Saturday, May 24, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน“บิ๊กเผือก”ท่องเที่ยวล้ำใช้กล้อง AI จับแล้วเกือบ 200 ราย ทั่วประเทศ

    “บิ๊กเผือก”ท่องเที่ยวล้ำใช้กล้อง AI จับแล้วเกือบ 200 ราย ทั่วประเทศ

    “บช.ทท.ยุค ผบช.เผือก“ล้ำหน้า ใช้ระบบกล้อง AI จับแล้วเกือบ 200 ราย ทั่วประเทศ

    วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า

    จากนโยบายและข้อสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาปรับใช้กับการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจทุกหน่วย เพื่อความรวดเร็วในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในยุคปัจจุบัน

    กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้ริเริ่มนำเทคโนโลยีกล้อง A.I. ที่เชื่อมต่อข้อมูลบุคคลตามหมายจับกับฐานข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาติดตั้งในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อคัดกรองบุคคลที่เคยกระทำความผิดและมีหมายจับ รวมถึงบุคคลกลุ่มเสี่ยง ป้องกันไม่ให้เข้ามาก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ อันเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

    ได้สั่งการให้เริ่มนำเทคโนโลยีกล้อง A.I. ที่เชื่อมต่อข้อมูลบุคคลตามหมายจับกับฐานข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาติดตั้งในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อคัดกรองบุคคลที่เคยกระทำความผิดและมีหมายจับ รวมถึงบุคคลกลุ่มเสี่ยง ป้องกันไม่ให้เข้ามาก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ อันเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

    ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจท่องเที่ยว 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ปฏิบัติหน้าที่อยู่ กล้อง A.I. ที่เชื่อมข้อมูลบุคคลตามหมายจับกับฐานข้อมูลของ บช.ก. ได้แจ้งเตือนว่าตรวจพบบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 676/2568 ลงวันที่ 21 พ.ค.2568 คือ

    นายพรพงษ์  อายุ 26 ปี ฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น, ทำให้เสียทรัพย์ และพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ”

    ตรวจสอบพบ นายพรพงษ์และยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน  จับกุมส่ง สภ.บางบัว ทอง ภ.จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

    กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้เริ่มนำระบบกล้อง A.I. มาใช้ในเดือนกรกฎาคม 2567 ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยจับกุมบุคคลตามหมายจับรายแรกได้ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 และจนถึงปัจจุบัน  จับกุมได้แล้วรวม 180 ราย ประกอบด้วย ชลบุรี (เมืองพัทยา) 102 ราย, เชียงใหม่ 54 ราย, นครราชสีมา 21 ราย และ สมุทรปราการ (สนามบินสุวรรณภูมิ) 3 ราย

    นอกจากนี้ยังได้นำข้อมูลบุคคลกลุ่มเสี่ยง ที่มีพฤติกรรมเป็นกลุ่มแก๊ง หรือเคยกระทำความผิดในแหล่งท่องเที่ยว เช่น แก๊งล้วงกระเป๋าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แก๊งแลกเงิน เป็นต้น จำนวนกว่า 600 ราย ลงไว้ในฐานข้อมูล

    หากบุคคลเสี่ยงกลุ่มนี้เข้ามาในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญระบบจะแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อจะเฝ้าระวัง ตรวจสอบ ติดตามดูพฤติกรรม อันเป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลกลุ่มนี้เข้ามาก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวได้

    ทั้งนี้จะได้ขยายการติดตั้งระบบกล้อง A.I. ดังกล่าวให้ครอบคลุมพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ เพื่อดูแลความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อไป “ผบช.ทท.กล่าว”

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments