วันที่ 13 ม.ค.66 ที่ บช.ก.พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.3 บก.ปคม. พ.ต.ท.ศิษฏ์ พูลวงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม., พ.ต.ท.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ปคม.
ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ากามเด็ก 2 ขบวนการ จับผู้ต้องหา 6 ราย
พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ กล่าวว่า คดีแรก ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ปคม. เปิดยุทธการ “ทลายเครือข่ายซ้อเจี๊ยว” นำเด็กชายอายุ 13 ปี ค้ากามผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จับกุม นายชยดล หรือเอส อายุ 45 ปี นายสุกรี หรือ ซ้อเจี๊ยว อายุ 72 ปี
พร้อมของกลาง ธนบัตรล่อซื้อ 3,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ถุงยางอนามัย 2 ชิ้น
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.ย. 2565 ได้พบ บัญชีทวิตเตอร์ ชื่อว่า “คนจันท์ไลน์ @chadon_chang” โพสต์จัดหาค้าบริการทางเพศเด็กทั้งหญิงและชาย ในราคา 1,500 – 2,000 บาท
ส่งสายลับติดต่อล่อซื้อเด็กชาย 2 คน นัดหมายที่หน้าห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ ต.วัดใหม่ อ.เมืองจันทบุรี ถึงเวลานัดหมายพบ นายชยดล พาเด็กชายหนุ่ม (นามสมมติ) อายุ 13 ปี และ นายต้น (นามสมมติ) อายุ 19 ปี มาส่ง
เจ้าหน้าที่แสดงตัวจับกุม พร้อมช่วยเหลือเหยื่อเด็กชายทั้ง 2 ราย
ขณะซักถามเด็กทั้งคู่ ได้มี นายสุกรี หรือซ้อเจี๊ยว หัวหน้าขบวนการโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาเพื่อทวงเงินค่าส่วนแบ่ง เจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับกุมนายสุกรี ได้ที่ร้านอาหารใน ต.วัดใหม่ อ.เมืองจันทบุรี
สอบสวนผู้ตัองหาทั้งสองรับสารภาพ นายสุกรี หรือซ้อเจี๊ยว ยอมรับว่า เป็นผู้จัดหาเด็กมาขายบริการ จะได้รับส่วนแบ่งจากการขายบริการทางเพศเด็ก คนละ 200 บาท ส่วนนายชยดล หรือเอส จะเป็นนายหน้าติดต่อผู้ซื้อบริการ ส่งเด็กให้ผู้ที่ซื้อบริการทางเพศ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “สมคบกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์จากการค้าประเวณีบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ,ร่วมกันค้ามนุษย์จากการค้าประเวณีบุคคลอายุยังไม่เกินสิบห้าปี, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ,ร่วมกันสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปเพื่อการอนาจารบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี,
ร่วมกันชักจูงยุยงให้เด็กประพฤติไม่สมควร ,ร่วมกันกระทำการช่วยเหลือให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น และ ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงแม้ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. ดำเนินการต่อไป
อีกคดี พ.ต.อ.มนูญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปคม. เปิดยุทธการ “พิทักษ์กระต่ายป่า” จับกุมนายหน้าค้ากามเด็ก และ กลุ่มผู้ซื้อบริการทางเพศเด็ก ใน จ.นครราชสีมา
จับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย แบ่งเป็นนายหน้าจัดหา 1 รายคือ น.ส.สุพัชรินทร์ อายุ 19 ปี และ กลุ่มผู้ซื้อบริการ 3 ราย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 มีการจับกุมขบวนการค้ากามเด็กผ่านทางทวิตเตอร์ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา 1 ราย พร้อมให้การช่วยเหลือเหยื่อเด็กหญิงอายุ 16และ17 ปี ที่ถูกหลอกมาค้ากามได้ 2 ราย
ขยายผลจนทราบว่าขบวนการดังกล่าวมี น.ส.สุพัชรินทร์ เป็นนายหน้าจัดหาเด็กมาค้าบริการทางเพศให้กับกลุ่มผู้ซื้อบริการทั้ง 3 ราย
พ.ต.ท.เอนก กล่าวเสริมว่า หลังจากทราบแน่ชัดแล้ว เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ น.ส.สุพัชรินทร์ ข้อหา “ค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ไม่ถึงสิบแปดปี, เป็นธุระจัดหา, ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร, ช่วยเหลือให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น, รับผลประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่น, พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดไปเพื่อการอนาจาร, พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร”
และ ออกหมายจับกลุ่มผู้ซื้อบริการทั้ง 3 คน ในข้อหา “พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดไปเพื่อการอนาจาร, พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร, และชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก” ก่อนจะนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้
สอบสวน น.ส.สุพัชรินทร์ ยอมรับว่าเป็นนายหน้าจัดหาเด็กให้แก่ผู้ซื้อบริการจริงทำมาประมาณ 5-6 เดือน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ได้ค่าตอบแทนจากการติดต่อ 300 ถึง 500 บาท ต่อครั้ง
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ซื้อบริการทั้ง 3 คน ที่ยอมรับว่า ก่อนหน้าเคยใช้บริการทางเพศ เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จริง เบื้องต้นนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวฝากเตือนว่า บก.ปคม. มีความห่วงใยเด็กผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ เพราะนอกจากความเสียหายทางร่างกายที่เกิดขึ้นกับเด็กเหล่านี้แล้ว ยังมีความเสียหายทางจิตใจที่จะฝังรากลึกและเป็นผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในอนาคต
นอกจากนี้ยังฝากเตือนภัยพี่น้องประชาชนที่อาจตกเป็นผู้เสียหาย ให้ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ให้สังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานว่ามีการใช้จ่ายเงินฟุ้งเฟ้อเกินตัว และหมั่นตรวจสอบการใช้สื่อออนไลน์ของเด็กว่ามีความผิดปกติ