วันเสาร์ ที่ 14 ธ.ค. 67 เวลา 16.00 น.ณ ห้องประชุม สภ.อุ้มผาง ต.อุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก และผ่านระบบทางไกลผ่านจอภาพ(ระบบ Zoom) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.(สส)
มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส 1)เดินทางไปประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและเป็นที่น่าสนใจของประชาชนในคดี “คดีคนร้ายปาระเบิดในงานแผ่นดินดอยลอยฟ้า โดยมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดที่งานแผ่นดินดอย ต.อุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 67 เวลา23.35 น.”
โดยมีพล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รอง ผบช.ภ.6 รรท.ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ รอง ผบช.ภ.6
พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.จว.ตาก พล.ต.ต.ไสว ครุฑผาสุข ผบก.สส.ภ.6และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ตามรายงานเบื้องต้นสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย ดังนี้
1.นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี
2.นายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี
โดยมีข้อสั่งการดังนี้
1.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน โดย ผบก.สส.ภ.6, ผกก.สส.ภ.จว.ตาก และ ผกก.สภ.อุ้มผาง ควบคุมการปฏิบัติและเร่งรัดสืบสวนหาพยานหลักฐานภาคอากาศเพิ่มเติม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง และทำไทม์ไลน์ในคดีตามที่ได้สั่งการไว้แล้ว
2.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวน โดย รอง ผบช.ภ.6, ผบก.ภ.จว.ตาก และ รอง ผบก.ภ.จว.ตาก ที่รับผิดชอบงานสอบสวนควบคุมการปฏิบัติและดำเนินการเร่งรัดสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
เร่งรัดส่งวัตถุพยานในที่เกิดเหตุส่งพิสูจน์หลักฐาน เร่งรัดผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ ผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานนำเข้าในสำนวนการสอบสวน ทำแผนที่เกิดเหตุให้ละเอียดโดยให้อยู่ภายใต้แนวทางของกฎหมายอย่างเคร่งครัด
3.เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานให้เร่งรัดดำเนินการตรวจวัตถุพยานภายในที่เกิดเหตุ ส่งผลตรวจให้พนักงานสอบสวนนำเข้าสู่สำนวนการสอบสวน
4.ผู้ต้องหา 2 ราย ซึ่งเป็นเยาวชน ให้ดำเนินการสอบสวนตาม พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวฯ
5.ให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดตรวจหาวัตถุพยานในที่เกิดเหตุซึ่งอาจเป็นชิ้นส่วนของระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อส่งตรวจกับพิสูจน์หลักฐานต่อไป
6.เพิ่มความเข้มในการป้องกันเหตุ ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนได้อีก ตามที่ได้สั่งการไว้แล้ว
7.ให้ผู้บังคับบัญชา ควบคุมกำกับดูแลและสั่งการในคดีด้วยตนเอง, ให้ดำเนินการแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้ฝ่ายผู้เสียหายทราบเป็นระยะ
8.ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยเน้นย้ำอย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวน หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องทางคดี ต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฎยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ เพราะจะทำให้ข้อมูลความลับคดีหรือเทคนิคในการสืบสวนรั่วไหล ทำให้ทำงานได้ยาก
9.กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานร่วมกันเป็นทีม(teamwork) บูรณาการการข่าวร่วมกันทุกฝ่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจน
10.ให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ หากพบปัญหาให้รายงานให้ทราบ เน้นย้ำอย่าให้เกิดข้อบกพร่อง
และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” และ “ขยัน อดทน ดำรงตนอย่างมีเกียรติ”