นักข่าวหนุ่มรัสเซียวิ่งหนีตายขอความช่วยเหลือ หลังถูกเพื่อนร่วมชาติ จับ ล็อกกุญแจมือ-รุมทำร้าย บังคับแฟนสาวหาเงินไถ่ตัว สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท ตำรวจตามล็อกได้1คนยังให้การปฏิเสธ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2568 พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังช่วยเหลือ ชาวต่างชาติ วิ่งหนีตายสภาพสะบักสะบอมที่มือถูกล็อกกุญแจมือ ไว้ทั้ง 2 ข้าง เข้าไปซ่อนตัวอยู่ใน ร้านกาแฟปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนจอมเทียนสาย 2 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ภายในร้านกาแฟ พบผู้เสียหายทราบชื่อ นายเดวิด แบลงค์ อายุ 26 ปี ชาวรัสเซีย อาชีพเป็น ผู้สื่อข่าว ในประเทศรัสเซีย อยู่ในสภาพตามร่างกายมีร่องรอยการถูกทำร้าย ที่มือทั้ง 2 ข้าง ถูก ล็อกกุญแจมือทั้ง 2 ข้าง
สอบถามข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่า เพิ่งเดินทางมาจาก กรุงเทพฯ และ มาพักที่โรงแรม ย่านจอมเทียน ซอย 14 ห่างจากปั๊มน้ำมันประมาณ 200-300 เมตร ต่อมามีคนร้าย 4 คน เป็นชาวรัสเซียทั้งหมด 1 ในคนร้าย เป็นเพื่อนที่ตนก็รู้จัก และ คาดว่าน่าจะเป็นคนพามาก่อเหตุในครั้งนี้
คนร้ายที่ตนรู้จัก ได้มาเคาะประตูห้อง แต่ตนเผลอเปิดประตูให้ คนร้ายทั้งหมดกรูกันบุกเข้ามาในห้องใช้อาวุธ คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืน จี้บังคับ แล้ว จับกดลงบนที่นอนจับใส่กุญแจมือ ใช้ถุงดำคลุมหัว ถูกรุมทำร้ายใช้ของแข็งฟาดตัว พร้อมขู่บังคับให้ติดต่อแฟนสาว ชาวรัสเซีย ซึ่งพักอยู่ที่กรุงเทพฯ หาเงินมาไถ่ตัว
มีบางช่วง กลุ่มคนร้ายได้ถ่ายคลิปวีดีโอส่งไปให้แฟนสาวดู หลังจากนั้นก็ถูกจับขังไว้ในห้องนานหลายชั่วโมง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง รู้อีกที กลุ่มคนร้ายได้หายออกจากห้องไปกันหมดจึงรีบวิ่งหนีตายมาซ่อนตัวร้านกาแฟดังกล่าว
ภายหลังตำรวจได้ช่วยเหลือ นายเดวิด แบลงค์ และ ติดต่อไปยังแฟนสาวของผู้ถูกก่อเหตุ ทราบชื่อ นางสาวแอนนา นามสมมุติ อายุ26 ปี ชาวรัสเซีย เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อดูอาการแฟนหนุ่ม พร้อมกับให้หลักฐานสำคัญกับตำรวจ เป็นคลิปวีดีโอ ที่คนร้ายส่งมาข่มขู่ ขณะที่อยู่ในห้องของโรงแรมที่เกิดเหตุ
โดยเธอถูกข่มขู่ต่างๆนาๆ ว่าให้หาเงินมาไถ่ตัวแฟนหนุ่ม พร้อมกับขู่ว่า “ถ้าแจ้งตำรวจไทย จะฆ่าแฟนทิ้ง” เธอกลัวมาก จึงยอมตกลง
ตอนแรกไม่มีเงินสด จึงขอต่อลอง ด้วยการนำของมีค่า เป็นนาฬิกาหรู ยี่ห้อ โรเล็กซ์ เป็นการไถ่ตัวก่อน กลุ่มคนร้ายก็ยอมจึงนำไปวางไว้ที่ใต้โคนต้นไม้ ริมถนน พระราม 4 กรุงเทพฯ แชายละมีสวมเสื้อสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ มาหยิบนาฬิกาไป สามารถถ่ายคลิปตอน คนร้ายมาหยิบนาฬิกาไปไว้ได้
แต่กลุ่มคนร้ายยังไม่พอใจ ยังได้บังคับให้ นายเดวิด ผู้เสียหาย โอนเงินลิจิตอล (บิทคอยน์ ) เข้าบัญชีกลุ่มคนร้ายเกือบเกลี้ยงบัญชี คิดเป็นเงินไทยเกือบ 2 ล้านบาท ภายหลังเกิดเหตุ กลุ่มคนร้าย ก็พากันหลบหนีไป
ต่อมาช่วงเย็นของวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ร่วมกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ จ.ชลบุรี สืบสวนยึดรถเก๋งที่ใช้ในการก่อเหตุได้ 1 คัน จอดอยู่ กลางไร่สับปะรด ใกล้แยกขนำไร่ พื้นที่จังหวัดระยอง เป็น รถเก๋งยี่ห้อ เอ็มจี สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 4 ขห – 1343 กทม. สภาพกระจกหน้าแตก หน้าจอคอนโซลรถ ถูกทุบจนแตกละเอียด จึงได้ตรวจยึด มาไว้ที่ หน่วยสอบสวนย่อยโค้งดงตาล สภ.เมืองพัทยา
ขณะเดียวกันยังควบคุมชายผู้ต้องสงสัย ได้ 1 คน ป็นหนึ่งในนกต่อ ที่มาเคาะประตูเรียก เพื่อเปิดทางให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ ทราบชื่อ นายแอนตัน โลโคทคอฟ อายุ 26 ปี ชาวรัสเซีย จับกุมได้ที่บริเวณตลาดสตรีทฟู๊ด ริมชายหาดจอมเทียน
เบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยรายนี้ให้การไม่เป็นประโยชน์ แถมยังอ้างว่าไม่รู้จักกับผู้เสียหาย แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และได้เค้นสอบนานหลายชั่วโมง แต่เจ้าตัวยังให้การวกไปวนมา แต่อย่างไรก็ตาม แต่ในแนวทางการสอบสวน พบว่า นายแอนตัน พบว่าอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (โอเวอร์สเตย์) จึงแจ้งข้อกล่าวหา“เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
ขณะที่ตำรวจ ยังคงสืบสวนสอบสวนขยายผลเรื่องนี้ โดยพบว่ากลุ่มคนร้ายหลังก่อเหตุได้ทำลายหลักฐานเกือบทั้งหมด ทั้งโทรศัพท์ของผู้เสียหาย รวมถึง อุปกรณ์ภายในรถยนต์เก๋ง ที่ตำรวจตามมายึดมาได้
ส่วนทรัพย์สินที่กลุ่มคนร้ายได้ไป ในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่า มีจำนวนตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้งไว้ในเบื้องต้นหรือไม่ และอยู่ในระหว่างการเร่งสืบสวนคดีขยายผลเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าจะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษได้ทั้งหมด