ผบ.ตร.สั่งผู้การ ตชด.ภาค2 มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน “จ.ส.ต.สังกัด ตชด.” เสพยาขับรถโชว์ปืนกลางถนนพระราม 4 – พบพก M4A1 พร้อมกระสุนเต็มแม็ก
กรณีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุว่ามีชายขับรถยนต์อย่างประมาท หวาดเสียว พร้อมแสดงอาวุธปืนใส่ผู้อื่น เหตุเกิดบนถนนพระราม 4 ขาเข้า หน้าอาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่รีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมสกัดจับรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์มิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน กจ 6075 ศรีสะเกษ พบรถคันดังกล่าวเวลาประมาณ 15.00 น.หน้าตลาดคลองเตย ผู้ขับขี่คือ จ.ส.ต.อิทธิพล ไชยโคตร สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 (กก.ตชด.22)อยู่ระหว่างพักปฏิบัติหน้าที่
จากการตรวจค้นภายในรถพบปืนเล็กยาวแบบ M4A1 1 กระบอก กระสุน 5.56 มม. 29 นัด และแม็กกาซีน ซุกซ่อนอยู่บริเวณที่พักเท้าผู้โดยสารด้านหลังฝั่งซ้าย
ผู้ต้องหารับสารภาพว่าพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนดังกล่าว ซึ่งเป็นของทางราชการมาด้วยขณะไปรับภรรยาระหว่างทางเกิดเหตุโต้เถียงกับรถแท็กซี่คู่กรณี จึงยกปืนขึ้นโชว์แต่ไม่ได้ยิง
ภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ และนำตัวส่งตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลคลองตัน พบว่ามี สารเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้าในร่างกาย ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเสพยามาก่อนหน้านี้
ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ออกคำสั่งที่ 157/2568 “ให้ออกจากราชการไว้ก่อน”
สำหรับ จ.ส.ต.อิทธิพล ไชยโคตร โดยในคำสั่งระบุว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมที่เข้าข่าย กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง เช่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้,พาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขับขี่ยานพาหนะทั้งที่มีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ในร่างกาย
ทั้งนี้ คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นไปตามกฎ ก.ตร. พ.ศ. 2547 ข้อ 3(1) อันเป็นกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน หรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประพฤติที่ไม่น่าไว้วางใจ และหากยังคงอยู่ในหน้าที่ราชการ อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการได้
คำสั่งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ออกคำสั่งเป็นต้นไป และผู้ที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 141 ภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับคำสั่ง และมีสิทธิดำเนินการฟ้องต่อศาลปกครองภายใน 90 วันเช่นกัน หากไม่พอใจคำวินิจฉัยอุทธรณ์
ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมพิสูจน์ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืนต้นทาง และพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
