Sunday, May 25, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันผบ.ตร.ตั้ง“บิ๊กโอ๋”คุมคดี“สจ.กร่าง”ยำตชด.

    ผบ.ตร.ตั้ง“บิ๊กโอ๋”คุมคดี“สจ.กร่าง”ยำตชด.

    ผบ.ตร.มีคำสั่งตั้ง“พล.ต.อ.ธนายุตม์”เป็นหัวหน้าทีมสืบสวน คดีไอ้กอล์ฟกับพวกกร่าง รุมทืบ ตชด.คาหน่วยเลือกตั้งน่วมพร้อมจัดทีม 4 นายพลมือสืบสวนระดับพระกาฬ กำชับเร่งสปีดลุยคดี ย้ำให้เอาผิดทุกเม็ด ต้องรายงานคืบหน้าให้ทราบทุกระยะต่อเนื่อง

    วันที่ 22 พ.ค.2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 287 / 2568 คำสั่งดังกล่าวระบุว่า เรื่อง แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสาน

    ด้วยเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 13.25 นาฬิกา นายสิรดนัย พลายด้วงหรือกอล์ฟ กับพวก รวม 7 คน ผู้ต้องหา สมคบและร่วมกันทำร้ายร่างกาย ดาบตำรวจ นิสาธิต คงเทพ บังคับหมู่ ป้องกันปราบปราม ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติความปลอดภัยหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นเทศบาลตำบลพลพะวง ประจำที่เลือกตั้งหน่วยเลือกตั้งที่ 7 เขตเลือกตั้งที่ 1 ตั้งอยู่ที่ใต้อาคาร 2 ภายในโรงเรียนนวมินทราชูทิศทิศทักษิณ หมู่ที่ 2 ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดขลา

    พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 51 นความผิดฐาน “ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่เพราะเหตุที่รือได้กระทำตามหน้าที่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ใช้อาวุธ และร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป และเป็นช่องโจร”

    ต่อมาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีบันทึกสั่งการ ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 อนุญาตให้โอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาให้กองบังคับการปราบปรามทำการสอบสวนฝ่ายเดียว ซึ่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ ๖ กองบังคับการปราบปราม ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 5 /2568

    เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีถูกฉกรระเทือนขวัญ เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมาลขนให้ความสนใจประกอบกับผู้ต้องหาเป็นผู้อิทธิพลในพื้นที่และมีลักษณะเป็นการก่ออาชญากรรมในรูปของขบวนการ หรือกลุ่มบุคคล ก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อความปะอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนนพื้นที่อย่างร้ายแรง และมีพยานหลักฐานที่จะต้องรวบรวมเป็นจำนวนมาก

    ดังนั้น เพื่อให้การสืบสวนพยานหลักฐาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเกิดความเป็นธรรมอาศัยมาตรา 63(4) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 19/2556 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญาการทำรสำสอบสวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบ เร่งรัด การสอบสวขคดีอาญา บทที่ 4 ข้อ

    จึงแต่งตั้งงานสืบสวนสอบสวน เพื่อรับผิดขอบทำการสืบถวนสอบสวนคดีอาญาที่ 5/2568 ของ กองคับการปราบปราม รวมทั้งคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกันที่หากทำการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอันเป็นความผิดตามกฎหมาย

    มีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ หัวหน้าและรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ดังนี้

    พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติรักษาราชการแทน ผู้ช่วยผู้บัญขาการตำรวจแห่งชาติ

    พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี เป็นรองหัวหน้าพนักทนสืบสวนสอบสวนผู้บัญขาการ ตำรวจภูธรภาค 9

    พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

    พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสหติด

    พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

    เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ
    พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม เป็นเลซานุการ

    พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เป็นผู้ช่วยเลขานุการ,

    พร้อมด้วยรายชื่อพนักงานสอบสวน ปรากฏตาม ผนวก ก แนบท้ายคำสั่งรายชื่อพนักงานสืบสวน ปรากฏตาม ผนวก 4 แนบท้ายคำสั่งให้หัวหน้า รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสาข และพนักงานสอบสวนตาม ผนวก ก มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทำการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาในความผิดดังกล่าว รวมทั้งคดีอาญาอื่นที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

    และหากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีผู้อื่นร่วมกระทำความผิด หรือมีการกระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกัน ก็ให้มีอำนาจสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดนั้น ๆ แล้วรายงานผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบ

    กำหนดแนวทางการสอบสวนให้ครอบคลุม ครบถ้วน ตามพฤติการณ์แห่งคดีและองค์ประกอบความผิด เพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดและหยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ผู้ใช้ ตัวการ และผู้สนับสนุน ในการกระทำความผิดให้ครบถ้วน

    อนึ่ง คำสั่งนี้เป็นการมอบหมายอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบนอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามปกติ ซึ่งข้าราชการตำรวจยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการในหน่วยงานของตนโดยมีหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งนี้ เป็นผู้ควบคุม กำกับดูแล และบริหารจัดการ การปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการในตำแหนของข้าราชการตำรวจดังกล่าวทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    สั่ง ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 “คำสั่งดังกล่าว ระบุ”

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments