
”บิ๊กต่อ“ ร่วม “รองเต่า” และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลง เปิดปฏิบัติการ ‘คืนศรัทธา บอกลางมงาย สไตล์ CIB’ ยึดทรัพย์วัดพระบาทน้ำพุ กว่าหมื่นล้าน หลังจับอดีตพระอลงกต และหมอบี
เมื่อเวลา10.30 น. วันที่ 13พ.ย.68 ที่ ห้องแถลงข่าวชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต. ทัศน์ภูมิ จารุปรัชน์ ผบก.ปอศ., พล.ต.ต.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผบก.ปอท., พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส.
ร่วมกับ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน,สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท.,สำนักงาน ป.ป.ง. พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติ Operation Endgame : ปฏิบัติการ “คืนศรัทธา บอกลางมงาย สไตล์ CIB” ทวงคืนทรัพย์สินสู่วัดพระบาทนํ้าพุ มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก.กล่าวว่า หลังจากที่มีการจับกุมพระราชวิสุทธิประชานาถ อลงกต พูลมุข (อดีตหลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และ นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
หลังจากนั้น 3 เดือนผ่านมา ได้ร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส.ต.ง.,ป.ป.ท., ป.ป.ง.,ป.ป.ช. ร่วมมือกับตำรวจ บช.ก. ในการดำเนินการสืบสวนประเด็นต่างๆที่สงสัย
เบื้องต้นสามารถยึดทรัพย์สินได้บางส่วนในการจับกุม แต่เราเชื่อว่าความศรัทธาของประชาชนมีมากกว่าที่เราพบ จากการตรวจสอบพบมีที่ดินของวัดกว่า 7,200 ไร่ รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท จึงเป็นที่มาที่ไปของการดำเนินการแถลงผลความคืบหน้าในการดำเนินการในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.กล่าวว่า หลังจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองราย ได้สืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง มีหลายประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจรวมทั้งหมด 24 ประเด็น ที่ผ่านมา ตำรวจดำเนินการทุกประเด็นเท่าที่ทำได้
ประเด็นใดสามารถดำเนินคดีได้ก็ดำเนินคดีไปแล้ว หรือคดีใดสามารถยึดทรัพย์สินเพื่อนำกลับคืนสู่วัด ก็ดำเนินการเช่นกัน เราทำงานร่วมกันทุกหน่วยเพื่อเรียกคืนศรัทธาของประชาชน และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้น่าเคารพเชื่อมั่น
เราไม่ได้มาทำลาย แต่กำลังวางรากฐานและระบบการตรวจสอบวัดทั่วประเทศ ให้วัดเป็นศูนย์รวมศรัทธาที่โปร่งใสและตรวจสอบได้
สำหรับทรัพย์สินที่ผ่านมา ตำรวจพยายามให้โอกาสกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการเฉพาะกับผู้ที่จำเป็นจริงๆ ทรัพย์สินที่รวบรวมมาได้ขณะนี้ยังไม่ครบถ้วน ยังมีผู้ที่อ้างสิทธิ์ครอบครองหรือปกปิดไว้ ซึ่งตำรวจจะดำเนินคดีอาญาข้อหาฟอกเงิน หรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ทั้งนี้ ชุดสืบสวนมีหลักฐานครบถ้วนจากการทำงานตลอดสองถึงสามเดือนที่ผ่านมา
ดังนั้น ผู้ใดที่ยังไม่นำทรัพย์สินของวัดมาคืน ขอประกาศเตือนเป็นครั้งสุดท้าย เราจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และนำหมายไปถึงตัว เพราะเราได้ให้โอกาสเต็มที่แล้ว บัดนี้หมดเวลาแล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป. กล่าวว่าสืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยา และอาจารย์ประจำภาควิชาสังคม ศาสตร์ (สาขาอาชญาวิทยา) คณะสังคมศาสตร์และมนุษย ศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง พาผู้ร้องเรียนเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (กก.1 บก.ป.) เพื่อให้ข้อมูลว่า หมอบี มีพฤติการณ์ทุจริตเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า หมอบี มีการประชาสัมพันธ์เปิดขอรับบริจาคเงินผ่านโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก ชื่อเพจ “งมงาย สไตล์หมอบี” อ้างว่าเป็นการร่วมทำบุญ โดยจะทำหน้าที่เป็นสะพานบุญนำเงินที่ผู้ร่วมทำบุญโอนเงินเข้ามาในบัญชีที่ตนเองรับบริจาค ไปส่งมอบให้กับ วัดพระบาทน้ำพุ เพื่อที่ อดีตหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี จะนำไปใช้ช่วยเหลือ ผู้ป่วยโรคเอดส์ และตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของวัดฯ
จากนั้นมีการตรวจสอบบัญชีธนาคารของ หมอบี บัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี “ใจฟ้าอาทรประชานาถ โดย นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล” ในการรับเงินบริจาคจากประชาชนทั่วไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ถึง ปี 2568 มีประชาชนบริจาคเงินเพื่อทำบุญให้วัดพระบาทน้ำพุ และบริจาคเงินทำบุญอื่นๆ มียอดเงินหมุนเวียนเข้าบัญชี จำนวน 300 กว่าล้านบาท
จากนั้นตรวจสอบกลับไปที่วัดพบว่า อดีตหลวงพ่ออลงกต ก็ได้รับเงินบริจาคจริงแต่ไม่นำไปเข้าบัญชีของวัด ชุดสืบสวน และ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความและจับกุม อดีตหลวงพ่ออลงกต และหมอบี พร้อมตรวจยึดของกลางที่สำคัญ ดังนี้
1. รถยนต์ 3 คัน รวมมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท (ยึดได้จากบุคคลใกล้ชิด นายเสกสันน์ ที่ใส่ชื่อถือครองรถยนต์ แทนนายเสกสันน์)
2. เงินสด รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,562,350 บาท (ยึดได้จากนายเสกสันน์ 2 ล้านเศษ และ ยึดได้จากอดีตพรพะอลงกต อีก 5 แสนบาท)
3. กระเป๋าแบรนด์เนม 3 ใบ รวมมูลค่าประมาณ 4 แสนบาท (ยึดได้จากภรรยาของนายเสกสันน์)
4. เช็คนำฝากชื่อผู้อื่น จำนวน 21 ใบ มูลค่า 52 ล้าน (ยึดได้ที่ตัว อดีตหลวงพ่ออลงกต ในวันจับกุม)
5. โฉนดที่ดินและเอกสารสิทธิ ทั้งสิ้น 23 ฉบับ พื้นที่ 323 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา
-โฉนดที่ดิน 2 ฉบับ ยึดได้จากนายเสกสันน์ ในวันเข้าจับกุม (มูลค่าที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ร่วม 70 ล้านบาท)
– โฉนดที่ดิน 21 ฉบับ ยึดได้จากการเข้าตรวจค้นวัดพระบาทน้ำพุ
พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์กล่าวอีกว่า หลังจากจับกุมผู้ต้องหาทั้ง2 ราย แล้ว เจ้าหน้าที่กองปราบได้สืบสวนขยายผลเพิ่มเติมพบว่า อดีตหลวงพ่ออลงกต มีความผิด เพิ่มเติมอีกสองข้อหาคือข้อหาปลอมแปลงเอกสาร และ และนำเงินของวัดพระบาทน้ำพุไปให้ผู้อื่นกู้ยืม ขณะนี้ทาง กก.2 บก.ป. กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
ส่วนผลการติดตามทรัพย์สินที่บุคคลอื่นมีชื่อถือครองไว้แทนวัดพระบาทน้ำพุนำกลับมาคืนสู่วัดได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงาน อื่นๆ จนเป็นที่มาของการได้กลับคืนมาซึ่งโฉนดที่ดิน เอกสารถือครองที่ดิน ยานพาหนะ จากผู้ถือครองแทน ดังนี้
1. โฉนดที่ดิน 411 ฉบับ รวมพื้นที่ 2,258 ไร่ 3 งาน 28.5 ตารางวา
2. หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) 389 แปลง รวมพื้นที่ 4,957 ไร่ 2 งาน 74 ตารางวา
3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถตู้ รถกระบะ รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร รถบัส และรถบรรทุก ร่วม 60 คัน รวมที่ดินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางติดตามเพื่อนำมาคืนสู่วัดพระบาทน้ำพุ ได้นั้น เนื้อที่ดิน รวมประมาณ 7,200 ไร่เศษ เมื่อตรวจสอบราคาประเมินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ นั้น มูลค่ารวมประมาณกว่าหมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้รวบรวมหลักฐานเพื่อมอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ดำเนินคดีฟ้องร้องในทางแพ่งเพื่อเรียกร้องเอาเงินจากผู้ที่เอาเงินของวัดพระบาทน้ำพุ ไปอีก ร่วม 200 ล้านบาท
การดำเนินการในครั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หาใช่เพียงมุ่งแต่จับกุมผู้กระทำผิดเท่านั้น แต่ยังคงช่วยเหลือติดตามทรัพย์ จากผู้ที่แอบแฝงถือครองไว้ รวมทั้งหาผลประโยชน์ที่มิชอบจากวัดพระบาทน้ำพุ
เพื่อนำทรัพย์สินที่ซื้อด้วยเงินบริจาคของประชาชน ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคให้กับวัด นำกลับมาสู่วัด เพื่อบริหารจัดการให้ถูกต้องตามระเบียบ และกฎหมายต่อไป อีกทั้งยังคงมุ่งสืบสวนขยายผลหาผู้กระทำความผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการหาผลประโยชน์จากวัดพระบาทน้ำพุ ต่อไปอีกด้วย
พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส.กล่าวว่า สำหรับกรณีเหล่าดารานักร้องที่ตกเป็นข่าว ทางสอบสวนกลางได้เรียกมาสอบถามข้อเท็จจริง เช่น อดีตพระมหาสมปอง ปรากฏว่าเป็นเรื่องการกู้ยืมเงิน ซึ่งเจ้าตัวได้ทยอยคืนเงินแล้ว และนำมาคืนเพิ่มเติมภายหลัง ส่วนกรณีนักร้องหรือตลกชื่อดัง พบว่าเป็นการว่าจ้างไปแสดงคอนเสิร์ต ไม่พบพฤติการณ์ทุจริต
ส่วน 24 ประเด็นที่สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ขณะนี้ดำเนินการตรวจสอบครบถ้วนแล้ว โดยผู้ที่ยังไม่คืนทรัพย์สินให้ทางวัด ส่วนใหญ่เป็นบุคคลภายนอกหรือผู้เกี่ยวข้องที่ถือครองทรัพย์สินอยู่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
สำหรับทรัพย์สินของหมอบี เจ้าหน้าที่สามารถยึดได้เป็นบ้านและที่ดิน 2 แปลง มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท เงินสดประมาณ 2 ล้านบาท รถยนต์ 3 คัน และทรัพย์สินแบรนด์เนมหลายรายการ ส่วนของ อดีตหลวงพ่ออลงกต ยึดทรัพย์สินเป็นเงินสดได้ประมาณ 4-5 แสนบาท

























