ตำรวจสายไหมล็อกหนุ่มมีประวัติขนแผงบิทคอยน์เต็มรถกระบะแต่ไม่มีหลักฐานแสดงการซื้อขาย

ตร.สายไหม รวบหนุ่มขนแผงบิทคอยน์เต็มหลังรถกระบะ อ้างซื้อมาหลอมเอาทอง แต่ไม่มีหลักฐาน พบมีหมายจับติดตัว 4 หมาย

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ต.ค.68  พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.2 สั่งการ  พ.ต.อ.ณธัชพงศ์ กิรัมย์ ผกก.สน. สายไหม พ.ต.ท.สัญชัย คีรีรัตน์ รองผกกป.สน.สายไหม โดยพ.ต.ต.นุกูล กิ่งเกล้า สวป.สน.สายไหม ร.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ภิรมย์ รอง สวป.สน.สายไหม พร้อมด้วย สายตรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว

ร่วมกันจับกุมนายธนพงษ์   อายุ 32 ปี  ตามหมายจับศาลจังหวัดสุโขทัย ที่ จ.222 /2568 , จ.225/2568 , จ.228/2568 และหมายจับที่ จ.231/2568 ลงวันที่ 10 กันยายน 2568  

ฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น หรือคุ้มครองทรัพย์ หรือเข้าไปด้วยประการใด โดยเข้าช่องทางซึ่งไม่ได้จำนงให้เป็นทางเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร

พร้อมตรวจยึดแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขนาดเล็ก 1 กระสอบ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขนาดกลาง 66 แผ่น แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขนาดใหญ่ 13 แผ่น  ไม่สามารถชี้แจงที่มาได้ และรถยนต์กระบะ 1 คัน  จับกุมบริเวณ ถนนเพิ่มสิน ใกล้ปากซอยเพิ่มสิน 13/1 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. เมื่อเวลา 18.40 น. ( 17 ต.ค.) ที่ผ่านมา

ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสน.สายไหม ตรวจพื้นที่รับผิดชอบ พบรถยนต์กะบะผ่านมาบนถนนเพิ่มสิน  ด้านหลังบรรทุกแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงติดตามพร้อมแสดงตัวตรวจสอบ พบนายธนพงษ์ อายุ 32 ปี เป็นผู้ขับขี่ จากการตรวจสอบในระบบพบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัสุโขทัย 4 หมายจึงควบคุมตัวไว้

ตรวจสอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ที่บรรทุกมานั้น นายธนพงษ์ อ้างว่ากำลังจะนำไปหลอมสกัดเอาทองคำที่อยู่ในแผงวงจรออกไปขาย โดยซื้อมาในราคาประมาณ 50,000 บาท แต่ไม่สามารถแสดงหลักฐานการซื้อขาย หรือระบุที่ซื้อมาได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้ตรวจสอบที่มาและแสดงหมายจับทั้ง 4 หมายนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหมดำเนินการต่อไป