พปชร.ชี้ เพื่อไทยอยากได้ มท.1 เหตุไม่ต้องการให้บ่อนเสรีถูก ภท.ขัดขวาง แถมยังหวังฟอกขาวปัญหาที่ดินอัลไพน์ของตระกูล ซัด เวรกรรมจะตอบสนอง แนะ“อนุทิน”อย่าพายเรือให้โจรนั่ง
วันที่ 15 มิ.ย.68 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยต้องการยึดกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทยว่า
พรรคเพื่อไทยจะปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีว่ากระทรวงนี้ไปทำไม ทั้งๆที่เป็นกระทรวงเดียวที่มีผลงานในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเหตุน้ำท่วมใหญ่การบริหารจัดการตึก สตง.ถล่ม และมีผลงานด้านการจับกุมบ่อนการพนันผิดกฎหมายมาโดยตลอด โดยไม่มีปัญหาเรื่องคอรัปชั่นเหมือนกระทรวงอื่น ๆ
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า
สาเหตุที่พรรคเพื่อไทยต้องการกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยเอง เพราะเหตุผลสำคัญ 2 ประการคือ 1.เพื่อขับเคลื่อนบ่อนการพนันเสรี หรือเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และไม่ต้องการที่จะถูกขัดขวางโดยพรรคภูมิใจไทย เนื่องจาก ตามร่างเดิมของ พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …… ผู้มีอำนาจเด็ดขาดตาม พ.ร.บ. นี้คือ นายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว
แต่จากการคัดค้านของพรรค พปชร.พรรคฝ่ายค้าน และประชาชน จนสำนักงานกฤษฎีกา จึงต้องปรับปรุงแก้ไขร่าง พ.ร.บ. เดิม โดยปรับแก้ใน 12 ข้อสาระสำคัญตามที่พรรคฝ่ายค้านแนะนำ โดยเพิ่มกระทรวงมหาดไทยเข้าไปเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกับนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 8 และในมาตรา 8 วรรค 2 อำนาจในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กลับตกไปอยู่ที่ มท.1
การออกประกาศเพื่อกำหนดเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขของการดำเนินการตาม หมวด 4 การอนุญาตและการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรและหมวด 5 การควบคุมและมาตรการบังคับ ของคณะกรรมการนโยบายตามมาตรา 15 (4)และของคณะกรรมการบริหารตามมาตรา 20 (2) จะต้องถูกตรวจร่างและกลั่นกรอง โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกแต่งตั้งโดย มท 1 ซึ่งจะกระทำอย่างตรงไปตรงมา และจะไม่เป็นไปตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยก็จะเป็นปัญหาต่อไป ตลอดจนการกำหนดพื้นที่ตาม มาตรา 15 (6)
โดยทางมหาดไทย กำหนดพื้นที่ สถานบันเทิงครบวงจรจะต้องมีพื้นที่เกินกว่า 2,000ไร่ขึ้นไป แต่บางพรรค พยายามหาพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดภูเก็ตเพื่อที่จะทำกาสิโน แต่หาได้ไม่ครบ 2,000 ไร่ ตามที่มหาดไทยกำหนดไว้ จึงพยายาม หาทางเขี่ยพรรคภูมิใจไทยให้พ้นทาง โดยมีการพยายามหาที่สันกำแพง จว.เชียงใหม่ แต่หาได้ไม่ครบ2,000ไร่
จึงพยายามเสนอแนวคิด S M L คือ S คือ 500ไร่ M คือ 1,000ไร่ L คือ 2,000ไร่ แต่ถูกขวาง จึงพยายามหาที่ดินใหม่แต่เป็นที่ดินของทางราชการ ที่ดินป่าสงวน หรือที่ดินป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งจะมีปัญหาเช่นเดียวกับหมู่บ้านป่าแหว่ง
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า อำนาจในการกำหนดอัตราค่าภาษี ตาม มาตรา 15(3) ก็จะต้องถูกเสนอผ่านพนักงานเจ้าหน้าที่หรือกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนการกำหนด หลักเกณฑ์ลักษณะวิธีการเล่นและรายละเอียด ประเภทการพนัน ที่ปรากฏตามบัญชีแนบท้าย ตามมาตรา 70 ต้องผ่าน พนักงานเจ้าหน้าที่และกระทรวงมหาดไทยด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ การพยายามตัดทอนหรือถอดมาตรา 84 ออกจากร่าง พ.ร.บ. ในชั้นกรรมาธิการหรือการแปรญัตติ เพื่อให้การพนันออนไลน์สามารถเข้าในกาสิโน และถูกต้องตามกฎหมายนั้น ก็ถูกขัดขวางจากกระทรวงมหาดไทยด้วยเช่นเดียวกัน
2.พรรคเพื่อไทย ต้องการกระทรวงมหาดไทยซึ่งดูแลกรมที่ดิน เอาไปทำการฟอกขาวปัญหาที่ดินอัลไพน์ ที่ผิดกฎหมายและจะทำให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และตระกูลชินวัตร ถูกฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายในภายภาคหน้า และมีความเสี่ยงที่จะต้องชดใช้ราคาที่ดินให้แก่ลูกบ้าน สมาชิกสนามกอล์ฟ และ ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินอัลไพน์ปัจจุบัน
ในปัจจุบันนี้ กรมที่ดินและกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า ที่ดินอัลไพน์เป็นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งการใช้ที่ธรณีสงฆ์ เพื่อประโยชน์ส่วนตัวและครอบครัวเป็นเรื่องที่ไร้จริยธรรมเป็นเป็นอย่างยิ่ง
กรณีนี้ มีการพยายามบีบบังคับอธิบดีกรมที่ดินเพื่อที่จะกลับลำ ยกเลิกคำสั่งของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ขณะดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ที่ได้ทำหนังสือบันทึกที่ มท 0100.3/324 ลงวันที่ 3 ก.ย.2567 หรือเพียง 3 วัน ก่อนที่นายชาดา จะพ้นจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ไปถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยขอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเพิกถอน ‘คำวินิจฉัยอุทธรณ์เดิม’ ของนาย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีที่ดิน ‘อัลไพน์’ เป็นเหตุให้ที่ดินอัลไพน์มีสถานะเป็นธรณีสงฆ์ ตามกฏหมาย อย่างชัดเจน
“พรรคเพื่อไทย จึงพยายามครอบงำกระทรวงมหาดไทยเพื่อพยายามทำให้ที่ดินดังกล่าว กลับไปเป็นของตระกูลชินวัตรตามเดิม ซึ่งตอนนี้ ทั้งปลัดมหาดไทยและอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งทำอย่างตรงไปตรงมาไม่ยอมอย่างแน่นอน จึงเป็นเหตุผลหลักที่พรรคเพื่อไทยพยายามเอามหาดไทยไปดูแลเอง โดยไม่ดูผลงานที่ผ่านมาและไม่คำนึงถึงผลกระทบถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและสังคม หวังแต่จะเอามหาดไทยไปแก้ปัญหาของตัวเอง
การกระทำอัปยศที่ผ่านมาโดยบีบบังคับข้าราชการ พนักงานธนาคาร และเจ้าหน้าที่องค์กรต่างๆให้ทำตามใจพรรคเพื่อไทยส่วนเป็นเหตุให้บุคคลเหล่านั้นต้องถูกดำเนินคดี และติดคุกแทนตระกูลนี้เป็นจำนวนมาก เหมือนกับหมอและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ต้องเผชิญชะตากรรม โดยไม่สมควรเพราะคนกลุ่มนี้ สักวันหนึ่งเวรกรรมจะตอบสนอง“พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอฝากไปยังพรรคภูมิใจไทยที่มีแนวทางไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนพนันเสรี ซึ่งตรงกับพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น หากอยู่กับรัฐบาลนี้แล้วไม่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี โดนกดขี่เยี่ยงทาส ก็ออกมาเป็นฝ่ายค้านอย่างมีศักดิ์ศรี ทำงานเพื่อประเทศชาติ และประชาชนอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า ขออย่าพายเรือให้โจรนั่งเลย