Thursday, November 28, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันดีเอสไอพบเอกสารเงิน2.5ล.เชื่อถูกจัดทำช่วยเหลือบอสดิไอคอน

    ดีเอสไอพบเอกสารเงิน2.5ล.เชื่อถูกจัดทำช่วยเหลือบอสดิไอคอน

    เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 พ.ย.67กรมสอบสวนคดีพิเศษพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินของนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช อดีตรองโฆษกพรรค พปชร. และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แนายม่สามารถ ว่า

    วันนี้นัดหมายประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเรื่องคดีการร่วมกันฟอกเงินของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และจะมอบหมายให้โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

    พบเอกสารจัดทำช่วยเหลือผู้ต้องหา

    ส่วนประเด็นที่พบพยานเอกสารเท็จว่าอาจถูกจัดทำขึ้นโดยผู้มีความรู้เรื่องกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหานั้น  หากดีเอสไอพิสูจน์ได้ว่าเป็นการทำพยานหลักฐานเท็จจะมีความผิดทางอาญาได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถพูดได้ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานเท็จหรือไม่ แต่น่าเชื่อได้ว่ามีการจัดทำเอกสารขึ้นมา

    ฝีมือทนายให้ยืนยันข้อมูลโอนเงิน

    มีรายงานว่า  ประเด็นเรื่องการตรวจพบเอกสารฉบับดังกล่าว เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 25 พ.ย.คณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำหมายค้นและหมายจับเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 2 แห่ง คือ บ้านนายสามารถในหมู่บ้านหรู ย่านถนนพรานนก-พุทธมณฑล แขวงบางพรหม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และ บ้านนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่นายสามารถ ที่บ้านพักในซอยพญานาค เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

    พบเอกสารที่ ระบุวันที่ 12 พ.ย.จัดทำขึ้นโดยทนายคนหนึ่ง อ้างว่าจัดทำขึ้นที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ขอให้ยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อมูลการโอนเงินให้กับมารดานายสามารถ  

    รับโอน12ครั้งยอดรวม2.2ล.-คืนหมดแล้ว

    เนื้อหาในรายละเอียดแจ้งการรับโอนเงินรวม 2,200,000 บาท รวม 12 ครั้ง  ชี้แจงว่าเป็นการกู้ยืมเงินและนายสามารถชำระคืนเป็นเงินสดแล้ว บางรายการแจ้งเป็นเงินที่ฝากไปทำบุญ บางรายการแจ้งว่าเป็นการกู้ยืมเงิน บางรายการทำบุญทอดกฐิน แถมมีหนังสือเอกสารว่าขอบคุณ มารดาของนายสามารถ ที่ได้กู้ยืมเงินและได้คืนหมดแล้ว

    บ่งบอกพิรุธหลายเรื่อง

    จากพฤติการณ์ของหนังสือดังกล่าว แหล่งข่าวบอกถึงความเท็จ หลายประการ เช่น 1.การยืมเงินเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีมาโดยตลอดทุกๆ ครั้ง แต่ทำไมการคืนเงิน บอสพอล จึงรับว่าได้รับเงินคืนเป็นเงินสดครบถ้วน ไม่ใช่ปกติของวิญญูชน

    2.การทำบุญเป็นหลักแสน ย่อมต้องมีใบอนุโมทนาบัตร เพื่อที่ต้องใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้ ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ดังนั้นเงินทำบุญถ้าอ้างไปถึงวัดใดแล้ว ย่อมจะเป็นพยานหลักฐานในการมัดตัวให้แน่นหนาขึ้น

    3.เอกสารดังกล่าว เป็นบุคคลที่มีความรู้ทางด้านกฎหมายน่าจะพยามหาช่องทางในการช่วยซ่อนเร้น ความจริงที่เกิดขึ้นจากการกระทำความผิดโดยมีเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิดไว้เป็นการล่วงหน้า มีการมาร์คจุดเครื่องหมายให้บอสพอล ลงชื่อในจุดต่างๆที่ต้องการ ซึ่งย่อมไม่ใช่เอกสารที่แสดงเจตจำนงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

    แต่น่าจะเป็นเรื่องของบุคคลดังกล่าวต้องการช่วยเหลือลูกความมิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง อันไม่ใช่หน้าที่ของทนาย

    มั่นใจไม่ใช่ฝีมือ“บอสพอล”

    นอกจากนี้ ในเอกสารดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนยังเชื่อว่า ไม่ใช่เอกสารที่ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” เป็นผู้จัดทำขึ้น แต่อาจเป็นเอกสารที่บุคคลและคณะบุคคลร่วมกันในการจัดทำขึ้นอันเป็นเท็จ เพื่อจะช่วยเหลือผู้กระทำความผิด หรือผู้ต้องหาที่กระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องรับโทษ ตามมาตรา 189  ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และประพฤติผิดในจรรยาบรรณทนายความ

    อย่างไรก็ตาม คณะพนักงานสอบสวนจะนำประเด็นดังกล่าวเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    โฆษกยันคดีแชร์ลูกโซ่คืบกว่า80%

    ต่อมาเวลา 13.30 น.  หลังการประชุม พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า การประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีการรับทราบมติในที่ประชุมและรายงานความคืบหน้าจากการได้ไปรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี รวมถึงติดตามสถานการณ์ทางคดีพิเศษที่ 119/2567 การดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก หรือแชร์ลูกโซ่ดิไอคอน ที่จะต้องสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ ทราบว่าคืบหน้าไปมากพอสมควรเกือบ 80
    เปอร์เซ็นต์ ยืนยันว่าส่งสำนวนอัยการทันกำหนดการครบรอบฝากขังของ 18 บอสดิไอคอน ภายในเดือน ธ.ค.นี้ แน่นอน

    คดีฟอกเงินยังมีผู้ต้องหาแค่3

    ส่วนความคืบหน้าในคดีพิเศษที่ 115/2567 คดีฟอกเงินทางอาญา กรณี บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด  ปัจจุบันมีผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่ของนายสามารถ และ นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช นั้น

    แจงเหตุแจ้งข้อหากล่าวหา

    ส่วนที่ทำให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 3 รายว่าเป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน เนื่องจากเวลาสอบสวน พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานจากเส้นทางการเงินที่ไหลเวียนออกจากบุคคลในคดีมูลฐานก่อน จากนั้นหากพบว่าเชื่อมโยงไปยังบุคคลใดก็จะต้องตรวจสอบ หากตรวจสอบแล้วเห็นว่ามีลักษณะปกปิดอำพรางแหล่งที่มาของเงิน ก็จะนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับ

    ดังนั้น เมื่อจับกุมตามข้อกล่าวหาแล้ว ผู้ที่ถูกกล่าวหาสามารถนำพยานหลักฐาน พยานเอกสาร เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ภายใน 15 วัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีผู้ต้องหารายใดนำพยานหลักฐานเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา แต่ยืนยันว่าพร้อมรับฟังทั้งหมด

    เอกสารระบุข้อความเงิน2.5ล.ของคน2คน

    สำหรับกรณีที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษตรวจพบเอกสารในบ้านพักนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช ที่ระบุข้อความถึงเรื่องเงิน 2.5 ล้านบาทระหว่างนางวิลาวัลย์ และนายวรัตน์พล ว่าเป็นเงินกู้ยืมกันและบางส่วนเป็นเงินทำบุญ ดีเอสไอรับพยานหลักฐานทั้งหมด

    รอชั่งน้ำหนักหักล้างได้หรือไม่

    แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องนำพยานหลักฐานเหล่านี้มาชั่งน้ำหนักว่าสิ่งที่พบนั้นสามารถใช้หักล้างกับข้อกล่าวหาได้หรือไม่ หากหักล้างได้ ก็จะมีความเห็นทางคดีสั่งไม่ฟ้องในวันสรุปสำนวนส่งอัยการ แต่ถ้าไม่สามารถใช้หักล้างได้ ก็จะต้องมีความเห็นสั่งฟ้อง

    ถ้าจัดสร้าง-ใครคือผู้จัดทำ

    ส่วนถ้าเอกสารฉบับดังกล่าวเป็นเอกสารที่ถูกสร้างขึ้นภายหลัง หรือพิสูจน์แล้วพบว่าเป็นพยานเอกสารเท็จ  ต้องเรียนว่าในทางกฎหมาย ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ในส่วนของหลักฐานที่มีการสร้างขึ้นมาก็ต้องไปดูว่าเข้าข่ายความผิดใดหรือไม่ และใครคือผู้จัดทำเอกสารดังกล่าว

    อย่างไรก็ตาม หลักฐานใดที่พนักงานสอบสวนพบเราต้องรับฟังทั้งหมด  จำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบสักระยะ ไม่ว่าใครจะเป็นจัดทำเอกสารฉบับดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากดีเอสไอก็อยากฟังคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาประกอบกัน ว่าจะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไร ใช้อะไรเป็นหลักฐานในการแก้ข้อกล่าวหาบ้าง ถึงจะกล่าวได้ว่าหลักฐานนั้น ๆ รับฟังได้หรือรับฟังไม่ได้

    รอสรุปของจริงหรือจัดทำ

    สำหรับพฤติการณ์อย่างไรจึงจะเป็นการนำเข้าพยานหลักฐานเท็จจนส่งผลต่อสำนวนคดี หรือผู้จัดทำมีความผิดในโทษทางอาญานั้น  ต้องเน้นย้ำว่า หลักการตามกฎหมาย ผู้ต้องหาจะให้การหรือต่อสู้คดีอย่างไรก็ได้ แต่การเอาหลักฐานมาใช้ในการพิสูจน์กับพนักงานสอบสวน หากมีบุคคลช่วยสร้างหลักฐานที่ไม่จริงขึ้นมาเพื่อช่วยผู้ต้องหาต้องไปดูว่ามีความผิดทางอาญาหรือไม่ และเป็นเอกสารปลอมหรือไม่ คงจะได้สรุปกันอีกครั้ง

    รับฟังทั้งหมดก่อนมีความเห็นทางคดี

    กรณีที่ผู้ต้องหารายหนึ่งรับโอนเงิน  2.5 ล้านบาท แต่เมื่อจะคืนเงินผู้ให้ยืม กลับใช้เงินสดคืนนั้น เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องไปดู ต้องตรวจสอบว่าในตอนนี้ผู้ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา มีสิทธินำพยานหลักฐานชี้แจงความบริสุทธิ์  ดังนั้น เราจะไม่ตั้งประเด็นว่าคำชี้แจงผิดถูกอย่างไร แต่ต้องรับฟังทั้งหมดก่อนเพื่อนำไปเทียบเคียงกับพยานหลักฐานว่าดีเอสไอจะมีความเห็นทางคดีสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องอย่างไร

    นอกจากนี้ ในเรื่องใบอนุโมทนาบุญที่จะใช้ยืนยันการรับโอนเงินระหว่างกันนั้นต้องรอคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาก่อน แล้วจึงนำไปตรวจสอบต่อ  ในเรื่องนี้ก็ยังไม่มีรายใดชี้แจงเข้ามา ซึ่งภายใน 15 วัน ถ้าผู้ต้องหาได้ยื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหาเข้ามา ดีเอสไอจะได้นำไปตรวจสอบต่อไปตามขั้นตอน

    ยังตรวจสอบเส้นเงิน“สามารถ”โอนต่อไปไหน

    สำหรับเส้นทางการเงินบัญชีนายสามารถ เมื่อรับโอนมาจากบัญชีมารดาแล้ว ได้โอนต่อไปยังปลายทางใดบ้างยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนจะเจอบัญชีใครบ้างที่รับโอนต่อจากนายสามารถ  

    ขอเรียนว่าดีเอสไอเจอหลายเส้นทางการเงิน เพราะตามที่ปรากฏในข่าวมันมีทั้งเส้นเงินจากบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด และเส้นทางการเงินจากบุคคลอื่นปะปนในบัญชีด้วยต้องดูทั้งหมดว่าจริง ๆ สุดท้ายเงินอื่นที่เราไม่เจอนั้น อ้อมมาจากบัญชีบริษัทฯ ด้วยหรือไม่

    แต่ยืนยันว่า ขณะนี้ยังพบเพียงบัญชีของบอสพอล และบอสปีเตอร์ ที่โอนเข้าบัญชีของนางวิลาวัลย์ แต่ต้องขยายผลต่อไป เจ้าหน้าที่เร่งทำงานอยู่ เเละจะดูกรณีของบอสปีเตอร์ด้วย เพราะก็เป็นหนึ่งในผู้โอนเงินไปยังบัญชีของนางวิลาวัลย์

    ถาม“สามารถ”ไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน

    พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า กรณีที่นายสามารถ ประกาศอดข้าวภายให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกออกหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน

    ต้องถามว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร เพราะการทำงานของดีเอสไอ เราฟังความสองฝ่าย ดังนั้น เวลาท่านถูกแจ้งข้อกล่าวหา ท่านก็มีหน้าที่ในการยื่นชี้แจงข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เราพร้อมรับฟัง และให้ความเป็นธรรมตามกฎหมายอยู่แล้ว

    ส่วนการตั้งข้อสังเกตเรื่องการออกหมายจับโดยไม่ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาก่อนนั้น มันมีอยู่ 2 กรณี แต่กรณีนายสามารถและมารดา อยู่ในกรณีที่ 2  เป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกเกินกว่าสามปี

    ส่วนกรณีที่ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายของบอสพอล จะ ไปยื่นเรื่องร้องเรียนการทำหน้าที่ของดีเอสไอ ต่อสำนักงาน ป.ป.ช.  เพิ่งทราบจากสื่อ ส่วนการนำมาพยานของฝั่ง ดิไอตคอน มาพบพนักงานสอบสวน  ได้รับแจ้งว่าในวันนี้ยังไม่เห็นมีพยานของเขามาที่ดีเอสไอตามที่ได้นัดหมายไว้  เราเตรียมพนักงานสอบสวนไว้แล้วจึงไม่หนักใจเพราะเราทำหน้าที่ปกติ

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments