โปลิศไซเบอร์เปิดปฎิบัติการ Takedown Scammer Ep:2 บุกค้น 7 จุดในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช จับกุมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ อึ้ง..!!พบมีนักการเมืองท้องถิ่นเอี่ยวร่วมก๊วน
เมื่อวันที่ 13 พ.ค.67 พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5
สนธิกำลังพล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รองผบก.ตม.6 พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผกก.สส.บก.ตม.6 และนายปราโมทย์ รัตรประทีป อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดทุ่งสง
นำกำลังปิดล้อมตรวจค้น 7 จุด ในพื้นที่อ.ฉวาง และอ.ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามยุทธการ Takedown Scammer Ep:2 จับกุมเครือข่ายขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ
จุดที่น่าสนใจ คือการเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 824 หมู่บ้านจันดีแกรนด์วิลล่า ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ของน.ส.เรวดี ทีปไพบูลย์ อายุ 51 ปี หรือเจ๊เล็ก รองนายกเทศมนตรีจันดี และนายหลิน ดันหยาง หรือโกหยาง อายุ 62 ปี สามีนางเรวดี
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงที่158 /2567 ลงวันที่ 8 พ.ค. ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนร่วมกันเป็นอั้งยี่ ,ร่วมกันเป็นซ่องโจรและร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ไม่เจอ“เจ๊เล็ก-โกหยาง”2ผัวเมีย
จากการตรวจสอบไม่พบตัวน.ส.เรวดี และสามี พบเพียงผู้ดูแล บ้านดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายในมีการแบ่งเป็นโซนที่พักและห้องทำงาน อีกโซนเป็นที่เก็บสินค้าจำพวก ถุงพลาสติก สินค้าเบล็ดเตล็ด กระดาษทิชซู่ เป็นต้น เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเอกสารหลักฐานบริษัทในเครือข่าย โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีธนาคาร รวมไปถึงสเตทเม้นท์บัญชีธนาคารต่างๆไว้ตรวจสอบ
ค้นบ้านลูกสาวไม่อยู่อีก
กำลังอีกส่วนเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 844 หมู่บ้านจันดีแกรนด์วิลล่า ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ของน.ส.อาทิตยา ทีปไพบูลย์ อายุ 23 ปี ลูกสาวนางเรวดี ไม่พบตัวน.ส.อาทิตยา พบเพียงนายหยาง ชาวจีน พ่อสามีน.ส.อาทิตยาอยู่ที่บ้านดังกล่าว ทั้งนี้ได้ตรวจยึดเอกสารหลักฐาน,สมุดบัญชีธนาคาร ไว้ตรวจสอบ
อีกจุดได้เข้าตรวจค้นโรงแรมจินเฮง อยู่ในตัวต.ฉวาง จับกุมนายอาย่ะ มาเยอะกู่ อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงที่161 /2567 ลงวันที่ 8 พ.ค. ในความผิดเดียวกัน พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ ,อุปกรณ์เราเตอร์ เป็นต้น
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาในเครือข่าย จับกุมน.ส.ธัญพร อายุ 44 ปี และน.ส.ลักษิกา อายุ 51 ปี ได้ที่อ.ฉวาง ,น.ส.ณัฏฐกันย์ อายุ 23 ปี จับได้ที่จ. สุราษฎร์ธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงที่157,159, 160/2567 ลงวันที่ 8 พ.ค. ในความผิดเดียวกัน ก่อนนำตัวทั้งหมดไปสอบสวนที่สภ.ทุ่งสง ในส่วนของน.ส.เรวดี สามีและลูกสาว และน.ส.น.ส.ดุษดี แสงแก้ว อยู่ระหว่างหลบหนี
ขยายผลจากจับแก๊งคอลปลายมีนา
พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท.กล่าวว่า ปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา (29 มี.ค. 67 ) ตร.บช.สอท. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจสืบสวน ภ.8 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ กสทช. กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ ที่ลักลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทย,ชาวจีน,ชาวรัสเชีบและชาวญี่ปุ่น
ครั้งนั้นจับกุมขบวนการชาวจีน และผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รวม 90 คน พร้อมยึดของกลางอีกรายหลายการ เช่น คอมพิวเตอร์ 192 เครื่อง, มือถือและซิมผี 854 เครื่อง, Router กระจายสัญญาณ 22 เครื่อง, และบัญชีม้า 342 เล่ม
พบ“เจ๊เล็ก”เป็นเจ้าของสถานที่
จากการขยายผลพบความเชื่อมโยงว่าขบวนการดังกล่าวมีน.ส.เรวดี ทีปไพบูลย์ อายุ 51 ปี หรือเจ๊เล็ก รองนายกเทศมนตรีจันดี เป็นเจ้าของสถานที่ที่กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนมาใช้ปฎิบัติการ และได้ผลประโยชน์จากการเช่าอาศัย
โกหยางสามีเป็นหัวเบี้ย
อีกทั้งสามีคือนายหลิน ดันหยาง หรือโกหยาง โอนเงินซื้อคอมพิวเตอร์,โทรศัพท์ให้กับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน และทำหน้าที่จ่ายเงินให้ลูกจ้างชาวไทย และน.ส.อาทิตยา ลูกสาวนางเรวดี เป็นนอมินีปรากฎชื่อในบริษัทที่กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนใช้บังหน้า จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ 7 ราย
ประกอบไปด้วยกลุ่มผู้ได้รับผลประโยชน์ 2 หมายจับ คือ นายหลิน ดันหยาง ,น.ส.อาทิตยา ทีปไพบูลย์ ส่วนน.ส.เรวดี หรือเจ๊เล็ก ศาลให้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อหา และกลุ่มผู้ร่วมขบวนการสนับสนุนทำหน้าที่ นอมินี ซื้ออุปกรณ์ในการกระทำผิด และบัญชีม้า 5 หมายจับ คือ น.ส.ดุษดี แสงแก้ว อายุ 44 ปี ,น.ส.ธัญพร ทองใหม่ อายุ 44 ปี ,น.ส.ลักษิกา วงศ์ภัทรพงศ์ อายุ 51 ปี ,นายอาย่ะ มาเยอะกู่ อายุ 37 ปี,น.ส.ณัฏฐกันย์ ข่ายแก้ว อายุ 23 ปี
จ่อออกหมายจับ เจ๊เล็ก รองนายกเล็กฯจันดี มีพฤติกรรมหลบหนี สั่งคุมเข้มชายแดน-ช่องทางธรรมชาติ
ต่อมาเวลา 11.30 น.ที่ห้องประชุมสภ.ทุ่งสง พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว. นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รองผบก.ตม.6 พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผกก.สส.บก.ตม.6 และนายปราโมทย์ รัตรประทีป อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดทุ่งสง
ร่วมสอบปากคำนายอาย่ะ มาเยอะกู่ อายุ 37 ปี น.ส.ธัญพร อายุ 44 ปี น.ส.ลักษิกา อายุ 51 ปี ,น.ส.ณัฏฐกันย์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม
หลังสอบปากคำพล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การภาคเสธ แต่ให้ความร่วมมือในการตรวจค้นและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวน ขบวนการนี้หลอกลวงเหยื่อหลากหลายวิธีในหลายประเทศ ทั้งประเทศจีน ,ญี่ปุ่น,รัสเชียและไทย
ออกอุบายหลอกลงทุนชักชวนเล่นพนันออนไลน์ ซื้อสินค้าในแพลตฟอร์มติ๊กต็อก ซอปปี้ ในลักษณะสแกรมเมอร์ ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ เทเลแกรมและคิวคิว
การตรวจค้นครั้งนี้ได้หลักฐานสำคัญคือ เอกสารบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่งที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ในบ้านพักของนางเรวดี ที่ก่อนหน้านี้นางเรวดี อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็น
อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องเสนอต่อศาลออกหมายจับนางเรวดี ทีปไพบูลย์ หรือเจ๊เล็ก รองนายกเทศมนตรีจันดี เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนีไม่ยอมมาตามหมายเรียกแล้ว
ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ต้องหาที่หลบหนี ให้มามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงเฝ้าติดตาม และคุมเข้มสกัดจับตามแนวชายแดนและช่องทางธรรมชาติเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาทึ่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป