Saturday, November 15, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันปอท.รวบหัวโจกจีนเทารับฟอกเงินแก๊งคอลขณะเตรียมหนีออกนอกปท.

    ปอท.รวบหัวโจกจีนเทารับฟอกเงินแก๊งคอลขณะเตรียมหนีออกนอกปท.

    ตำรวจปอท.จับกลางสนามบินจีนเทารับฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แฝงตัวใช้อีลิท วีซ่าเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ“

    วันที่ 14 พ.ย.68 พล.ต.ต.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผบก. ปอท.พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท.พ.ต.ต.วชิรเชษฐ์ อัครธีระพงศ์ สว.กก.2 บก.ปอท.

    นำกำลังร่วมกันจับกุมนายต้าเฉียง อายุ 39 ปี ชาวจีนข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันเป็นอั้งยี่” ขณะจะหลบหนีออกนอกประเทศไทย ได้ที่บริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพ ฯ

    ยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, บัตรเอทีเอ็ม/บัตรเครดิต 10 ใบ ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ 12 อัน , ใบเสร็จการโอนเงิน, สลิปฝาก/ถอนเงินสด อีกหลายรายการ

    ก่อนนี้เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ พบเห็นโฆษณาขายสินค้าทางเฟซบุ๊ก และถูกชักชวนเข้ากลุ่มไลน์ สมาชิกกว่า 700 คน ผู้เสียหายทดลองลงขายสินค้าหนึ่งชิ้นราคา 1,420 บาท มีผู้สั่งซื้อจริง จึงติดต่อขอรหัสร้านค้าเพื่อถอนเงิน

    แอดมินแจ้งว่าต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ “SELLER CENTER” โดยให้ติดต่อเจ้าหน้าที่การเงิน อ้างว่ามียอดขายเข้าระบบจริง แต่ยังถอนเงินไม่ได้ เพราะยังไม่เปิดการมองเห็นร้านค้า

    ต่อจากนั้นผู้เสียหายถูกเชิญเข้ากลุ่มไลน์ กลุ่มเล็กชื่อ “เปิดการมองเห็นร้านค้า” ก่อนถูกหลอกให้ทำกิจกรรม  จะต้องโอนเงินเข้าระบบนำไปหมุนเวียนสต็อกสินค้า

    ซึ่งในเว็ปไซต์ที่คนร้ายส่งมาให้ มีเงินจากการทำกิจกรรมเข้ามาในระบบจริง ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ ยอมลงทุนเพิ่ม ภายหลังเมื่อต้องการจะถอนเงิน คนร้ายอ้างเหตุผล หรือสร้างเงื่อนไขต่างๆ จนผู้เสียหายต้องยอมโอนเงินเข้าระบบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ไม่สามารถเบิกถอนเงินออกมาได้ รวมความเสียหายกว่า 2.9 ล้านบาท​

    ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาได้ 34 ราย แบ่งเป็นชาวจีน 10 ราย และชาวไทย 24 ราย มีตั้งแต่ระดับนายทุน สั่งการ, ฟอกเงิน, รับผลประโยชน์, กลุ่มบัญชีม้า, นายหน้าจัดหาบัญชี, ผู้ดูแลคอกม้า/ควบคุมการเบิกถอนเงินสด

    แบ่งการปฏิบัติการเป็น 2 ห้วง คือ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8 เม.ย.68 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 พ.ค.68 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวมทั้งสิ้น 28 ราย  ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินต่างๆ อาทิเช่น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 12 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 64 เครื่อง และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

    จากนั้นได้ขยายผลจนทราบว่า นายต้าเฉียง เป็นผู้ฟอกเงินในประเทศไทย มีหน้าที่แลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล (USDT) เป็นเงินบาท และเงินหยวน เพื่อโอนต่อไปยังเครือข่าย

    จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า ระยะเวลา 1 ปีครึ่ง นายต้าเฉียง รับเงินสกุลดิจิทัล (USDT) มากกว่า 330 ล้านบาทนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท และเงินหยวน ผ่านเอ็กเชนจ์แพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อโอนต่อให้เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายอื่นๆ ต่อไป

    สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าเป็นผู้ใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลจริง การรับและแลกเปลี่ยนเงินนั้น ตนทำไปตามคำสั่งของลูกค้าชาวจีน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments