Tuesday, January 14, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน“บิ๊กตุ้ย”แถลงชุดสืบภาค7จับยกแก๊งถอดอุปกรณ์เสาส่งสัญญาณมือถือเสียหายกว่า24ล.

    “บิ๊กตุ้ย”แถลงชุดสืบภาค7จับยกแก๊งถอดอุปกรณ์เสาส่งสัญญาณมือถือเสียหายกว่า24ล.

     

    ชุดสืบสวนภาค 7 ตามรวบยกแก๊งอดีตพนักงาน รับจ้างติดตั้ง และรื้อถอนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ พร้อมของกลางรวมทั้งสิ้น 332 ชิ้นมูลค่าความเสียหาย 24,300,000 บาท ขยายผลพบส่งขายต่อฮ่องกง

    วันนี้ 13 มกราคม 2568 เวลา 10.30 น.ที่อาคาร ตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 1 จว.นครปฐม

    พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูลผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.7 นายไพฑูรย์ ภัทรวิหก ผู้จัดการอาวุโส ส่วนงานเครือข่าย ผู้แทน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

    ร่วมแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายลักทรัพย์อุปกรณ์เสาสัญญาณโทรศัพท์ ในพื้นที่ ภ.7 จำนวน 3 คดี ผู้ต้องหา 6 คน คือ นายคณิน หรือ นิน สงวนนามสกุล อายุ 19 ปี ชาวจ.นครปฐม นายวิวัฒน์ หรือ แม๊ก สงวนนามสกุล อายุ 20 ปี ชาวจ.นครปฐม นายรพีพัฒน์ หรือไนซ์ สงวนนามสกุล อายุ 16 ปี ชาวจ. ราชบุรี นายเอกภพ หรือเอก สงวนนามสกุล อายุ 40 ปี ชาว จ.นครปฐม นายการุณ หรือ รุณ สงวนนามสกุล อายุ 29 ปี ชาวจ.นนทบุรี และนางสาว รัดภุชอินทร์ สงวนนามสกุล อายุ 31 ปี ชาวจ. นนทบุรี

    พร้อมของกลาง ยานพาหนะ ชุดที่สวมใส่ และอุปกรณ์ที่ผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุ 12 รายการ โทรศัพท์ สมุดบัญชีธนาคาร 3 รายการ อุปกรณ์ประจำเสาส่ง สัญญาณโทรศัพท์ จำนวน 11 รายการ ของกลางรวม 26 รายการ

    เฉพาะอุปกรณ์ประจำเสาสัญญาณโทรศัพท์ ที่ได้มาจากการลักทรัพย์ 11 รายการ รวมทั้งสิ้น 332 ชิ้นมูลค่าความเสียหาย 24,300,000 บาท

    พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ห้วงวันที่ 25 ธันวาคม 2567 – 8 มกราคม 2568  มีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์อุปกรณ์ประจำเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 12 คดี ในพื้นที่ จ.นครปฐม 4 คดี ใน  จ.สมุทรสาคร 7 คดี และในจ.ราชบุรี 1 คดี

    ต่อมาวันที่ 2-3 มกราคม  68 คนร้ายก่อเหตุลักอุปกรณ์ประจำเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สภ.โพธิ์แก้ว ต่อมาวันที่ 8 มกราคม 2568  ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์แก้วลงพื้นที่สืบสวนติดตามกระทั่งจับกุมนายเอกภพไว้ได้

    พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่าสอบสวนนายเอกภพ หรือเอกรับสารภาพว่า เคยเป็นอดีตพนักงานรับจ้างติดตั้ง และรื้อถอนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ มาก่อน

    โดยก่อเหตุลักทรัพย์อุปกรณ์ประจำเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ร่วมกับนายคณิน หรือ นิน นายรพีพัฒน์ หรือไนซ์ และนายวิวัฒน์ หรือ แม๊ก  หลายครั้ง เริ่มก่อเหตุตั้งแต่เดือน ก.ย.67จนกระทั่งครั้งล่าสุดก่อเหตุลักทรัพย์เมื่อวันที่ 2 ม.ค.68ทุกครั้งที่จะก่อเหตุ  จะส่งพิกัดที่ตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ที่จะเข้าไปก่อเหตุให้ทั้ง3คน 

    จากนั้นจะนำทรัพย์ที่ได้ขายต่อให้กับผู้ที่รับซื้อผ่านโซเชียล และแพ็คพัสดุ ส่งทางบริษัทขนส่งเอกชน Lalamove ตามพิกัดผู้รับปลายทางซึ่งอยู่ในต. พิมลราช อ. บางบัวทอง จ. นนทบุรี โดยมี น.ส.รัดภุชอินทร์เป็นคนชำระค่าจัดส่งดังกล่าว

    ต่อมาวันที่ 10 มกราคม 2568  ชุดสืบสวนขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อขยายผลตรวจค้นบ้านนายการุณ หรือ รุณ ในต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี  จับกุมนายการุณ หรือ รุณ และน.ส.รัดภุชอินทร์

    พร้อมของกลางอุปกรณ์ประจำเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 19 ชิ้น ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน แจ้งข้อกล่าวหาทัั้งคู่ ฐาน “ ร่วมกันรับของโจร ”  

    สอบสวนนายการุณ หรือ รุณ  รับสารภาพ รับซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว และได้เช่าโกดังไม่มีเลขที่อยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 ต. พิมลราช อ. บางบัวทอง  เก็บรักษาอุปกรณ์ประจำเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ที่รับซื้อมาเก็บไว้ระหว่างรอจำหน่ายให้กับผู้รับซื้อ ที่จะมารับซื้อต่อตนอีกทอดหนึ่ง

    ชุดสืบสวนจึงได้นำตัวนายการุณ หรือ รุณ ไปตรวจค้นยึดอุปกรณ์ประจำเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อีก  291 ชิ้นและนำตัว นายการุณฯ และ น.ส.รัดภุชอินทร์ฯ พร้อมของกลางส่งสภ.สามควายเผือก ดำเนินคดี

    พลตำรวจโท นัยวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า จากการสืบสวนของชุดจับกุมทราบว่า จะมีกลุ่มผู้รับซื้ออุปกรณ์ประจำเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ เป็นชาวจีน มาซื้อต่อจากกลุ่มผู้ต้องหาจัดส่งปลายทางในเขตบริหารพิเศษ ฮ่องกง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน   จะได้สืบสวนขยายผลต่อไป

    โดยก่อนหน้านี้ชุดสืบสวน กก.สส. 1 ได้จับกุมกลุ่มเครือข่ายลักษณะนี้มาแล้วในเขตพื้นที่ สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม  ทั้ง 2 คดี ก่อความความเสียหายรวมกันประมาณกว่า 50 ล้านบาท

    จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 เคส จะเป็นอดีตพนักงาน และ พนักงานที่เป็นผู้รับเหมา ซึ่งจะทราบข้อมูลเรื่องการติดตั้ง และ ถอดถอนอุปกรณ์ดังกล่าว โดยไปขายต่อ  จะเป็นออเดอร์สั่งจากต่างประเทศ  จะนำไปให้บริการกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่เป็นรายย่อ  และชำแหละอุปกรณ์ขายเป็นชิ้นเหมือนลักษณะเชียงกง และนำไปขายในราคาไม่แพง แต่สร้างความเสียหายให้กับทางบริษัทเอกชนมีมูลค่าสูงมาก

    สร้างปัญหาและผลกระทบผู้ที่ได้รับคือประชาชนที่ถูกลักสัญญาณไปในจุดต่างๆ จะไม่สามารถใช้บริการโทรศัพท์มือถือในค่ายนี้ได้ บางครั้งต้องแก้ไขกันนานถึง 5-6 ชั่วโมงถึงจะกับมาใช้งานได้ปกติ

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments