วันที่21มี.ค.68 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช. สตม.,พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหลรอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก. สส.สตม., พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก. สส. สตม.,พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม.,
ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญจับผู้ต้องหาหลอกเหยื่อสมัครสมาชิก THPSA สูญเงินกว่าสามแสนบาท
กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายจือเจียง อายุ 50 ปี ชาวจีนตามหมายจับศาลอาญา ที่ 550/2568 ลงวันที่ 27 ม.ค.2568 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบ
คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จับกุมในซอยลาดพร้าว 130/1 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้เสียหายชื่นชอบกีฬายิงปืนมีความประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย (THPSA) พบเห็นวิดีโอที่นายจือเจียงโพสต์ลงในแอปพลิเคชั่น Douyin หรือTiktok จีน
นายจือเจียงกล่าวว่าอ้างว่าสามารถพาไปสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทยได้จึงทักไปผ่านทาง Wechat เพื่อสอบถามรายละเอียดค่าบริการพาไปสมัครสมาชิก นายจือเจียง เสนอราคาค่าบริการที่ 270,000 บาท โดยมีการอบรม 8 วัน รวมทั้งพาไปสอบตลอดจนได้บัตรสมาชิกและเข้าร่วมเป็นสมาชิก
ผู้เสียหายตกลงและขอเลขบัญชีเพื่อจะโอนเงินค่าบริการให้ แต่นายจือเจียงปฏิเสธรบอกผู้เสียหายว่าจะสำรองค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก่อน เช่น ค่าเช่าปืน ค่ากระสุน เมื่อผู้เสียหายเดินทางมาประเทศไทยแล้วค่อยนำเงินสดมามอบให้กับนายจือเจียง
ต่อมาผู้เสียหายเดินทางเข้ามาประเทศไทย มอบเงินสด 320,000 บาท ให้แก่นายจือเจียงแยกเป็น ค่าบริการติดต่ออบรมและขออนุญาตเพื่อเป็นสมาชิกของชมรมยิงปืนรณยุทธไทย 270,000 บาท ค่าที่พัก50,000 บาท
ต่อมาหลังจากที่ผู้เสียหายผ่านการอบรมแล้ว ได้รับมอบเพียงใบรับรองจากครูฝึกเท่านั้น ไม่ได้รับมอบบัตรสมาชิก เมื่อสอบถามไปที่สมาคมฯ ปรากฏว่าไม่มีชื่อผู้เสียหายเป็นสมาชิก และรับแจ้งว่าผู้เสียหายมีคุณสมบัติไม่ตรงกับเงื่อนไขการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ที่กำหนดไว้ว่าจะต้องอาศัยอยู่ในประเทศอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไปต่อปี
ผู้เสียหายจึงทราบว่าถูกนายจือเจียงหลอกลวง ได้พยายามติดต่อเพื่อขอเงินคืนแต่นายจือเจียงปฏิเสธ และไม่ให้ข้อมูลใด ๆ รวมทั้งบล็อกการติดต่อ จึงได้เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวางดำเนินคดีกับนายจือเจียง
หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับนายจือเจียงแล้ว จากการสืบสวนของ กก.1 บก.สส.สตม. ทราบว่านายจือเจียงพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว130/1 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงจัดกำลังจับกุมนำตัวส่งสน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว
