Saturday, September 28, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันตม.แถลงจับหัวโจกโคลอมเบียลักทรัพย์70ล.จากมาเลเซียกบดานไทย

    ตม.แถลงจับหัวโจกโคลอมเบียลักทรัพย์70ล.จากมาเลเซียกบดานไทย

    วันที่18มิ.ย.67 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ท.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผทค.พิเศษ ตร. รรท รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม.,

    พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.กันตวัฒน์ พงศ์สถาบดี รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว. สุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส. สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม.

    ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสาคัญ ดังนี้
    1. บก.สส.สตม. ตามรวบหัวโจกแก๊งโคลอมเบียหนีคดีลักทรัพย์ซุกไทย
    วันที่ 31 พ.ค.2567 เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายร่วมกันลักทรัพย์บ้านนักธุรกิจหลังหน่ึงกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้ทรัพย์สินไปมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศมาเลเซีย สืบทราบว่ามีผู้ ร่วมกระทาความผิดท้ังหมด 8 คน แบ่งหน้าที่กันทำและตามจับกุมได้แล้ว 7 คน เหลืออีก 1 คน เชื่อว่าเป็นหัวหน้า ขบวนการคือ Mr.Lopez (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี สัญชาติกัวเตมาลา คาดว่าหลบหนีเข้ามาประเทศไทยทางช่องทาง ธรรมชาติ จึงประสานเจ้าหน้าท่ีตรวจคนเข้าเมืองร่วมกันสืบสวนหาตัว

    ต่อมา พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6ประสานข้อมูลไปยัง พล.ต.ต. ประพันธ์ศักด์ิ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. สั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. และ กก.2 บก.สส.สตม. จับกุมได้ขณะมาพักที่โรงแรมหรูแห่งหน่ึงย่านสุขุมวิท ขยายผลตรวจสอบภายในห้องพักพบสร้อยคอ กำไลเครื่องประดับ แหวน 6 ชิ้น เชื่อว่าอาจเป็นทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมมา จึงได้ตรวจยึดไว้

    จากการสอบถาม Mr.Lopez อ้างว่ามีชื่อจริงคือ Mr.Miguel  อายุ 39 ปี สัญชาติโคลอมเบีย  ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามา ในประเทศไทยและไม่ให้การใด ๆ ที่เป็นประโยชน์ แต่เจ้าหน้าท่ีตรวจคน เข้าเมืองมีข้อมูลว่า บุคคลนี้เคยร่วมกับพวกสัญชาติเดียวกันก่อเหตุเช่ารถตระเวนลักทรัพย์ที่ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2553  ได้ลงบันทึกข้อมูลประวัติไว้ในบัญชีบุคคลเฝ้าระวังของ สตม.แล้ว

    เบื้องต้นได้จับกุมดำเนินคดี Mr.Miguel (สงวน นามสกุล) อายุ 39 ปี สัญชาติโคลอมเบีย โดยกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับ อนุญาต นาตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม หน้าทางเข้า

    2. ปฏิบัติการสยบนักค้ายาต่างชาติในพื้นที่สมุย ลักลอบค้าโคเคน ตั้งนอมินีธุรกิจเช่ารถบังหน้า มาหลายปี


    ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ ป.ป.ส.ภ.8 และ สภ.บ่อผุด จับกุม นายแมตติโอ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาวอิตาลี ได้ที่จับกุม ริมถนนสายเรียบหาดละไม ม.3 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี

    กล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท2(โคเคน)ไว้ในครอบครองเพื่อจาหน่ายและจาหน่ายยาเสพติด ให้โทษประเภท 2 (โคเคน) นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด จว.สุราษฎร์ธานี  
    หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ว่าผู้ต้องหา มีพฤติการณ์ขายยาเสพติดประเภทโคเคนมาจาหน่ายให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวใน  อ.เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวสายปาร์ตี้และบาร์ชาวต่างชาติ จึงวางแผนล่อซื้อยาเสพติด (โคเคน) จากนายแมตติโอ  25 กรัม ราคากรัมละ 2,500 บาท เป็นเงิน62,500 บาท กระทั่่งจับกุมได้

    จากนั้นได้นำตัวนายแมตติโอไปตรวจค้นที่บ้านพักเลขที่ 105/23 ม.3 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นร้านธุรกิจให้เช่ารถมอเตอไซด์ชื่อบริษัท วาสนา มอเตอร์ไบท์ จำกักัด ของนายแมตติโอ

    ยึดรถจักรยานยนต์สำหรับให้เช่า70คัน ซึ่งเป็นรถเช่าที่นายแมตติโอ ดำเนินกิจการในนามบริษัท วาสนา มอเตอร์ไบค์ จำกัด และนายแมตติโอ อยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และแสดงหลักฐานประกอบธุรกิจหุ้นส่วนกับบุคคลสัญชาติไทย

    ​บัญชีเงินฝากในนามนายแมตติโอ 8 บัญชี ประกอบไปด้วย บัญชีของธนาคารกรุงเทพ จำนวน 3 บัญชี, บัญชีกองทุนบัวหลวงตราสารหนี้ 1 บัญชี, ธนาคารกสิกรไทย 2 บัญชี, ธนาคารกรุงไทย 1 บัญชี, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1 บัญชี โดยมียอดเงินหมุนเวียนรวมกว่า 8,000,000 บาท และเงินสด 2 รายการ รวม 1,095,000 บาท ยึดและอายัดทรัพย์สินนำส่ง สานักงาน ป.ป.ส.ภ.8 เพื่อดำเนินการ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด

    ​จากนั้น ตม.จว.สุราษฎร์ธานี  ตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของนายแมตติโอเชิงลึกจนพบว่าถือครองบริษัทวาสนา มอเตอร์ไบท์ จำกัด โดยมี นายแมตติโอ, น.ส.วาสนา (สงวนนามสกุล) และนางจิรวรรณ (สงวนนามสกุล) เข้าร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 51 ต่อ 49 เปอร์เซ็นต์

    เมื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานการลงทุน พยานเอกสารและหลักฐานอื่นรวมทั้งสอบถ้อยคำแล้วพบว่าบุคคลสัญชาติไทยทั้ง 2 ราย ไม่ได้นำเงินเข้าร่วมในธุรกิจดังกล่าวและไม่ทราบถึงการดำเนินการในธุรกิจดังกล่าวเลย โดยได้รับการร้องขอจากนายแมตติโอ ให้ช่วยเหลือเอาชื่อมาใส่ในนามผู้ถือหุ้นเพื่อให้ตนเองได้ประกอบธุรกิจในราชอาณาจักรตามเงื่อนไขของการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ซึ่งเงินที่ใช้ในการลงทุนทั้งหมด เป็นของนายแมตติโอ และนายแมตติโอ เป็นผู้รับผลกำไรแต่เพียงผู้เดียว

    เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วาสนา ในฐานความผิด เป็นบุคคลผู้มีสัญชาติไทย ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้

    และให้ดำเนินคดีกับนายแมตติโอ ในฐานความผิด เป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทย ให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เพื่อให้ตนประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ตามมาตรา 36 พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของ คนต่างด้าว พ.ศ.2542

    ​จากพฤติการณ์ดังกล่าวนายแมตติโอ ได้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรแต่งงานกับภรรยาชาวไทย โดยเปิดกิจการเช่ารถมอเตอร์ไซด์บังหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงให้คนทั่วไปเห็นว่าตนเองมีกิจการเป็นที่มั่นคง ปิดบังอำพรางการได้มาซึ่งทรัพย์สินจากการขายยาเสพติด

    จากการสอบถามนายแมตติโอ ให้ข้อมูลว่าได้ติดต่อขอซื้อยาเสพติดมาจากกลุ่มคนต่างชาติด้วยกันแล้วนำมาแบ่งขายหรือที่ภาษาในหมู่นักขายยาใช้คำว่า ”จอยส์” ขายให้กับคนต่างชาติตามสถานที่ท่องเที่ยวในยามค่ำคืน และได้ให้ข้อมูลกลุ่มคนต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลไปสู่ต้นทางของยาเสพติดที่ระบาดในหมู่นักท่องเที่ยวต่อไป

     

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments