Friday, November 22, 2024
More
    Homeจู้หูกกรู้สถิติ หงส์ดูดี ขี่ไก่

    สถิติ หงส์ดูดี ขี่ไก่

    สถิติ

    จู้กหู้กกู้กราบสวัสดี ณ.เวลานี้ประเทศไทยเข้าหน้าฝนแล้วเหมือนจะดับร้อนลงไปได้มากอยู่ แต่..การเมืองบ้านเราดันร้อนปรอทแทบแตก 55+

    จู้กหู้กกู้ไม่ยุ่ง ขอข้ามไปฟุตบอลนัดสุดท้ายของถ้วยใบใหญ่ยุโรปก่อนจะปิดฤดูกาล 2018-2019 ดีกว่า

    วันนี้ขอเอาสถิติของคู่ชิงและเรื่องราวย่อยๆมาฝากเพื่อนๆ

    อีก 1 สัปดาห์ เกมที่แฟนๆรอคอย อย่างศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศระหว่าง สเปอร์ส กับ ลิเวอร์พูล ในวันที่ 1 มิถุนายน 2562

    “ไม่ใช่จู้กหู้กกู้มองข้ามยูโรปา ลีก ระหว่าง อาร์เซน่อล กับ เชลซี ไป เพราะถ้วยยุโรป้าปีนี้ก็ถือเป็นคู่ที่น่าติดตามไม่แพ้กัน” แต่ขอถ้วยใบใหญ่ก่อน อิอิ

    ศึกไก่ตีกับเป็ด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ หรือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ใครจะได้คว้าแชมป์ไปครอง ก็ถือว่าเป็นโทรฟี่ใบแรกกับต้นสังกัดด้วยกันทั้งคู่

    เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คุมทีมมาตั้งแต่ปี 2014 แม้ว่าจะยกระดับให้ สเปอร์ส ก้าวขึ้นเป็น “ท็อปโฟร์” ด้วยการพาทีมลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกอย่างต่อเนื่อง

    ส่วนทางกุนซือ “หงส์แดง” อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2015 พาทีมเข้าชิงแชมป์ถึง 3 รายการทั้งในลีก คัพ และ ยูโรปา ลีก ในปี 2016 รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่..กวาดบทพระรองหมด 55+

    ทั้งสองคนต่างมีฝีมือไม่ธรรมดาในการยกระดับต้นสังกัดให้แข็งแกร่งขึ้นมาจนเป็นที่ยอมรับ

    คืนวันที่ 1 มิถุนายน จะได้รู้กัน ว่าใครจะแชมป์ใครจะว่าว โทษๆมือลั่น ใครจะรองแชมป์ 55+

    ผลงานในบอลยุโรป

    ทั้งสองทีมพลิกสถานการณ์จากที่แพ้มาก่อนในเกมแรกในรอบรองชนะเลิศ โดย ลิเวอร์พูล ถล่ม บาร์เซโลน่า 4-0 ที่แอนฟิลด์ หลังโดนอัด 0-3 ในเกมแรก เอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 4-3

    ขณะที่ สเปอร์ส แพ้คารังให้ อาแจ็กซ์ ก่อน 0-1 แถมเกมที่สองยังตามหลัง 0-2 แต่ยิงสามประตูรวดเอาชนะ 3-2 รวมผลสองเกมเสมอ 3-3 แต่เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน

    ลิเวอร์พูล มองหาแชมป์ถ้วยใหญ่ของยุโรปเป็นสมัยที่ 6 ของสโมสร หนล่าสุดที่ได้แชมป์คือการพลิกโค่น เอซี มิลาน เมื่อปี 2005

    ขณะที่ทาง สเปอร์ส เข้าชิงแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรกของสโมสร,

    ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเข้าถึงรอบตัดเชือกเมื่อปี 1961/62 สมัยที่ยังเป็นยูโรเปี้ยน คัพ

    ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สถิติดีที่สุดคือรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปี 2010/11

    สโมสรจากชาติเดียวกัน เจอกันในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีกมาแล้ว 6 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2000,

    เรอัล มาดริด เอาชนะคู่แข่งจากสเปนได้ทั้งสามหนในปี 2000 (บาเลนเซีย), 2014 และ 2016 (แอตเลติโก มาดริด)

    ขณะที่ เอซี มิลาน ชนะ ยูเวนตุส ในการดวลจุดโทษในปี 2003

    อีกคู่ บาเยิร์น มิวนิค ชนะ ดอร์ทมุนด์ ในปี 2013

    เป็นการเจอกันของสองสโมสรจากอังกฤษที่มอสโกในปี 2008 โดยเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 หลังเสมอในเวลา 1-1

    สเปอร์ นับเป็นสโมสรที่ 8 ของอังกฤษที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศถ้วยใหญ่ของยุโรป, มากกว่าทุกชาติในยุโรป

    โดยชาติจากเยอรมันและอิตาลีตามมาเป็นอันดับสองที่ 6 ทีม

    ครั้งนี้ถือเป็นการชิงชนะเลิศในศึกยูโรเปี้ยน คัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่จัดขึ้นที่เมืองมาดริด

    ก่อนหน้านี้จัดขึ้นในปี 1957, 1969, 1980 และ 2010 – โดยทั้ง 4 ครั้งจัดที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว – ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 8 ที่เกมชิงแชมป์มีขึ้นที่แดนกระทิง

    สถิติพบกันที่ผ่านมา

    ลิเวอร์พูล พบกับ สเปอร์ส มาแล้วทั้งสิ้น 170 เกมรวมทุกรายการ

    “หงส์แดง” ทำได้ดีกว่าด้วยการชนะ 79 เสมอ 43 แพ้ 48

    ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาหนเดียวในบอลยุโรป เกิดขึ้นในศึกยูฟ่า คัพรอบรองชนะเลิศปี 1972/73 โดย ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะก่อน 1-0 ก่อนไปแพ้ 1-2 เข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยกฎประตูทีมเยือน ก่อนเข้าไปชนะ มึนเช่นกลัดบัค 3-2 ด้วยสกอร์รวมสองเกม คว้าแชมป์ไปครอง

    ลิเวอร์พูล แพ้แค่เกมเดียวจาก 14 เกมหลังที่พบกับ สเปอร์ส ย้อนไปเมื่อปี 2013 โดยชนะ 9 เกม

    หงส์แดง เก็บชัยชนะเหนือ ไก่เดือยทอง ด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งสองเกมที่พบกันในลีกฤดูกาลนี้

    นับเฉพาะในเกมชิงชนะเลิศบอลถ้วยทั้งคู่พบกันมาหนึ่งครั้งในเกมลีก คัพปี 1982

    โดย ลิเวอร์พูล ที่ตามหลังก่อนพลิกกลับมาเอาชนะไปได้ 3-1 คว้าแชมป์ไปครอง

    จู้กหู้กกู้ นำมาฝากเป็นน้ำจิ้มแค่นี้ก่อน อาทิตย์หน้าจะกลับมาฟังธง แฟนๆรอสวนกันให้ดี 555+

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments