคดียาอีกแต่นานแล้ว ส่วนเมียคนตายที่อุ้มลูก2คน ก็เป็นลูกติดเมีย คนตายเป็นผัวใหม่ครับ”
เหตุเกิดขึ้น ผมต้องขอบคุณผู้บังคับบัญชา แต่ละท่านดีมาก ให้กำลังใจ โดยเฉพาะท่านผู้การ น.2 มาฟังข้อเท็จจริงแล้ว ยังชมพวกผมเลยว่าทำงานดี ออกปฏิบัติตามหน้าที่ ถึงมีผู้ต้องหาเสียชีวิตระหว่างการจับกุม ไม่ได้มาจากการกระทำที่นอกเหนือหน้าที่ แต่จริงๆก็ลุ้นนะครับว่าผลชันสูตรจะออกมาอย่างไร พอออกมาว่าเสียชีวิตเพราะระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลวก็เบาใจ และแสดงให้เห็นว่า ผมไม่ได้รุมทำร้ายผู้ตายอย่างที่ถูกกล่าวหา ไม่ได้ท้ออะไร ส่วนคดีที่ญาติคนตายมาแจ้ง ก็ว่ากันไป ผมไม่ได้เข้าไปยุ่ง ส่วนเรื่องคนตาย ก็อาจจะร่วมกับพวกเรี่ยไรเงินส่วนหนึ่งช่วยเหลือตามมนุษยธรรม แม้จะไม่มาก
ครับ เรื่องนี้แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน แต่ที่เห็นได้ชัด นี่คือตัวอย่างหนึ่งของการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เป็นไปดังคำ พล.ต.ต.ขุนพันธ์รักษ์ราชเดชที่ว่า
” เป็นตำรวจ เหมือนยืนอยู่บนปลายเข็ม เหยียบหนักเจ็บมาก เหยียบเบาเจ็บน้อย คำว่าไม่เจ็บไม่มี มึงคิดดีแล้วหรอที่จะมาเป็นตำรวจ ใจมึงต้องหนักแน่นดั่งขุนเขา ถึงจะมาเป็นตำรวจได้ “