“หนุ่มในเครื่องแบบ” มักจะเป็นที่หมายปองของสาว ๆ หลาย ๆ คน ใครไม่เชื่อ ลองค้นคำว่า “นายร้อย” ในเฟซบุ๊ค รับประกันว่าท่านจะพบเพจนำเสนอหนุ่มหน้าตาดีในเครื่องแบบ ทั้งทหาร ตำรวจ แสดงขึ้นมาให้ได้เลือกรับชมกันไม่หวาดไม่ไหว ตั้งแต่เพจที่มียอดผู้ติดตามหลักพัน จนถึงหลักหมื่น เพจดัง ๆ มียอดผู้ติดตามหลักหลายแสนคนก็
บุคลิก อกตั้ง หลังตรง ผสานกับเครื่องแบบเข้ารูป ขับรัศมีทำให้ผู้สวมใส่ดูน่าหลงใหล ชวนมอง แต่สิ่งที่พ่วงมาด้วยกับคำว่า หนุ่มในเครื่องแบบ มักจะเป็นความเชื่อ (แบบผิด ๆ ) ว่าไอ้พวกนี้มัน “เจ้าชู้”
การที่จะมีสิทธิ์เครื่องแบบได้ ก็ต้องผ่านการฝึกอบรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “นักเรียนนายร้อย” ที่ต้องใช้ช่วงชีวิตวัยรุ่นในรั้วโรงเรียนประจำที่เป็นชายล้วนถึง 6 – 7 ปี ดังนั้นเพศตรงข้ามย่อมเป็นสิ่งแปลกใหม่ และน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักเรียนทหารตำรวจเสมอ และด้วยความที่ประสบการณ์น้อย มีโอกาสได้สัมผัสเพศตรงข้ามน้อยกว่าวัยรุ่นชายทั่วไป การแสดงออกของชายหนุ่มเหล่านี้ต่อเพศตรงข้าม บางครั้งจึงดูไม่ธรรมชาติ เป็นที่มาของความเชื่อผิด ๆ ที่ผมกล่าวมาข้างต้น ทั้งที่จริงแล้ว ชายหนุ่มเหล่านี้ก็ไม่ได้มีเจตนา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ตำรวจ” ที่โดยหน้าที่ต้องสัมผัส พบปะกับประชาชนโดยตรง จากการปฏิบัติหน้าที่ทำให้พบเจอกับคนมากหน้าหลายตา การปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวก โดยเฉพาะการแก้ปัญหาให้กับสาว ๆ ทำให้ยิ่งมีโอกาสสนิทสนม หรือพัฒนาความสัมพันธ์กันได้โดยบังเอิญ หลายคู่เริ่มจากเหตุเกิดที่บน สน. แล้วพัฒนาไปจนแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกันเลยก็มี
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ก้าวเท้าจากรั้วโรงเรียน ออกมาเผชิญโลกแห่งความจริงภายนอก ตำรวจ – ทหาร ทุกคนสำนึกดีว่าตนเองแบกภาระหน้าที่รับผิดชอบยิ่งใหญ่ไว้บนบ่าทั้งสองข้าง หน้าที่ปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพิทักษ์รับใช้ประชาชน ย่อมสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ฉะนั้นน้อยคนนักที่จะมัวมานั่งคิดเอาเครื่องแบบของตัวเองมาใช้ดึงดูดเพศตรงข้าม เพราะเครื่องแบบที่ตนเองสวมใส่นั้น มันมีเกียรติ ศักดิ์ศรี และความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น แต่ถ้าจะมีใครมาถูกใจชอบพอด้วยเสน่ห์ของเครื่องแบบที่เย้ายวน ก็คงจะเป็นเหตุสุดวิสัยที่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากค่านิยมนี้เอง ทำให้มีชายหนุ่มบางคนหลงผิด หวังหล่อทางลัด อาศัยแต่งเครื่องแบบตำรวจ พกปืน ถ่ายรูปอัพเฟซบุ๊ค เช็คอินที่นั่นที่นี่ สร้างตัวละครเสมือนจริงขึ้นมา เที่ยวแชทคุยตีสนิทกับสาว ๆ สังเกตอาการ คนไหนมีอาการคลั่งเครื่องแบบจนขาดสติก็ใช้การจีบบ้าง หยอดบ้าง หวังผลประโยชน์เชิงชู้สาว หนักเข้าถึงขั้นหลอกเอาเงินก็มี นี่เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริง ถึงขนาดหนังสือพิมพ์ดังเคยพาดหัวข่าว “จับ พล.ต.ท.เก๊ เมียช็อก อยู่กินกันมา 20 ปี ยังนึกว่าผัวเป็นตำรวจ” ก็เคยมีมาแล้ว และแน่นอนว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
หนักกว่านั้นก็มีให้เห็น บางคนไม่ลงทุนอะไรเลย อาศัยใช้วิธีขโมยรูปตำรวจหล่อระดับเทพคนดัง สร้างเฟซบุ๊คปลอมขึ้นมา แอบอ้างเป็นตัวจริงใช้หลอกสาว ๆ ที่รู้ไม่เท่าทัน หวังผลเชิงชู้สาว
รวมทั้งใช้อุบายหลอกให้โอนเงินให้ก็มี สาว ๆ พึงระวังเอาไว้ ตำรวจดี ๆ เค้าไม่ทำกันแบบนี้หรอก จะคุยกับใคร คุยเฉย ๆ ไม่เป็นไร แต่ถ้าออกแนวแปลก มีให้โอนเงินขอนั่นขอนี่ ตรวจสอบดูให้ดีก่อน ไล่ย้อนดูโพสเก่า ๆ ดูจำนวนเพื่อน ก็พอจะเดาได้ว่าตัวจริงหรือตัวปลอม….ระวังจะตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
รัศมีที่เปล่งประกายจากเครื่องแบบเป็นเพียงส่วนประกอบทางกายภาพแค่ส่วนหนึ่ง และแน่นอนว่ามันไม่ใช่ส่วนประกอบทั้งหมด ประสบการณ์ การถูกปลูกฝัง ทัศนคติ ความสำนึกในหน้าที่ในการพิทักษ์สถาบันและรับใช้ประชาชน ถูกหลอมรวมอยู่ในตัวตนของตำรวจแต่ละคน
ภาพลักษณ์ความเจ้าชู้ของตำรวจ อาจจะเป็นเพียงเพราะธรรมชาติของชีวิตวัยรุ่น กับลักษณะหน้าที่การงาน ยังมีตำรวจอีกมากที่ภูมิใจในเครื่องแบบที่ตัวเองสวมใส่ โดยไม่เคยแม้แต่จะนึกถึงเรื่องการเอาเครื่องแบบไปใช้ในเชิงชู้สาว ตำรวจที่รักครอบครัว รักเดียวใจเดียว เพราะความรักย่อมเกิดจากเนื้อแท้ในตัวตนของกันและกัน ไม่ใช่แค่เพียงเปลือกภายนอก
สาว ๆ คนไหนไม่เชื่อผม ลองพิสูจน์จากตำรวจใกล้ตัวดูสิครับ…