ไม่กี่วันมานี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.นั่งคุยกับนักสืบใกล้ชิดมือทำงาน
อาทิ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผบก.ปส.3 พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รองผบก.สส.ภ.8
รวมทั้งนักสืบที่ผ่านการสืบสวนระดับ ตร.อีกหลายนาย
นอกจากนี้ยังเชิญอดีตนักสืบระดับตำนานอย่างบิ๊กอู๊ด-พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี อดีต รองผบช.สตม. อดีตครูใหญ่โรงเรียนนักสืบ และบิ๊กโก๋-พล.ต.ต.ดร.โกสินทร์ หินเธาว์ อดีตรองผบช.ก. นักสืบระดับปรมาจารย์มาร่วมการพูดคุย
จุดประสงค์ เพื่อปัดฝุ่น “โรงเรียนนักสืบ”ในอดีตที่ผลิตทายาทนักสืบ “คุณภาพ”มาถึงปัจจุบัน และนับวันร่อยหรอ ไร้ทิศทางกลับมาอีกครั้ง
โดยจะคัดเลือกนักสืบใหม่ ระดับร.ต.ท.-ร.ต.อ.จากทุกบช.ทั่วประเทศ สมัครสอบมาเข้าโรงเรียนนักสืบ ยุค5 จี จำนวน 40 คน โดยจะเริ่มในเดือน พ.ค.64 จากกำหนดเดิม18เม.ย.64
สำหรับการพัฒนางานสืบสวน (investigate ) สร้างนักสืบ (detective) วางแผนยกระดับสร้างนักสืบรุ่นใหม่
เน้นการพัฒนาศักยภาพคนด้านการสืบสวนให้มีประสิทธิภาพเป็นมาตรฐานสากล และสร้างคุณธรรม ศีลธรรมในการทำงาน
มีเป้าหมายการสืบสวนหาตัวคนร้าย และจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีรูปแบบสมัยใหม่
ที่สำคัญจะต้องมีหลักฐานให้ศาลพิจารณาลงโทษคนร้าย
มีรูปแบบ ดังนี้ คือ
1. ปัดฝุ่นสมัยปี 2539 ต้นแบบโรงเรียนนักสืบดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของตำรวจสมัย พล.ต.ท.โสภณ วาราชนนท์ เป็น ผบช.น. มอบหมาย พ.ต.ท.ปรีชา ธิมามนตรี กับพ.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข สร้าง 30 ทายาทนักสืบ
2. นำข้อดีของการอบรมหลักสูตร ALETS THAILAND เช่น เทคนิคการสืบสวนยุคใหม่. หลักจิตวิทยาในการสืบสวน
โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพร่างกายให้พร้อมปฏิบัติงานตามรูปแบบของการฝึกของหลักสูตร Federal Bureau of Investigation หรือ FBI
3. ฝึกยุทธวิธีตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักสากล เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอย่างชำนาญ ( Officer Survival and Tactics /O.S.T.)
4. การฝึกภาคปฏิบัติอย่างมีมาตรฐาน นำเทคโนโลยี นิติวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาใช้งาน โดยลงพื้นที่จริง ดูแลด้วยนักสืบรุ่นพี่ เป็นพี่เลี้ยงที่คัดเลือกตัวบุคคลอย่างดี
5. เข้มคุณธรรมนักสืบ จากอาจารย์นักสืบมีคุณภาพที่เกษียณอายุราชการ ถ่ายทอดประสบการณ์จริงเช่น พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี พล.ต.ต.ดร.โกสินทร์ หินเธาว์ เป็นต้น
6. ฝึกสมาธิในการทำงาน หลักสูตรเลือกศูนย์ปฏิบัติธรรม เพื่อเสริมสร้าง สมาธิ ศีลธรรมแก่ผู้เข้ารับการอบรม
7. เข้มการคัดเลือกนักสืบเลือดใหม่เข้าอบรม
7.1 เริ่มตั้งแต่คัดเลือกคุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรมเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรต้องสมัครใจ
7.2 ตั้งแต่ ร.ต.ท.-ร.ต.อ.ปฏิบัติหน้าที่ในสายงานสืบสวนหรือทำงานสืบสวนไม่น้อยกว่า 1 ปี
7.3เป็นผู้อายุไม่เกิน 40 ปี มีความประพฤติดี
8. คัดเลือกครูผู้สอนนักสืบอาจารย์ที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน ถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และอุดมการณ์โดยเฉพาะทางศีลธรรมของนักสืบ
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.จ.ยะลา พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผบก.ปส.3
พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รองผบก.สส.ภ.8 อาจารย์วัลลี ธรรมโกสิทธิ์ ที่ปรึกษาสถาบัน กัลยาณ์ราชนครินทร์
ฝึกอบรม 16 สัปดาห์ คัดเลือกตำรวจทั่วประเทศ 40 คน
เพื่อผลิตตำรวจชั้นสัญญาบัตรด้านการสืบสวน ให้มีองค์ความรู้ตามระบบงานสืบสวน
เทคนิคการสืบสวนยุคใหม่ทางเทคโนโลยี ยุค 5 G อาชญากรรมรูปแบบใหม่ คดีขบวนการยาเสพติด คดีการค้ามนุษย์ คดีก่อการร้าย นิติวิทยาศาสตร์
สร้างให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทราบถึงกระบวนการ ขั้นตอน เทคนิค และวิธีการสืบสวนคดีอาญาต่างๆ ในระดับสากลนำไปพัฒนาทักษะเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานในภาคสนาม
เอาความรู้ที่ได้เป็น “ครูแม่แบบ” ไปถ่ายทอดให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือผู้ร่วมงาน และยังสร้างเครือข่ายการทำงานระหว่างกัน
ตามแนวคิดผบ.ตร.
“เราต้องสร้างตำรวจให้มีองค์ความรู้เป็นสากลอย่างแท้จริงให้ก้าวทันโลกทำงานอย่างมืออาชีพ
เพื่อดูแลความปลอดภัยของสังคม และประชาชนผู้ประกอบอาชีพสุจริตหาเช้ากินค่ำ โดยสร้างจิตสำนึกให้มีคุณธรรม ศีลธรรมในการปฏิบัติงานควบคู่ไปด้วย”
สรุปนักสืบ 5 G ยุค ผบ.ปั๊ด
#มีความรู้
#มีวินัย
#มีความรับผิดชอบ
#มีร่างกายแข็งแรง
#มีความเป็นครู
#มีศีลธรรม
กากีกลาย6/4/64