Sunday, November 24, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันตม.แถลงจับ3คดี มาเฟียเยอรมัน-นักค้ายาตากาล็อก-แก๊งขนต่างด้าวเข้าประเทศ

    ตม.แถลงจับ3คดี มาเฟียเยอรมัน-นักค้ายาตากาล็อก-แก๊งขนต่างด้าวเข้าประเทศ

    วันที่24ส.ค.66 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส. สตม .,พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส. สตม., พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก. ศท.ตม.ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พรรณศักดิ์ วรวิบูลย์สวัสดิ์ รอง ผบก.สศป.ฯ ปฏิบัติราชการ บก.ตม.3

    พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส. สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก. ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. , พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3

    ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

    1.บก.สส.สตม. รวบเยอรมันแก๊ง Hell angles ส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน

    ตามที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สั่งการให้ สตม. พิจารณาดำเนินการกรณี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มีหนังสือมายังกองการต่างประเทศ ตร. ขอให้ส่งตัวนายเด็น (นามสมมติ) สัญชาติเยอรมัน เป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อนำตัวไปรับโทษตามคำพิพากษาในความผิดอาญาฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญาสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี  อัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้องขอศาลอาญาออกหมายจับนายเด็นไว้แล้ว

    กก.2 บก.สส.สตม.ตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. นายเด็นเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่าคนอยู่ชั่วคราว (NON-90) และได้รับการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 12 ก.ค.2567  สืบสวนทราบว่าหลบซ่อนตัวอยู่ใน  อ.เมืองเชียงราย ชุดจับกุมได้ติดตามเฝ้าดูจนกระทั่งจับกุม นำตัวส่งสำนักงานอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

    พฤติการณ์การกระทำความผิด นายเด็นเป็นสมาชิกแก๊งมอเตอร์ไซค์นอกกฎหมาย “Hells Angels” ในเมืองคีล สาธารณรัฐเยอรมนี ร่วมกับพวก 2 คน ลอบทำร้ายผู้เสียหายที่บริเวณสระว่ายน้ำสาธารณะในเมืองคีล โดยให้แฟนสาวของตนทำหน้าที่เป็นนกต่อ เพื่อให้ผู้เสียหายสนใจและเข้าไปที่สระว่ายน้ำ และฉวยโอกาสยิงที่ต้นขาซ้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

    2.บก.สส.สตม. รวบ 3 ผู้ต้องหา แก๊งยาเสพติดรายใหญ่อินโดนีเซีย หนีซุกไทย

    สตม. ได้รับการประสานงานจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย กรณีผู้ต้องหารายสำคัญซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียได้เพิกถอนหนังสือเดินทางอินโดนีเซีย 3 ราย คือ1.นายสตีเว่น (นามสมมติ) อายุ 28 ปี 2.นายวายู (นามสมมติ) อายุ 30 ปี 3.นางพิสก้า (นามสมมติ) อายุ 26 ปี บุคคลตามหมายจับรัฐบาลอินโดนีเซียกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และพากันหลบหนีมาอยู่ในประเทศไทย

    ตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเข้ามาในประเทศไทย ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวและการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด

    ผบก.สส.สตม.ได้อนุมัติให้ เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ มีพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรแล้วขึ้นบัญชีเป็นบุคคลเฝ้าระวังไว้ และสั่งการให้ กก.ปอพ.บก.สส.สตม.สืบสวนติดตามจับกุมร่วมกับ บช.ปส.นำตัวมาดำเนินการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร

    เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสืบทราบว่า นายวายูและนางพิสก้า หลบหนีมาอาศัยอยู่บริเวณคอนโด พื้นที่บางกะปิ กทม. จึงได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบ จับกุมและแจ้งหนังสือเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้ทราบ และนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการต่อไป

    ขณะเดียวกัน  รับแจ้งจาก ตม.จว.จันทบุรี   มีบุคคลต่างด้าวชื่อ นายสตีเว่น สัญชาติ อินโดนีเซีย กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ  ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. ขึ้นทะเบียนเป็นบุคคลเฝ้าระวัง ตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับที่ บก.สส.สตม.เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไว้  ได้ร่วมกันนำตัว นายสตีเว่น ส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการต่อไป

    จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 รายรับว่าได้วางแผนเดินทางเข้ามาหลบซ่อนในประเทศไทยในลักษณะปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว และแยกย้ายกันหลบซ่อนตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับพร้อมกัน และมีการติดต่อกันผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้ในการโทรผ่านอินเตอร์เน็ต

    3.สืบ ตม.3 จับกุม “แก้วเขาดิน” เครือข่ายขนคนรายใหญ่ พื้นที่สระแก้ว

    กก.สส.บก.ตม.3 ตรวจสอบในสื่อสังคมออนไลน์พบว่า มีชาวกัมพูชา เรียกกันทั่วไปว่า นางแก้ว (นามสมมติ) ประกอบกิจการรถตู้ในพื้นที่ใกล้ด่านชายแดน อ.คลองหาด จว.สระแก้ว ใช้สื่อสังคมออนไลน์ประกาศเชิญชวนลูกค้าชาวกัมพูชา  สามารถพาคนกัมพูชาเข้าออก-ออกประเทศไทยผ่านชายแดนกัมพูชาได้อย่างสะดวก และมีข้อมูลเชิงลึกเครือข่ายนางแก้วยังลักลอบขนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผ่านช่องทางที่ผิดกฎหมายด้วย 

    กก.สส.บก.ตม.3 ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมนางแก้วมาโดยตลอด จนกระทั่งต่อมาได้ตรวจสอบพบว่า จะมีการลักลอบขนคนจำนวนมากจากพื้นที่ ต.คลองหาด จว.สระแก้ว เข้ามาใน กทม.คาดว่านางแก้วได้เดินทางมาด้วย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ

    เมื่อเดินทางมาถึง ถนนหมายเลข 3259 บริเวณหน้าหน่วยพิทักษ์ ป่าซับวัวแดง ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จว.สระแก้ว พบรถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน กทม. และรถยนต์ตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน จว.ระยอง ขับอยู่บนถนน ลักษณะคล้ายกับรถยนต์ตู้ที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ของนางแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ไล่ติดตามและเรียกให้หยุดรถ แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจสอบรถยนต์ตู้ทั้ง 2 คันดังกล่าว

    ผลการตรวจสอบพบว่า
    1.รถยนต์ตู้ทะเบียน จว.ระยอง
    1.1 นายประดิษฐ์ (นามสมมติ) สัญชาติไทย เป็นผู้ขับรถ
    1.2 คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา 5 รายเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายทั้งหมด

    2.รถยนต์ตู้ทะเบียน กทม.
    2.1 นายมนตรี (นามสมมติ) สัญชาติไทย เป็นผู้ขับรถ
    2.2 นายบำเหน็จ (นามสมมติ) สัญชาติไทย เป็นผู้โดยสารและเจ้าของรถ
    2.3 นายชานนท์ (นามสมมติ) สัญชาติไทย เป็นผู้โดยสาร
    2.4 คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวน 5 ราย เดินทางเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย 4 ราย และถูกกฎหมาย 1 ราย

    ตรวจสอบพบว่า เป็นบุคคลเดียวกับหญิงสาวในสื่อสังคมออนไลน์ชื่อนางแก้ว จากการสอบถามคนต่างด้าวทั้งหมดให้การว่า นางแก้วและนายชานนท์จะทำหน้าที่ติดต่อประสานงานพาคนต่างด้าวชาวกัมพูชาโดยสารรถยนต์ตู้เข้ามาในประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรม ชาติบริเวณชายแดน เพื่อมาทำงานในประเทศไทย จะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับนางแก้วรายละ 3,500 บาท ในขบวนการนี้มี นายบำเหน็จ, นายมนตรี และนายประดิษฐ์ ทำหน้าที่ ขับรถรับ-ส่งคนต่างด้าวจากชายแดน จว.สระแก้วไปส่งที่ กทม.  นายชานนท์จะแบ่งรายได้ให้กับผู้ทำหน้าที่ขับรถ รายละ 1,000 บาทต่อคน

    สำหรับคนต่างด้าวที่เอกสารไม่ถูกต้อง ซึ่งคนขับรถจะทราบดีว่าคนต่างด้าวชาวกัมพูซาที่โดยสารรถของตนจะไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารประจำตัวไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่ ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา คนไทยทั้ง 4 รายและนางแก้วว่า ร่วมกันให้การช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนคนกัมพูชา 9 รายแจ้ง ข้อกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่ง พงส.กก.สส.บก.ตม.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments