Saturday, December 21, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันปคบ.ทลายเครือข่ายข้ามชาติ ”มาเรียคิม” ขายทั่วโลกยาลด นน. ผสมสารอันตราย

    ปคบ.ทลายเครือข่ายข้ามชาติ ”มาเรียคิม” ขายทั่วโลกยาลด นน. ผสมสารอันตราย

    ปคบ.แถลงรวบเครือข่ายลอบขายยาลดน้ำหนักผสมสารไซบูทรามีน ข้ามชาติ “มาเรียคิม” จับสมุน 4 ราย พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท 

    เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 15 มิ.ย.66 ที่ ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ. ตัวแทนจาก ป.ป.ส. , สำนักคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. , กรมสนับสนุนบริการทางสุขภาพ หรือ สบส. , หน่วยงานสืบสวนอาชญากรรมข้ามชาติ หรือ TCIU และสำนักงานกลางแห่งชาติตำรวจสากลกรุงเทพ หรือ Interpol NCB Bangkok

    ร่วมกันแถลงผลการทลายเครือข่ายจำหน่ายยาลดน้ำหนักผสมไซบูทรามีนข้ามชาติ ตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด จับผู้ต้องหาได้ 4 คน มี นายซาบีร์ อุลลาห์ (Mr.Shabir Ullah ) อายุ 26 ปี ชาวปากีสถาน นายแอนโธนี เวิร์ด ( Mr.Anthony Verde ) อายุ 58 ปี ชาวฟิลิปปินส์ น.ส.พรเพ็ญ   อายุ 30 ปี และ น.ส.วรัญญา  อายุ 32 ปี พร้อมของกลาง กว่า 270 รายการ รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

    จับ นายซาบีร์ ได้ที่อพาร์ตเมนต์ในซอยอ่อนนุช 17 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จับนายแอนโทนี ได้ที่ บ้านพักใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี , จับน.ส.วรัญญา ได้ที่บ้านพักในย่านบางซื่อ กทม. และ จับ น.ส.พรเพ็ญ ได้ที่ บ้านพักใน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

    พล.ต.ต.อนันต์ เผยว่า   ได้รับการประสานจาก ทางการมาเลเซีย และองค์การตำรวจสากล ผ่านกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า นางเกาคาร์ คุซไซโนวา ( Ms.Gaukhar Kussainova ) อายุ 33 ปี ชาวคาซัคสถาน หรือชื่อในวงการขายยาลดน้ำหนักว่า “มาเรีย คิม”มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการลักลอบจำหน่ายยาลดน้ำหนักผสมวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ผ่านเว็บไซต์

    มีการโพสต์รีวิวโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เนื่องจากพบหลักฐานความเชื่อมโยงเกี่ยวกับกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายเดียวกันที่ถูกจับกุมได้ในประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

    พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังได้รับการประสานจาก ป.ป.ส. เกี่ยวกับข้อมูลกรณีการจับกุมยาชุดลดน้ำหนักในประเทศจีน มีลักษณะตรงกับยาลดน้ำหนักสูตรที่มีจำหน่ายโดยเครือข่ายของ “มาเรีย คิม” ในประเทศไทย  สืบสวนขยายผลจนทราบสถานที่จัดเก็บและบรรจุยาลดน้ำหนัก เพื่อจัดส่งให้ลูกค้า  นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมของกลางได้ดังกล่าว

    “ สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพ นายซาบีร์ และ นายแอนโทนี รับว่านางเกาคาร์ หรือ มาเรีย คิม เป็นผู้สั่งการให้บรรจุยาส่งให้ลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้รับค่าจ้างเดือนละ 20,000 -25,000 บาท สอดคล้องกับคำให้การของ น.ส.วรัญญาและ น.ส.พรเพ็ญ ต่างยอมรับว่านางเกาคาร์ ได้สั่งซื้อยาลดน้ำหนักและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากตน เมื่อได้รับออเดอร์จะจัดหายาตามแหล่งขายต่างๆ ส่งให้กับ นายซาบีร์ และ นายแอนโธนี โดยได้ผลตอบแทนจากการหาซื้อยาลดน้ำหนัก จะบวกกำไรจากยอดสั่งซื้อในแต่ละครั้ง”

    ผบก.ปคบ. กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบย้อนหลังยังพบว่า มีการส่งยาลดน้ำหนักไปขายกว่า 34 ประเทศ มากกว่า 600 ครั้ง เช่น สหรัฐอเมริกา , ออสเตรเลีย , สิงคโปร์ , อังกฤษ , จีน และมาเลเซีย ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคมที่ผ่านมา เครือข่ายนี้มียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 3 ล้านบาท โดยนางเกาคาร์ หรือ มาเรีย คิม ผู้ต้องหาตามหมายจับ ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  อยู่ระหว่างการประสานไปยังองค์กรตำรวจสากล เพื่อจับกุมมาดำเนินคดี

    นอกจากนี้จากการตรวจค้นห้องพักของนายซาบีร์ ยังพบพยานหลักฐานเป็นใบเสร็จรับเงินของสถานพยาบาล คลีนิคเวชกรรมจำนวนมาก  ขยายผลพบว่า นางเกาคาร์ ได้ว่าจ้างให้คนไทยให้เปิด opd หรือไปเป็นผู้ป่วยในกับสถานพยาบาลดังกล่าว เพื่อให้ได้เลขประจำตัวผู้ป่วย

    จากนั้นจะให้นายซาบีร์ โทรศัพท์สั่งซื้อยาลดน้ำหนักจากสถานพยาบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลนำยามาให้  ขั้นตอนทั้งหมดไม่ได้พบแพทย์เพื่อตรวจรักษาเมื่อกลุ่มผู้ต้องหาได้รับยาลดน้ำหนักจากสถานพยาบาลยันฮีคลีนิคเวชกรรมแล้ว จะนำไปผสมกับสารไซบูทรามีน จัดเป็นชุดและส่งขายให้กับลูกค้า

    ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานพยาบาลยันฮีคลินิกเวชกรรม และตรวจยึดเอกสารประวัติการเข้ารักษาของนางเกาคาร์ หรือ มาเรีย พบว่ามีประวัติการเข้ารับการรักษา และมีการสั่งจ่ายยาตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2566 รวม 113 ครั้ง เป็นการจ่ายยาที่มีความถี่สูง  มีจำนวนปริมาณมากผิดปกติกว่าการจ่ายยาให้ผู้ป่วยเฉพาะราย ตรวจยึดยาไม่มีทะเบียน และพยานหลักฐานอื่นรวม 15 รายการ

    อีกทั้งพบว่าแพทย์ผู้สั่งจ่ายยาให้แก่กลุ่มผู้ต้องหาเป็นแพทย์แผนจีน  ตามกฏหมายไม่สามารถจ่ายยาแผนปัจจุบันให้กับผู้ป่วยได้ การกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ฐาน ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต  ต้องดำเนินคดีกับแพทย์ผู้จ่ายยาและสถานพยาบาลด้วย

    สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย เบื้องต้นจะถูกดำเนินในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (ไซบูทรามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันขายยาบรรจุเสร็จหลายขนานโดยจัดเป็นชุด  นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดีกฎหมายต่อไป

     

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments