เสี่ยต๋องหนองกี่ ความมีน้ำใจ ใจบุญ ไม่ลืมบ้านเกิดร่วมสมทบทุนสร้างอาคารเรียนอนุบาลโรงเรียนบ้านหนองกี่ประชาสามัคคี สร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน
บรรยากาศแห่งความอบอุ่นและพลังแห่งการให้ เกิดขึ้นในกิจกรรม มอบปัจจัยร่วมสมทบสร้างอาคารเรียนอนุบาล โรงเรียนบ้านหนองกี่ประชาสามัคคี อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งผู้นำท้องถิ่น ภาคีเครือข่าย สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่ สะท้อนถึงความรัก ความสามัคคี และความไม่ลืมบ้านเกิดอย่างแท้จริง
โอกาสนี้ นายปลายฟ้า มีบุญมาก (เสี่ยต๋องหนองกี่) ได้ร่วมมอบเงินสมทบทุนจำนวน 50,000 บาท เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างอาคารเรียนอนุบาล โรงเรียนบ้านหนองกี่ประชาสามัคคี อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมทั้งร่วมมอบรางวัลและของขวัญเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้เกี่ยวข้อง สะท้อนถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนในท้องถิ่น
ทั้งนี้ นายปลายฟ้า มีบุญมาก(เสี่ยต๋องหนองกี่) เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในหลายภาคส่วน ประกอบด้วย
1. เลขาประธานคณะทำงานนายกเมืองพัทยา
2. กรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สภ.หนองปรือ (เมืองพัทยา)
3. ประธานที่ปรึกษา สโมสรฟุตบอล BU หนองกี่ FC
4. ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สื่อฉลามนิวส์
นอกจากนี้ ยังมี นายอติชาติ สุขยืน (บก.ชาติ ฉลามนิวส์)
บรรณาธิการบริหารสื่อฉลามนิวส์ และที่ปรึกษา กต.ตร. สภ.หนองปรือ (เมืองพัทยา) เข้าร่วมกิจกรรมและร่วมเป็นสักขีพยาน ตอกย้ำบทบาทของสื่อมวลชนในการร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม
ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ
• นายสังวาลย์ ฉิมจารย์ นายกเทศบาลศาลเจ้าพ่อขุนศรี
• นายเฉวียน รัตนธิวัฒน์ รองนายกเทศบาลศาลเจ้าพ่อขุนศรี
• นายบุญลัด แทนลา เลขานายกเทศบาลศาลเจ้าพ่อขุนศรี
• นายจรูญ กองเงินนอก ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกี่ประชาสามัคคี
• นางสาวปทมา รักสนาม ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านหนองกี่ประชาสามัคคี
• นางสาวเจษฎา ทองชมภู สมาชิกสภาเทศบาลตำบลศาลเจ้าพ่อขุนศรี
พร้อมกันนี้ ยังได้มีการกล่าวถึงความคืบหน้าการ เร่งรัดดำเนินการปรับปรุงถนนในพื้นที่ ซึ่งนายกเทศมนตรีให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อมอบเป็น “ของขวัญปีใหม่” แก่พี่น้องประชาชนชาวหนองกี่ทุกคน โดยมุ่งหวังให้เกิด ประโยชน์ต่อสาธารณสุข ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวม
กิจกรรมในครั้งนี้ นับเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของพลังแห่งความมีน้ำใจ การตอบแทนบ้านเกิด และความร่วมมือของทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันสร้างรากฐานทางการศึกษาและพัฒนาชุมชนให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
