คำโปรยบนโปสเตอร์ภาพยนตร์ “พนอ” ที่ว่า “ก่อนเล่น ก่อนลอง ก่อนเป็นตำนานเสียวสยองตลอดกาล”
และหญิงสาวที่ปรากฏบนโปสเตอร์คือ “เฌอปราง อารีย์กุล” ก็เชื่อว่าแฟนตัวยงของวงเกิร์ลกรุ๊ป BNK48 ย่อมไม่พลาดชมแน่นอน
และคงมีอีกหลายคนอยากรู้จัก “ลองของ”ภาพยนตร์แนวไสยศาสตร์ที่ทำออกมาก่อนหน้านี้ 2 ภาค (ภาค 1 ฉายในปี 2548 ภาค 2 ฉายในปี 2550) เนื่องจาก “พนอ” ได้รวมเข้าเป็นงานของ “จักรวาลลองของ” ไปเป็นที่เรียบร้อย
“ลองของ” ยังเป็นที่จดจำของคอหนังไทยมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนักแสดงนำที่รับบท “ครูพนอ” อย่าง “นภคปภา นาคประสิทธิ์” และฉากหวาดเสียวนานา
เมื่อนับเวลาจากภาคแรกและภาค 2 มาถึงปัจจุบันนี้ ก็ห่างกันราว 18-20 ปี บางคนคงไม่คาดคิดว่าจะมีอะไรมาต่อขยายเกี่ยวกับ “ลองของ” อีกแน่ ๆ
แต่แล้วในต้นปี 2568 ค่ายไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ก็ปล่อย “พนอ” งานPrequel หรือภาคย้อนที่มาของ “ครูพนอ” ออกมาให้ชม
ตัวละคร “พนอ” ในเวอร์ชั่นนี้รับบทโดย “เฌอปราง อารีย์กุล” กำกับโดย “พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว” ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะเห็นชื่อของ “พุฒิพงศ์” มาทำงานเรื่องนี้
เพราะเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มคนทำหนัง “ทีมโรนิน” มีเครดิตในงาน “ลองของ 1” และตัวเขาเองยังกำกับ “ลองของ ซีรีส์” ฉายทางช่อง 3 ในปี 2563
“พนอ” นอกจากจะเผยถึงการกำเนิดขึ้นของ “ครูพนอ” ยังเป็นการเปิดตำนานความสยองขวัญสั่นประสาทที่มีต้นตอมาจากคนเล่นคุณไสยใช้วิชามนต์ดำ
https://www.youtube.com/watch?v=eBRDVa3BneQ
หนังเปิดเรื่องด้วยการโหมใส่ให้พรั่นพรึงแกผู้ชม จากนั้นก็พาไปรู้จักกับเด็กหญิง “พนอ” ชื่อที่พระตั้งให้เป็นสิริมงคลเพื่อที่จะได้เป็นที่รักของผู้คน
แต่ในชีวิตจริงแล้วคนส่วนใหญ่ต่างตราหน้าว่าเธอเป็นตัว “กาลกิณี”
แม้แต่“นวล” (ชลิตา ส่วนเสน่ห์) มารดาแท้ๆก็ยังรังเกียจ ลูกสาวของตนเอง เพราะเด็กหญิงเกิดมาในวันที่มีคนในหมู่บ้านทําพิธีปล่อยของ และใครที่ข้องแวะกับเด็กน้อยก็จะถูกคุณไสยเล่นงาน
ถึงถูกรังเกียจเดียดฉันท์จากคนรอบข้าง “พนอ” ก็เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่กตัญญูรู้คุณ ขยันขันแข็ง แม้ชีวิตจะอาภัพแต่ก็ไม่อับโชคเสียทีเดียว
เด็กสาวมี “แต้ว” (นันทวรรณ พงศ์ประเสริฐสิน) เป็นเพื่อนสนิทที่หวังดีกับเธอทุกอย่าง และมีผู้ใหญ่บางคนในหมู่บ้านให้ความเมตตาสงสาร
ขณะที่เธอก็มีมิตรภาพที่จริงใจกับ “เปี๊ยก” (จักริน กังวานเกียรติชัย) เด็กหนุ่มเลือดร้อน ที่เกลียดชัง “พนอ” เข้าไส้เพราะเชื่อว่าเธอเป็นต้นเหตุการวายชนม์ของมารดาของตน
เรื่องราวของ “พนอ” วางน้ำหนักไปที่ชีวิตในช่วงวัยรุ่น เรียนชั้นมัธยม มีทั้งเพื่อนดีเพื่อนร้าย
มีสาวระดับดาวโรงเรียนเพราะรูปสวย และมีอิทธิพลเพราะพ่อรวย อย่าง “จิ๊บ” (รัตนวดี วงค์ทอง) ที่มักจ้องเล่นงานทุกที่เข้ามาใกล้ชิดกับ “ป้อง” (ณฐวัฒน์ ธนทวีประเสริฐ) นักฟุตบอลดาวดังฝ่ายชายของโรงเรียน เป็นชายที่ “จิ๊บ” หมายตา
ทว่า “ป้อง” ก็มีทีท่าสนใจ “พนอ” หลังจากที่ตัว “พนอ” เองได้พบกับจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต
แน่นอนว่าจุดเปลี่ยนที่สำคัญก็คือ เธอได้รับรู้และเข้าใจมากขึ้นถึงพลังที่อัดแน่นอยู่ในร่างกาย แต่ยังไม่รู้ว่าจะควบคุมและจัดการให้พลังอันเอกอุเหล่านั้นอยู่ในที่ในทางอย่างที่สมควรอย่างไร
นอกจากจะเปลี่ยนแปลงเป็น “พนอคนใหม่”
โชคชะตายังพาเธอไปพบความจริงเกี่ยวกับหลายเหตุการณ์สยดสยองที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน รวมถึงต้นสายปลายเหตุของมนต์ดำที่ส่งผลกับชีวิตของเธอมาตั้งแต่เกิด
หนังมอบความบันเทิงของความหฤโหด ทำเอาเสียวไส้ แบบจัดเต็ม มีทุกท่าบังคับตามธรรมเนียมปฏิบัติของหนังสยองขวัญ เกลี่ยฉากชวนขนหัวลุกกับดราม่าอย่างกลมกล่อม แทรกด้วยมุกตลกขบขันบ้างพอชุ่มคอ
บทซับซ้อนหักมุมไปมา นักแสดงรุ่นใหม่ ๆ สำแดงฝีมือออกมาอย่างน่าทึ่ง รุ่นใหญ่ก็ยังแวววาวสมกับความเป็นรุ่นลายคราม บางฉากที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกส์ช่วย ก็ต้องบอกว่าทำได้อย่างกล้าหาญและผลที่ออกมาก็ใช้ได้ทีเดียว
เรียกว่าเป็นชิ้นงานที่ครบรส และต่อยอด “จักรวาลลองของ” ออกไปอย่างสนุก!
Blue Bird18/1/68