พบระเบิดโยงบึ้มหน้ารามปี 2556 – สั่งกองปราบฯสแกนวงจรปิดสถานีรถไฟหาดใหญ่เชื่อเป็นต้นทางคนร้าย
แหล่งข่าวในชุดสืบสวนคดีระเบิดภาคใต้กล่าวว่า จากการสืบสวนและวิเคราะห์วัตถุพยานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบปากคำชายชาว อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาสอบสวนก่อนหน้านี้ พบว่าเหตุระเบิดดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่ย่านรามคำแหงเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2556 โดยครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจับกุมตัว นายอัฟฟาฮัม สะอะ ชาวปัตตานี , นายอิดริส สะตาปอ ชาวนราธิวาส , นายคัมคีร์ ลาเต๊ะ ชาวปัตตานี และนายอิลรอเฮ็ง แวแม ในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , กระทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น,ร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุสมควรมาดำเนินคดี หลังสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้ร่วมกันประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง แล้วนำไปวางไว้ บริเวณจุดทิ้งขยะ หน้าร้านออกัส รามคำแหง 43/1 จนระเบิดขึ้นทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย และมีร้านค้าแผงลอย อาคารบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย ซึ่งศาลอาญาได้พิพากษาลงโทษให้จำคุกทั้ง 4 คนเป็นเวลาคนละ 50 ปี เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558
ทั้งนี้การสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาที่วางระเบิดหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยเฉพาะการประกอบระเบิดที่น่าจะเป็นฝีมือของ นายอาหะมะ เลงหะ อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 1 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และมีประวัติเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสำคัญหลายคดี และล่าสุดพบว่ามีดีเอ็นเออยู่ในที่เกิดเหตุที่ จ.ภูเก็ตอีกด้วย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับ และกำลังเชื่อมโยงขบวนการผู้ก่อเหตุทั้งหมดเพื่อให้เห็นภาพรวมของการก่อเหตุว่ามีความเกี่ยวพันกันอย่างไรบ้าง
แหล่งข่าวชุดสืบสวนกล่าวด้วยว่า ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ซึ่งมีชื่ออยู่ในคณะทำงานคลี่คลายคดีระเบิด จัดชุดสืบสวนกองปราบปรามเข้าไปร่วมคลี่คลายด้วย ล่าสุด พล.ต.ท.ฐิติราช ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองปราบปราม (ผกก. 5บก.ป.) ลงพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสนับสนุนทีมสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 7 ขณะที่เดียวหันสั่งการให้ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก. 6 บก.ป. ลงพื้นที่ จ.ตรัง เพื่อคลี่คลายคดีระเบิด ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุทั้งช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา อย่างละเอียดเพราะเชื่อว่าจะเป็นจุดที่คนร้ายใช้เป็นต้นทางเดินทางขึ้นไปก่อเหตุวางระเบิดในหลายจังหวัดของภาคใต้ โดยขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบหาผู้ต้องสงสัยตลอด 24 ชั่วโมง