“เพราะสอบสวนกลางคือครอบครัว”
ประโยคแรกที่ฟังแล้วรู้เลยว่ามีความหมายมากสำหรับ ร.ต.อ.หญิง ปิยาภรณ์ แก้วมณีโปรด หรือ ผู้กองปาล์ม รองสารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม นรต.69
Lively and Energetic สองคำนี้โพล่งขึ้นในหัวทันที ระหว่างคุยผู้กองปาล์ม ดีกรีนักเรียนแลกเปลี่ยน ทุนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ณ South Carolina, United State (AFS รุ่นที่ 49)
เส้นทางเปลี่ยนผ่านจากเด็กวัยรุ่นเดินตามฝันสอบติดไปเรียนรู้วัฒนธรรมต่างประเทศถึง 1 ปีเต็ม กับเส้นทางที่ไม่คาดฝัน
จากเด็กนักเรียนนอกสู่เส้นทางสอบติดโรงเรียนนายร้อย ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองสอบ แหนะ! ถึงกับร้องอู้วหู้ววว
ผู้กองปาล์มเล่าถ่อมตัวว่า
ช่วงนั้น ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยตามปกติ พอไปลองสอบโรงเรียนนายร้อยได้ บวกกับคุณพ่อคุณแม่สายราชการทั้งคู่ การตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้จึงเริ่มขึ้น
คงปรับตัวไม่น้อยกับชีวิต routine ที่ปกติทั่วไปตามประสาวัยรุ่น เมื่อต้องไปอยู่ใต้ชายคาโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานถึง 4 ปี
ผู้กองปาล์มได้ประสบการณ์เยอะมาก ทั้งความอดทนที่เมื่อรับราชการไปจะต้องเจอทั้งผู้คนที่เข้ามาร้องเรียนหลากหลาย วินัยที่ต้องฝึกให้ตัวเองมีระเบียบ
ผู้กองปาล์มเล่าว่า ที่นี่ทำให้เข้าใจวัฒนธรรมและปรับมุมมองของเธอไปสิ้นเชิง
ช่วงรับราชการใหม่ๆผู้กองปาล์มเข้าใจถึงการทำงานว่า การเป็นตำรวจที่รับใช้ประชาชน ไม่ใช่แค่ทุกคนต้องการแจ้งความหรือข้อหาประปราย แต่เพราะตำรวจคือ พื้นที่ความสบายใจที่มอบความยุติธรรมและรับฟังแก่ประชาชน (เอาโล่ไปเล้ย)
ไหนจะทั้งภาษาที่เป็นข้อได้เปรียบและความกล้าทำอะไรใหม่ๆ
ผู้กองปาล์มเลยได้รับมอบหมายเป็นทั้งล่ามในเคสชาวต่างชาติ ทั้งพิธีกร และเข้าอบรมโฆษกสอบสวนกลาง เป็นหญิงที่ไม่เพียงแต่ฉลาดแต่มากไปด้วยความสามารถจริงๆนะเนี่ย
ถามถึงการทำงาน ผู้กองปาล์มเล่าให้เห็นภาพชัดขึ้น ว่า
งานสอบสวนคืองานที่เริ่มตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำ ไปยันปลายน้ำ ว่า ในหนึ่งคดีเราต้องรวบรวมหลักฐาน นี่คือความท้าทาย อย่างคดีใหญ่ๆ เช่น คดีบรรยิน ที่เรียกได้ว่ามหากาพย์ผู้คนสนใจกันมาก
ผู้กองปาล์มเล่าย้อนว่า
ช่วงที่ทำคดีนั้น เปรียบเสมือนหนึ่งในมดงาน ที่ร่วมทำงานกับพี่ๆทั้งฝ่ายสอบสวนและสืบสวน เมื่อคดีเสร็จทำให้ประทับใจอย่างมาก เพราะพี่ๆทั้งเก่ง และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีสำเร็จ ต้องขอบคุณมดงานทุกคนที่สามารถทำให้คดีนี้เสร็จออกมาดีได้
ผู้กองปาล์มยังเล่าเพลินถึงการทำงาน ด้วยโอกาสที่ได้ลงพื้นที่ทำให้รู้สึกอยากลองสายงานสืบสวน เลยลงอบรม โรงเรียนสืบสวนกองปราบ รุ่นที่ 5
เมื่อได้เข้าไปแล้วก็พบว่า มีรุ่นพี่หลายคนที่ฝีมือเจ๋งๆทั้งนั้น เหมือนทุกๆวันของการทำงานคือการเพิ่มศักยภาพของตนเองไปเรื่อยๆ
คงต้องย้อนขอบคุณ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. รวมไปถึงพี่ๆตำรวจทุกคนที่อยู่ภายใต้รั้วเดียวกัน เพราะสังคมที่หล่อหลอมดีเลยทำให้ผู้กองปาล์มของเรามีภูมิต้านทานและอยากจะฝึกฝนศักยภาพของตัวเองต่อๆไป
เห็นสวยๆคมๆแบบนี้ แน่นอนว่าผู้กองปาล์ม คือ Activity girl ตัวยง
ทั้งยิงปืน ขี่ม้า เวทเทรนนิ่ง อะไรที่ผจญภัยเข้าทางสาวคนนี้หมด แต่มุมหวานๆก็มีน้า อย่างว่างๆวันพักผ่อนผู้กองปาล์มเราก็ออกไปคาเฟ่ อัพภาพซักแชะ (แซวค่า)
อ๊ะๆ ก่อนจะจบเราไม่ลืมถามถึงสเปค เห็นคล่องแคล่วแบบนี้ แน่นอนว่าผู้กองปาล์มชอบคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ เข้าใจ ใจดี และที่สำคัญชอบอะไรเหมือนๆกันยิ่งได้แต้มต่อเข้าไปใหญ่น้า
อดยอมรับไม่ได้ว่า จากเด็กวัยรุ่นเรียนดีคนนึงสู่มุมมองการรับราชการ ในเส้นทางนี้สอนให้ผู้กองปาล์มเข้าใจอะไรเยอะมาก
ตำรวจเปรียบเหมือนผ้าขี้ริ้ว ที่ทุกบ้านยังไงก็ต้องมี
ฟังประโยคนี้คงเอ๊ะๆ แต่เพราะในสังคมเราเมื่อถามถึงความยุติธรรมจะขาดอาชีพนี้ไปไม่ได้เลย ในเส้นทางนี้มีตำรวจน้ำดีและฝีมือคุณภาพอีกมากมาย นั่นจึงทำให้ผู้กองปาล์มรักและภูมิใจในอาชีพนี้มากๆ