รองผบช.น.แถลงข่าวจับกุม“แก๊งอาชญากร” อ้างตัวเป็น “ตำรวจ” ปล้นทรัพย์ชาวต่างชาติ
จับแก๊งแสบแอบอ้างตัวเป็นตำรวจปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยว เปิดเผยขึ้น ที่สน.ลาดพร้าว เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 พ.ย.67 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 พ.ต.ท.ธรรศพงศ์ พัฒนกิตติสกุล รรท. ผกก.สน.ลาดพร้าว ชุดสืบสวน บก.สส.บก.น.4 และฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว
แถลงข่าวจับกุมนายกิตติชัย หรือกุ่ย และนายพงษ์พัฒน์ หรือฟี่ ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น จับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 20 พ.ย. ผู้เสียหายชาวเวียดนาม 2 คน เดินทางเข้าไทยนัดกับเพื่อนชาวไทยที่ร้านนิมมาน ถนนคลองลำเจียก ซอยคลองลำเจียก 31 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. เพื่อให้พานำเที่ยวไทย
ระหว่างรอเพื่อนมีคนร้าย 3 คน ขับขี่รถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว แต่งกายคล้ายตำรวจ สวมเสื้อเกราะ เสื้อคลุม ห้อยบัตรเจ้าพนักงาน พกพาวิทยุสื่อสารและอาวุธปืน บอกว่าเป็นตำรวจมาตรวจค้นรถ โดยอ้างว่ารถเก๋งเอ็มจีของผู้เสียหายที่ใช้ขนส่งยาเสพติดหลายครั้งได้ติดตามเฝ้าดูตลอด ผู้เสียหายฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องต้องสื่อสารผ่านแอปฯกูเกิ้ลทรานสเลท
รองผบช.น. กล่าวต่อว่า นายกิตติชัย 1 ใน 3 ยึดกระเป๋าของผู้เสียหายไปภายในมีเงินสด 120,000 บาท ส่วนเพื่อนร่วมแก๊ง 2 คน เฝ้าดูผู้เสียหายและนำปืนลูกโม่มาถือไว้ในมือข่มขู่ผู้เสียหายไม่กล้าขัดขืน นายกิตติชัยนำกุญแจรถเอ็มจีจากกระเป๋าผู้เสียหายขับหลบหนีไปใช้เส้นทางถนนเกษตร-นวมินทร์ คนร้ายอีก 2 คนขู่สำทับด้วยว่าหากขัดขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลัง จากนั้นทั้งคู่ขึ้นรถเก๋งโตโยต้าขับหลบหนีไปทางเดียวกัน
เมื่อเพื่อนชาวไทยมาถึงทราบเรื่องพาไปแจ้งที่ สน.ลาดพร้าว ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเส้นทางหลบหนี รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ตามจับได้ 2 คน เหลือนายฐิติพงษ์ อยู่ระหว่างตามจับตัว
จากการสอบสวนนายกิตติชัย ให้การว่า นายฐิติพงษ์ และนายพงษ์พัฒน์ชวนไปปล้นทรัพย์ชาวต่างชาติ คิดว่าผู้เสียหายไม่น่าไปแจ้งความ หลังก่อเหตุได้เงินส่วนแบ่ง 40,000 บาท ส่วนรถเก๋งผู้เสียหายนำไปส่งให้ลูกพี่ที่ตลาดแถวย่านสายไหมตรวจ
สอบประวัติผู้ต้องหา นายกิตติชัย เคยถูกจับเล่นการพนันไฮโล สน.ทุ่งมหาเมฆ ปี 57 ครอบครองยาเสพติดประเภท 1 สน. ปทุมวัน ปี 57 และร่วมกันลักรถจยย.และรับของโจร สน.ปทุม วัน ปี 63 นายพงษ์พัฒน์ เคยถูกจับชิงทรัพย์ สน.บางนา ปี 56 และนายฐิติพงษ์ เคยถูกจับครอบครองยาเสพติด ลักทรัพย์และรับของโจร สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ปี 55 คดียักยอกทรัพย์ สน.บางขุนเทียน ปี 59 คดี และฉ้อโกงอีก 6 คดี
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวส่งผลให้ต่อภาพลักษณ์ตำรวจและทำให้การท่องเที่ยวของประเทศเสียหาย สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบและเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี พบว่าคนร้ายแอบอ้างเป็นตำรวจก่อเหตุปล้นทรัพย์เหยื่อ พร้อมทั้งให้ขยายผลว่าก่อเหตุมาก่อนหน้านี้อีกหรือไม่
ขอให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นในความปลอดภัย ทางตำรวจบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน อาทิ เจ้าหน้าที่ตม. ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจนครบาล วางมาตรการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามายังประเทศไทย.