วันที่ 8ต.ค.67 ตามนโยบายรัฐบาลเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งระบบด้วยการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายของนักค้ายาเสพติด อย่างรู้เท่าทัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง – กลางทาง – ปลายทาง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจากกรณีจับกุมยาเสพติดรายสำคัญทุกราย รวมถึงวิเคราะห์ความเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ผลิต นำเข้า ผู้ลำเลียง ผู้จัดเก็บ ผู้จำหน่าย และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามาถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ
ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1/ศอ.ปส.ภ.1,
บช.ปส. โดย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส.รรท. ผบช.ปส.,
ขกท. โดย พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ผบ.ขกท. , ขกท.ศปก.นสศ.โดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ.
ภ.จว.สระบุรี โดย พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว. สระบุรี, พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี/หัวหน้า ชปส.ศอ.ปส.ภ.1 ชุดที่ 2
และ สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 โดย นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ปปส.ภาค 1 และว่าที่ร้อยตรีอากาศ ปานแย้ม นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ จังหวัดสระบุรี โดย นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกนายในสังกัดบูรณาการร่วมกันสืบสวนจับกุมบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงคราพิเศษ ได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ อ.วังน้อย จว.พระนครศรี อยุธยา และพื้นที่ อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี
จากการขยายผลต่อเนื่องทราบว่า นายศราวุฒิหรือเขียว อายุ 36 ปี และนายกฤษณะหรือแทน อายุ 25 ปี ร่วมกันลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเชียงเหนือ เพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย
จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรับคำสั่งให้สืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มทีมลำเลียงดังกล่าวอยู่โดยตลอด
ต่อมาวันที่ 6 ตุลาคม 2567 จากการสืบสวนทราบว่า นายศราวุฒิหรือเขียวฯ ผู้ต้องหาใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีขาว เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด และนายกฤษณะหรือแทนฯ ใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา เป็นยานพาหนะในการสำรวจด่านตรวจยาเสพติดของ จนท.ตร.
ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเชียงเหนือ เพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสะกดรอยติดตาม จนถึงลานจอดรถหลังร้านสะดวกซื้อโลตัส โกเฟรช สาขาตลาดเฉลิมพระเกียรติ ม.1 ต.เขาดินพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 20.45 น.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตนเข้าตรวจสอบ และจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางยาบ้า 12 กระสอบ ประมาณ 5,390,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีขาว 1 คัน (ใช้ลำเลียงยาเสพติด)รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา จำนวน 1 คัน (ใช้สำรวจเส้นทาง)
กล่าวหานายศราวุฒิหรือเขียวฯ และนายกฤษณะหรือแทนฯ กระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
จากการซักถามนายศราวุฒิหรือเขียวฯ และนายกฤษณะหรือแทนฯรับว่าได้ลำเลียงยาเสพติดมาจากจ.เพชรบูรณ์ เพื่อนำมาส่งมอบให้กับผู้รับในพื้นที่ตอนใน โดยนายศราวุฒิหรือเขียวฯ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงิน70,000 บาท และนายกฤษณะหรือแทนฯ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 20,000 บาท
การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 107,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผล
ถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป