ตำรวจกองปราบ จับมือ การไฟฟ้าภูมิภาค ลุยค้น 9 จุด อุบล-ศรีสะเกษ ทลายเหมืองขุดบิตคอยน์เถื่อน ดัดแปลงมิเตอร์ ลักใช้ไฟหลวง เสียหาย 26 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.68 พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. นำเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ป.ร่วมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า รวมกว่า 70 นาย เปิดปฏิบัติการ “กองปราบ x กฟภ. บุกอีสาน”
เข้าตรวจค้น 9 จุด ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ เพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการลักไฟหลวงขุดบิตคอยน์ โกงค่าไฟกว่า 26 ล้านบาท
จับกุม นายอภินันท์ อายุ 36 ปี เจ้าของเหมืองขุดบิตคอยน์ ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” พร้อมของกลาง เครื่องขุด Bitcoin จำนวน 96 เครื่อง เร้าเตอร์อินเตอร์เน็ต 9 ตัว กล้องวงจรปิด 10 ตัว โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และ เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง จับได้ที่ บ้านพักใน ต.เมืองเหนือ อ.เมืองศรีสะเกษ
สืบเนื่องจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ว่า ตรวจพบความผิดปกติมิเตอร์ไฟฟ้าของเหมืองขุดบิตคอยน์ ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ต้องสงสัยว่าเป็นการประกอบกิจการด้วยการลักใช้ไฟหลวงโดยไม่ผ่านมิเตอร์
จัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนพบว่า เหมืองขุดบิตคอยน์ดังกล่าวมีการดัดแปลงมิตเอร์ไฟฟ้าลักใช้ไฟหลวงเพื่อลดค่าไฟจริง สร้างความเสียหายให้กับภาครัฐเป็นเงินรวมกว่า 26 ล้านบาท โดยเหมืองบิตคอยน์เถื่อนดังกล่าว มีการทำกันเป็นขบวนการ และ วางแผนอย่างเป็นระบบ
เริ่มตั้งแต่ให้คนไปจัดหาสถานที่ โกดัง อาคารพาณิชย์ หรือ บ้านร้างต่างๆในพื้นที่ห่างไกล เพื่อดัดแปลงเป็นที่ตั้งโรงงานเหมืองขุด โดยใช้บุคคลนอมินีหรือบริษัทบังหน้าเป็นผู้ทำสัญญาและยื่นคำขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อสร้างความชอบธรรมภายนอก แต่ภายในอาคารจะดัดแปลงให้เหมาะกับการติดตั้งเครื่องขุดเหมือง
จากนั้นจะดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า ด้วยการต่อสายตรงจากสายเมนเข้ามิเตอร์ (Bypass) ทำให้ไฟที่ใช้จริงไม่ถูกบันทึก หรือ ดัดแปลงมิเตอร์ (Tampering) แก้ไขกลไกภายในให้มิเตอร์หมุนช้ากว่าปกติ ทำให้ปริมาณไฟที่บันทึกต่ำกว่าความเป็นจริง
พร้อมทั้งดัดแปลงตัวอาคารด้วยการบุผนังเพื่อลดเสียงพัดลม, จัดซ่อนสายไฟในฝ้าชายคา และติดตั้งระบบระบายความร้อน รวมถึงติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบอาคารเพื่อเฝ้าระวังการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ส่วนตัวผู้กระทำผิดจะคอยควบคุมสั่งการระบบต่างๆผ่านเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์
เจ้าหน้าที่ไล่แกะรอยสืบหาจนทราบว่า เจ้าของเหมืองขุดบิตคอยน์เถื่อนดังกล่าวคือ นายอภินันท์ พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายทั้ง 9 จุด จนนำมาสู่การจับกุมตัวได้พร้อมกับของกลางทั้งหมดดังกล่าว
สอบสวนนายอภินันท์รับสารภาพว่า เดิมทีมีอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์ มีความรู้ด้านเทคโนโลยี และลักลอบขุดบิตคอยน์มาตั้งแต่ปี 2563 โดยเช่าอาคารพาณิชย์ในพื้นที่ศรีสะเกษ 5 จุด และอุบลราชธานี 1 จุด
เบื้องต้นนำตัวส่ง สภ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลเอาผิดผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆต่อไป


























